Skip to main content
sharethis

ประชาไท—16 มิ.ย. 2549 DSI ร่วมกับมูลนิธิเพื่อนหญิง จับมือมาเลย์ ถกมาตรการปราบขบวนการค้ามนุษย์ หวังช่วยหญิงไทยพ้นซ่องเสือเหลือง NGOs เปิดบ้านพักฉุกเฉินในมาเลย์ ดูแลหญิงต่างชาติถูกบังคับขายตัว ล่าสุดทลายซ่องมาเลย์ช่วย 6 หญิงไทย พ้นเงื้อมมือแก๊งค้ามนุษย์


           


เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 มิถุนายน 2549 ที่โรงแรมนีโอ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กระทรวงยุติธรรม ร่วมกับมูลนิธิเพื่อนหญิง และองค์กรพิทักษ์สตรีในประเทศไทย จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ การบูรณาการข้อมูลการค้ามนุษย์ในจังหวัดภาคใต้ เพื่อสร้างความร่วมมือในการช่วยเหลือเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยกับมาเลเซีย โดยมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องของไทย และเจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชนของไทยและมาเลเซีย เข้าร่วม 40 คน


 


ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า การช่วยเหลือเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์คนไทยในประเทศมาเลเซีย จะต้องผ่านพิธีการทางการทูตเท่านั้น โดยให้ฝ่ายไทยแจ้งข้อมูลไปยังสถานทูตไทยในมาเลเซีย ส่วนการส่งตัวเหยื่อกลับประเทศ จะต้องมีนักจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์ร่วมดูแลด้วย รวมทั้งจะผลักดันให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยกับมาเลเซีย ในการป้องกันและการปราบปราบขบวนการค้ามนุษย์ผิดกฎหมาย


 


ส่วนการดำเนินคดีกับผู้หลอกลวงหญิงไทยไปบังคับให้ค้าประเวณีในมาเลเซีย จะต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติการส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2472 และพระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านคดีอาญา พ.ศ. 2535 ส่วนคนร้ายชาวมาเลเซีย ให้ทางมาเลเซียดำเนินคดีภายใต้กฎหมายมาเลเซีย


 


ทั้งนี้ เวลา 09.00 น. วันที่ 16 มิถุนายน 2549 จะมีการกำหนดกรอบความร่วมมือ การทำความเข้าใจและวางแผนร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายไทยและมาเลเซีย


 


นางสมหมาย รัตนพิทักษ์ นายกไทยคลับ ซึ่งดูแลหญิงไทยในมาเลเซีย แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ขณะนี้องค์กรพัฒนาเอกชนของมาเลเซีย ได้เปิดบ้านพักฉุกเฉินสำหรับเหยื่อค้ามนุษย์ขึ้นในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย เมื่อเดือนพฤษภาคม 2549 โดยเหยื่อทั้งหมดเป็นสตรีชาวต่างชาติ ทั้งคนไทย พม่า ลาว กัมพูชา อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ โดยเป็นคนไทย 6 คน ทุกคนถูกบังคับให้ค้าประเวณี และตำรวจมาเลเซียเข้าไปทลายซ่องช่วยเหลือออกมาได้ จากนั้น ตำรวจได้แจ้งให้สถานทูตทราบ ก่อนจะนำเหยื่อทั้งหมดเข้ามาพักที่บ้านพักฉุกเฉิน เพื่อรอส่งตัวกลับประเทศ


 


นางสมหมาย เปิดเผยด้วยว่า บ้านพักแห่งนี้จะรับได้ครั้งละ 20 คน แต่ละคนมีสภาพจิตใจค่อนข้างแย่ ในส่วนของคนไทยถูกส่งตัวกลับบ้านแล้ว ส่วนใหญ่เป็นคนภาคกลาง นอกจากนี้ยังมีชาวไทยใหญ่อีก 3 คน มีภูมิลำเนาอยู่ที่เมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ขอเข้ามาอยู่ในประเทศไทยด้วย เนื่องจากกลัวรัฐบาลพม่าจะลงโทษ ขณะที่สถานทูตไทยเองก็ไม่ยอมรับ เนื่องจากขาดเอกสารการเข้าเมือง


 


นางสมหมาย เปิดเผยหลังการประชุมว่า สำหรับหญิงไทยทั้ง 6 คน มีอายุ 20 กว่าปี บางคนมีแผลติดเชื้อที่มดลูกอย่างรุนแรง มีอยู่คนหนึ่งเคยทำงานในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น แล้วถูกหลวกลวงชวนมาทำงานโรงงานในประเทศมาเลเซีย อ้างว่ามีรายได้ดี แต่กลับถูกบังคับให้ค้าประเวณี


 


"ผู้หญิงเหล่านี้ไม่สามารถกลับบ้านได้ เพราะนายหน้าขบวนการค้ามนุษย์ไม่ยอมให้กลับมา ต้องอยู่ในห้องตลอดเวลา ถ้าเจ็บป่วยจะนำไปรักษา หรือถ้าจะส่งเงินกลับบ้าน ก็จะนำมาที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อส่งเงินเสร็จจะนำกลับไปขายตัวต่อ บางคนมีโอกาสได้พบแม่ตอนมาส่งเงินที่หาดใหญ่เท่านั้น แต่จะบอกว่าขายตัวไม่ได้ ต้องบอกว่าทำงานเป็นแม่บ้าน" นางสมหมายกล่าว


 


นางสมหมาย เปิดเผยต่อไปว่า ผู้หญิงที่พักอยู่ที่บ้านพักฉุกเฉิน ต้องการความช่วยเหลือเยียวยาด้านจิตใจมาก แต่ขาดอาสามาสมัครที่เข้าใจและทุ่มเทเข้าไปดูแล ขณะนี้มีตนเพียงคนเดียว ในการดูแลต้องระมัดระวังมาก เพราะเกรงขบวนการค้ามนุษย์จะตามทำร้าย แม้แต่เจ้าหน้าที่ทูตเอง ยังถูกตามประกบ ที่ตั้งของบ้านพักฉุกเฉินจึงต้องปิดเป็นความลับ


 


นางสมหมาย เปิดเผยด้วยว่า ยังมีผู้หญิงค้าบริการในมาเลเซียอีกหลายคน ที่ไม่ต้องการกลับประเทศเนื่องจากมีรายได้ดี เคยมีผู้หญิงคนหนึ่งโทรศัพท์มาขอให้ช่วยนำกลับบ้าน แต่เมื่อโทรศัพท์ติดต่อกลับไปอีกครั้ง ปรากฏว่าคนอื่นรับโทรศัพท์แทน แล้วบอกว่าอย่านำตำรวจมาทลายซ่อง เพราะยังมีหญิงไทยอีก 19 คน ที่ต้องการทำงานที่นั่นต่อ สุดท้ายผู้หญิงทั้ง 19 คน ได้ลงขันให้ความช่วยเหลือผู้หญิงคนที่ต้องการกลับบ้านเอง คาดว่าขณะนี้อาจจะกลับถึงบ้านแล้ว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net