ภาคใต้—19 ก.ค. 2549 ชุดเฉพาะกิจตำรวจส่วนหน้า บุกสายฟ้าแลบ รวบตัว 4 พ่อค้าหาดใหญ่ พัวพันขบวนการป่วนใต้ เชื่อเป็นมือจัดหาวัสดุประกอบระเบิด ร่วมงานหัวหน้าทีมบึ้มสนามบินหาดใหญ่ จับ 2 มือปืนป่วนใต้ ลูกมืออุสตาซเฮง

รวบ 4 พ่อค้าหาดใหญ่พัวพันป่วนใต้

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2549 ชุดเฉพาะกิจศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จังหวัดยะลา ได้ควบคุมพ่อค้าจำหน่ายนาฬิกาข้อมือในตลาดของหนีภาษี อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา 4 คน จากนั้นนำไปสอบสวนที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า

สำหรับการควบคุมตัวครั้งนี้ สืบเนื่องจากการสอบสวนขยายผลกลุ่มแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบ ที่ถูกจับกุม ที่ให้การสารภาพว่าได้ซื้อนาฬิกาข้อมือ นำไปใช้ประกอบวัตถุระเบิดจากพ่อค้าในตลาดหาดใหญ่ ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้ง 4 คน เป็นชาวจังหวัดปัตตานี และจังหวัดยะลา ที่เข้ามาค้าขายอยู่ในตลาดหาดใหญ่ โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่า ทั้งหมดมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ผลิตระเบิด เชื่อมโยงกับนายไฟซอล หะยีสะมะแอ ครูฝึกประกอบระเบิด ผู้วางระเบิดสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ โดยคนกลุ่มนี้ เป็นผู้จัดหาวัสดุอุปกรณ์ ในการประกอบระเบิดให้กับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ

สอบเครียด2มือปืนป่วนใต้

เมื่อเวลา 09.00 น.วันเดียวกัน ที่ตึกศัลยกรรมอุบัติเหตุชาย โรงพยาบาลปัตตานี พ.ต.อ.วิชัย อินทวงศ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.มูฮำหมัดอิดดือเระ สาหวี รองผู้กำกับการสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอยะรัง ได้เดินทางมาสอบปากคำนายอุสมาน สาและ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 180 หมู่ 1 ตำบลดาโต๊ะ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี และนายมะรอนิง แลแฮ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 หมู่ 1 ตำบลคลองใหม่ อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี ซึ่งถูกจับกุมหลังจากถูกยิงสวนกลับ ขณะบุกยิงเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยประมงน้ำจืดปัตตานี ที่อำเภอยะรัง และถูกนำส่งโรงพยาบาลจังหวัดปัตตานี เพื่อให้แพทย์ผ่าเอาหัวกระสุนออกจากบาดแผลที่ถูกยิง

ในการสอบสวนครั้งนี้ ทั้ง 2 ให้การว่า บุกยิงเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยประมงน้ำจืดปัตตานี ตามคำสั่งของนายเฮง ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง จึงยังระบุไม่ได้ว่า เป็นคนเดียวกับนายบือราเฮง ตาแยะ อุสตาซในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมหรือไม่

พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงค์วรชาติ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า หลังก่อเหตุทั้ง 2 ได้นำรถจักรยานยนต์ฮอนด้าดรีม สีฟ้า ทะเบียน กกธ 665 ยะลา ที่ใช้ก่อเหตุ ไปจอดในบ้านตัวเอง ที่บ้านกาแลสะนอ หมู่ 3 ตำบลคลองใหม่ อำเภอยะรัง ห่างจากจุดเกิดเหตุ 500 เมตร แล้วนำรถจักรยานยนต์ฮอนด้าดรีม สีฟ้า ทะเบียน กทต 909 ปัตตานี ของเพื่อนบ้านขับหลบหนี ก่อนจะถูกจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 5 ตำบลกอลอตังหยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ห่างจากจุดที่จอดรถจักรยานยนต์ทิ้งไว้ 800 เมตร

ยะลาส่ง 73 เยาวชนเข้าร.ร.เสริมสร้างสันติสุขที่เมืองกาญจน์

เวลา 14.30 น. วันเดียวกัน ที่ศาลากลางจังหวัดยะลา นายบุณยสิทธิ์ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ในฐานะผู้อำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดยะลา เป็นประธานส่งมอบผู้ร่วมสร้างสันติสุขแนวร่วมกลุ่มเสี่ยง รุ่นที่ 6/49 ซึ่งจะเข้าอบรมในโรงเรียนเสริมสร้างสันติสุข ระหว่างวันที่ 18 กรกฎาคม 2549 - วันที่ 2 สิงหาคม 2549 ที่โรงเรียนเสริมสร้างสันติสุข ร. 9 พัน 2 จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 73 คน แยกเป็น จากอำเภอเมือง 16 คน อำเภอยะหา 5 คน อำเภอรามัน 17 คน และอำเภอบันนังสตา 35 คน ทั้งหมด ถูกตรวจสอบจัดทำประวัติ รวมทั้งตรวจสอบดีเอ็นเอ และถ่ายรูป โดยสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้าจังหวัดยะลา

นายบุณยสิทธิ์ กล่าวว่า กลุ่มเยาวชนเป็นกลุ่มเสี่ยงและล่อแหลมที่จะถูกชักจูงจากกลุ่มผู้ไม่หวังดี ทางกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัด ลงมาระดับอำเภอ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน จึงนำไปอบรม ทัศนศึกษา เรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับประชาชนในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศไทย เพื่อให้รู้เท่าทันผู้ไม่หวังดีต่อบ้านเมือง และปรับทัศนคติของกลุ่มเยาวชนต่อเจ้าหน้าที่รัฐ รวมทั้งเรียนรู้การประกอบอาชีพต่างๆ เพื่อกลับมาประกอบอาชีพเสริมในหมู่บ้านด้วย

ยันแกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบ กบดานในมาเลย์

เวลา 10.00 น. วันเดียวกัน ที่ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานการรายงานตัวของกลุ่มเสี่ยงแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบ 22 คน จากอำเภอศรีสาคร 7 คน อำเภอรือเสาะ 3 คน อำเภอจะแนะ 4 คน อำเภอระแงะ 2 คน อำเภอบาเจาะ 4 คน และอำเภอเมือง 2 คน

โดยพ.ต.ต.บริภัณฑ์ บริรักษ์ สารวัตรกองวิทยาการ จังหวัดนราธิวาส นำเจ้าหน้าที่วิทยาการมาบันทึกประวัติ เก็บพิมพ์ลายนิ้วมือ และเก็บผลดีเอ็นของกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด ก่อนจะส่งไปอบรมที่โรงเรียนเสริมสร้างสันติสุขอีก 15 วัน

นายประชา กล่าวกับผู้มารายงานตัวว่า กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบพยายามเบี่ยงเบนคัมภีร์อัลกุรอาน ปลุกปั่นให้เยาวชนเกลียดชังเจ้าหน้าที่รัฐทุกรูปแบบ เพื่อประกาศเจตนารมณ์ให้เกิดการฆ่า หรือสังหารคนไทยที่ไม่นับถือศาสนาอิสลาม ทั้งนี้ แกนนำผู้บงการก่อเหตุร้ายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนใหญ่สั่งการจากประเทศเพื่อนบ้าน และรับเงินทุนสนับสนุนจากต่างประเทศ โดยหวังผลเพื่อแบ่งดินแดน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นรัฐปัตตานีดารุสลาม ขณะนี้มีรายงานว่า แกนนำสำคัญหลายคนอาศัยอยู่อย่างสุขสบายในรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย

"จึงอยากเรียกร้องไปยังผู้หลงผิดที่เหลืออยู่ ให้รีบกลับใจหันมาให้ความร่วมกับทางการ และเข้ามาสู่กระบวนการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกันพัฒนาพื้นที่ให้เกิดความมั่นคงต่อไป" นายประชา กล่าว