Skip to main content
sharethis

วันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม 2006 12:45น.


ศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย


 


 


สถานการณ์ช่วงครึ่งเดือนแรกของเดือนกรกฎาคม (1-15 ก.ค.) ที่ผ่านมา ของพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้และใน 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ยังเป็นภาพของเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น ทั้งเหตุวางระเบิด ลอบยิง จนทำให้เกิดการเสียชีวิตและบาดเจ็บ ของเจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชน ขณะเดียวกันการค้นพบอุปกรณ์สำหรับการฝึกฝนของกลุ่มแนวร่วม ทำให้ภาพลางของเครือข่ายผู้ก่อการที่ฝังตัวเคลื่อนไหวในพื้นที่ 3 จังหวัด เริ่มแจ่มชัดมากยิ่งขึ้น


 


ในเช้าของวันที่ 5 ก.ค. เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจที่ 12 ประจำอำเภอบันนังสตา จำนวน 7 นาย ปฏิบัติหน้าที่ชุดลาดตระเวนเส้นทางได้ลาดตระเวนบริเวณถนนสาย 410 ยะลา - เบตง ช่วงบริเวณ หมู่ 11 ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา โดยบริเวณดังกล่าวคนร้ายได้ลอบฝังระเบิดเอาไว้ในท่อระบายน้ำ และทำการกดระเบิด แต่โชคดีที่รถของเจ้าหน้าแล่นผ่านไปประมาณ 10 เมตร ทำให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บเล็กน้อยเพียง 1 นาย คือ ส.อ.ปรีชา โพธิชา ทหารสังกัด ฉก.12 ถูกสะเก็ดระเบิดที่นิ้วมือ


 


หลังจากกดระเบิดคนร้ายได้เปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่ จนเกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับคนร้ายก่อนที่คนร้ายจะล่าถอยไป โดยที่เจ้าหน้าที่ 6 นายที่เหลือปลอดภัยทุกนาย


 


ต่อมาในช่วงเย็น คนร้ายได้ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันขึ้นอีกครั้ง บนถนนสาย 410 บ้านแหร - บ้านซาไก หมู่ 4 บ้านเจาะอาลี ตำบลบ้านแหร อำเภอธารโต จ.ยะลา ในขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารจากพัน ร.103 สังกัดชุดเฉพาะกิจที่ 14 จำนวน 12 นาย ปฏิบัติหน้าที่ ลาดตระเวนเส้นทางโดยรถยูนิม๊อค คนร้ายได้กดระเบิดขึ้น และเปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่ ก่อนจะหลบหนีไป ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 นาย คือ จ.ส.อ.เจริญ แก้วสว่าง จ.ส.อ.เล็ก สิงห์พงษ์ จ.ส.อ.เปรม มีชัย พลทหารวราวุฒิ ชสุนทร และพลทหารฤทธิเดช โกกพันธ์


 


การก่อเหตุของคนร้ายทั้งสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันเดียวกันและสถานที่อำเภอติดกันนั้น เชื่อว่ากลุ่มคนร้าย ต้องการก่อเหตุวางระเบิดหวังผลสังหารเจ้าหน้าที่และชิงอาวุธจากเจ้าหน้าที่ ในลักษณะเดียวกับที่เคยก่อเหตุและทำได้สำเร็จมาแล้วในพื้นที่ ตำบลอาซ่อง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. แต่ทางเจ้าหน้าที่สามารถตอบโต้คุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ทำให้เกิดความสูญเสียน้อยมาก


 


นอกจากเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ถูกซุ่มโจมตีแล้ว ผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในรอบครึ่งแรกของเดือน ก.ค. ยังมีผลงานในการเข้าตรวจค้น จนทำให้เห็นภาพของเครือข่ายการลักลอบฝึกเยาวชนของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ และยืนยันถึงกรณีการฝึกของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบว่า มีอยู่จริง จากการตรวจยึดปืนไม้แบบประดิษฐ์ จำนวน 26 อัน อาวุธปืนพกสั้นพลาสติก จำนวน 4 กระบอก ปุ๋ยยูเรีย 1 ถุง และควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย คือนายอายุ บารอวา อายุ 25 ปี มีพฤติกรรมเป็นครูฝึกให้เยาวชนแนวร่วมกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อเป็นชุด RKK (Runda Kumpulam Kecil) หรือ ชุดจรยุทธขนาดเล็ก ในการออกก่อเหตุการณ์ไม่สงบ


 


สำหรับภาพรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 1 - 15 ก.ค. มีทั้งหมด 36 ครั้ง เกิดเหตุการณ์ขึ้นจังหวัดยะลาและจังหวัดปัตตานีมากที่สุด จำนวน 13 ครั้งเท่ากัน รองลงมาเป็นจังหวัดนราธิวาส จำนวน 8 ครั้ง และจังหวัดสงขลาบางส่วนใน 4 อำเภอจำนวน 2 ครั้ง โดยมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ทั้งหมด 14 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ 3 ราย ประชาชน 11 ราย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ มีทั้งหมด 39 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ 21 ราย ประชาชน 18 ราย


 


เมื่อเปรียบเทียบจำนวนเหตุการณ์ จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตของ 15 วันแรกของเดือน ก.ค.กับจำนวนเหตุการณ์ จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ที่เกิดขึ้นในช่วง 15 วันหลังของเดือน มิ.ย.พบว่า จำนวนเหตุการณ์ลดลง 14 ครั้ง ผู้เสียชีวิตลดลง 3 ราย และผู้บาดเจ็บลดลง 11 ราย


 


ด้านผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ได้มีการค้นทั้งหมด 3 ครั้ง รวม 21 จุด ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส 2 ครั้ง 20 จุด ได้ผู้ต้องสงสัยรวม 3 ราย พร้อมกับปุ๋ยยูเรียและอุปกรณ์ในการฝึกชุดจรยุทธขนาดเล็ก และ จังหวัดยะลา 1 ครั้ง ได้ผู้ต้องสงสัย 5 ราย


 



 


ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net