สนธิ-สุริยะใส เฉลย "ผู้มากบารมี" ใครก็คิดว่าหมายถึง "ป๋า"

ประชาไท - 1 ก.ค. 49 นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวให้สัมภาษณ์ผู้จัดการออนไลน์กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ระบุว่า มีคนมีบารมีที่อยู่นอกรัฐธรรมนูญ เป็นผู้บงการทำให้เกิดปัญหาทางการเมือง ว่า คำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ไม่ยอมระบุชื่อนั้น ถือว่า เป็นเหลี่ยมทางการเมืองที่ยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว นกตัวแรกเบี่ยงเบนให้สังคมเห็นว่ามีขบวนการนอกรัฐธรรมนูญ หรืออาจเหนือรัฐธรรมนูญคอยจ้องทำลายรัฐบาลทักษิณอยู่ตลอดเวลา

 

นกตัวที่ 2 หวังผลทำร้ายความน่าเชื่อถือของบุคคลที่ถูกพาดพิงถึงโดยตรง ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ รู้ดีว่าเป็นคนที่มีบารมีทางการเมืองจริงๆ

 

"พ.ต.ท.ทักษิณ รู้ดีว่า แม้ไม่ระบุชื่อ แต่ประชาชนก็คงรู้ว่าผู้มีบารมีท่านนั้นเป็นใคร ซึ่งคนทั่วไปก็คงเข้าใจว่า เป็น พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เมื่อคนทั่วไปเชื่อเช่นนั้น และ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ เพราะไม่ได้ระบุว่า ผู้มีบารมีท่านนั้นเป็นใคร แต่ถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้บรรลุจุดมุ่งหมายทางการเมืองในการทำลายความชอบธรรมของอีกฝ่ายไปแล้ว

 

นอกจากนี้ ยังกล่าวอีกว่า "ผมเชื่อว่าคำพูดของคุณทักษิณครั้งนี้ได้สร้างเงื่อนไขให้เกิดการเผชิญหน้า หรือความแตกแยกในสังคมครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง หรืออาจเป็นเงื่อนไขเปิดทางให้มีการรัฐประหารเกิดขึ้นได้ ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่เลิกใช้วิธีการปลุกระดม และชี้เป้ากล่าวหาฝ่ายตรงกันข้าม ก็อาจไม่มีโอกาสแก้ตัวได้เช่นกัน"

 

ส่วน นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจรคอนเสิร์ตการเมือง ครั้งที่ 5 เปิดเผยก่อนเข้ารายการว่า ในวันที่ 3 ก.ค.เวลา 13.30 น. จะเดินทางไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมกับคณะส.ว.รักษาการจำนวนหนึ่ง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในข้อหาละเว้นเมื่อรู้ว่ามีผู้เป็นกบฎกระทำผิดรัฐธรรมนูญตามมาตรา 157 แต่ในฐานะเจ้าพนักงานกลับไม่ดำเนินคดี

 

นายสนธิยังได้วิเคราะห์ถึงคำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ระบุถึงคนมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญที่สร้างความวุ่นวาย โดยเห็นว่าคนมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญมีเพียงคนเดียว หมายถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ซึ่งเป็นประธานองคมนตรีตัวแทนของพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวใช่หรือไม่ แต่ถ้าพูดถึงพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยคงเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่มีบารมี เป็นพวกกุ๊ยข้างถนน

 

ผู้ดำเนินรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ยังวิเคราะห์คำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณ กรณีที่กล่าวว่ามีบางองค์กรหัวหน้าองค์กรถึงกับทำให้การบริหารองค์กรต้องเสียไปพูดอย่างนี้หมายถึงประธานศาลฎีกาหรือเปล่า เพราะจำได้ว่ามีลิ่วล้อของพรรคไทยรักไทยเคยออกมาด่าศาล ถ้าแน่จริงให้บอกมาว่าใช่หรือไม่

 

ส่วนที่บอกว่าทำตามนโยบายที่ร้องขอมานั้น นายสนธิกล่าวว่าไม่รู้ว่าหมายถึงใคร แต่ที่ผ่านมาพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงออกมาแก้วิกฤตของชาติ

 

"เมื่อวันที่ 25 เมษายน พระเจ้าอยู่หัวทรงตรัสให้สามศาลร่วมแก้วิกฤต ดังนั้นที่บอกว่ามีหัวหน้าองค์กรยอมทำให้องค์กรของตัวเองเสียยอมทำตามที่ร้องขอไม่ทราบว่าหมายถึงพ่อหลวงรึเปล่า "

 

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุมีคนกำลังคิดใช้อำนาจนอกระบบเข้ามาครอบงำเพราะหวังจะเป็นนายกรัฐมนตรีตาม มาตรา 7 ว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มาพูดเช่นนี้มีแต่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งและความหวาดระแวงมากขึ้น และหากมีการกระทำเช่นนี้จริง ควรระบุชื่อออกมาว่าใครเป็นคนทำเพื่อจะได้มีการพิสูจน์กันไป

 

นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเช่นกันว่า คำพูดขดังกล่าวของพ.ต.ท. ถ้าไม่ขี้ขลาดและอยากจะประลองกับองค์กรดังกล่าวที่หมายถึงก็ขอให้ตอบมาว่าเป็นองค์กรใด และบุคคลนั้นเป็นใคร เพราะบุคคลท่านนั้นถูกปล่อยข่าวมาตลอดว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการร้องขอให้ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตเลขาธิการ ครม. และนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ ลาออกด้วยความที่รักเหมือนลูกเหมือนหลาน และเป็นคนสงขลาด้วยกัน

 

 

"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา หากพิจารณาทบทวนดูก็จะเห็นว่ามีการโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี อย่างต่อเนื่อง และตั้งแต่เกิดเหตุที่บ้านสี่เสาเทเวศน์ ก็จะเห็นว่ารัฐบาลไม่เคยจับใครได้ รัฐบาลไม่ได้พยายามใช้กลไกที่มีอยู่อย่างจริงจัง ในการคลี่คลายเหตุระเบิด ทั้งนี้ การโจมตี พล.อ.เปรม อย่างต่อเนื่องก็น่าจะเป็นเพราะอาจจะคิดกันว่า ท่านเป็นบุคคลที่คอยขัดขวางการใช้อำนาจของรัฐบาล"

 

นายไทกร พลสุวรรณ ผู้ประสานงานกลุ่มอีสานกู้ชาติ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พูดแบบนี้สร้างความแตกแยกในทางการเมืองเป็นอย่างมาก เพราะกล่าวหา พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ในส่วนที่ระบุว่า คนชราชอบทำอะไรหลบซ่อน เพราะกลัวตกขบวนนั้น เป็นการกล่าวหา พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี

 

นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง รักษาการ ส.ว.กทม. กล่าวว่าหากจะพิจารณาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงใครคงต้องดูในคำพูดที่ว่า "ผู้มีบารมี" พอจะคาดเดาได้ว่าเป็นใคร หากจับตรรกะด้วยคำพูดที่ว่าเป็นคนที่อยู่ภายนอกรัฐธรรมนูญนั้นคงไม่มี แต่ท่านคงหมายถึงบุคคลพิเศษบุคคลที่น่าเชื่อถือ มีบารมีที่มีคนเชื่อมั่นมาก

 

กระบวนการทั้งหมดนี้กำลังบอกถึงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ขาดความมั่นใจอย่างแรง หากดูจากสีหน้าของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่นั่งฟังตอนนี้เขาขาดความเชื่อถือในตัวนายกรัฐมนตรี และเชื่อว่าบ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลงแน่ เพราะฉะนั้นถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงคนก็จะเริ่มกระโดดออกจากเรือ เมื่อเห็นนายบวรศักดิ์ และนายวิษณุไป ข้าราชการคนอื่นหรือนักการเมืองก็คงจะต้องไป จึงสะท้อนว่า ถึงวาระสุดท้าย ต้องปลุกระดม จึงต้องแสดงความเชื่อมั่นอย่างแรงๆ ออกไป ไม่เฉพาะในราชการแต่ปลุกระดม ส.ส.ในพรรค ในเวลาใกล้เคียงกัน มีการให้งบประมาณในการดำเนินการทางการเมืองกับลูกพรรคไปทำงาน เงินก็เป็นตัวหนึ่งที่สร้างความมั่นใจเพราะกำลังจะวิ่งหนีกันหมดแล้ว

 

นายเจิมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในช่วงบ่ายของวันที่ 30 มิ.ย.กลุ่มส.ว.อิสระประชุมกันเพื่อตั้งเป็นองค์กรภาคประชาชน โดยอาจจะเป็นรูปแบบของสโมสร ชมรม หรือมูลนิธิ ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบบ้านเมือง และจะกำหนดท่าทีต่อคำกล่าวของพ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย

 

หลังการประชุม ส.ว.รักษาการกลุ่มอิสระ ได้ร่วมกันลงชื่อจำนวน 12 คน นำโดย นายทองใบ ทองเปาด์ รักษาการส.ว.มหาสารคาม เพื่อทำหนังสือไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ เรียกร้องให้ระบุอย่างชัดเจนว่า บุคคลมีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ หมายถึงใคร เพราะขณะนี้ประชาชนจำนวนมากสงสัยในทางที่สร้างความเสื่อมเสียแก่นายกฯเป็นอย่างยิ่ง และในฐานะรักษาการนายกฯ ซึ่งมีหน้าที่ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ เมื่อทราบว่ามีบุคคลซึ่งใช้บารมีนอกรัฐธรรมนูญ จึงขอเรียกร้องให้นายกฯ ดำเนินการกับบุคลลนั้นโดยด่วน มิฉะนั้นจะเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ

 

ขณะเดียวกัน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ปฎิเสธที่จะพูดถึงประเด็นการเมืองดังกล่าวเพียงแต่ชักชวนให้คนไทยหันมาประหยัด ใช้และนิยมในสินค้าไทยในยุคน้ำมันแพงเท่านั้น

 

ส่วน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่า มีผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญอยู่เบื้องหลังกดดันให้ข้าราชการลาออกนั้น ว่า "ท่านว่าผมมั้ง ไม่เป็นไรหรอก" และยืนยันว่าคงไม่ได้หมายถึงพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี

 

"ป๋าเปรม ท่านเป็นผู้ใหญ่ เป็นคนละระดับกับเราแล้ว" พล.อ.ชวลิต กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท