ประชาไท - 15 ส.ค.2549 ศาลอุทธรณ์จังหวัดราชบุรี อ่านคำพิพากษาคดีนายจอบิ ชาวกะเหรี่ยงซึ่งตกเป็นผู้ต้องหายิงรถนักเรียนโรงเรียนบ้านคาวิทยา กิ่ง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี เมื่อ 4 ปีก่อนทำให้มีนักเรียนเสียชีวิต 3 คนบาดเจ็บ 11 คน โดยระบุว่า จากการพิจารณาคดีตามพยานหลักฐานแล้ว เห็นตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่านายจอบิ ไม่มีความผิด พิพากษายืนให้ยกฟ้อง ทำให้นายจอบินายรับอิสรภาพโดยเด็ดขาด เนื่องจากเป็นเรื่องของข้อเท็จจริง อัยการจึงไม่ยื่นฎีกาและถือว่าคดีถึงที่สุดแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อ 2 ปีก่อนศาลชั้นต้นได้พิพากษายกฟ้องจอบิทุกข้อกล่าวหาไปแล้ว คือ ฆ่า พยายามฆ่า มีและใช้อาวุธปืนสงคราม แต่คงมีความผิดข้อหาเดียวคือหลบหนีเข้าเมือง
ขณะที่พ่อแม่ผู้ปกครองนักเรียนที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตซึ่งเดินทางมาให้กำลังใจนายจอบิเพราะเชื่อว่านายจอบิตกเป็นแพะในคดีนี้ได้เข้าไปกอดนายจอบิพร้อมกล่าวอวยพรให้เขาประสบความสำเร็จในชีวิตหลังจากได้รับเคราะห์กรรมที่ไม่ได้ก่อขึ้น
ด้านนายศิริพันธุ์ เรืองจินดา ทนายความของนายจอบิ กล่าวว่าคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แสดงถึงความยุติธรรมในกระบวนการศาลซึ่งเป็นสถาบันหลักของประเทศ พร้อมทั้งระบุว่าหลังจากได้พูดคุยนายจอบิ เรื่องการฟ้องเรียกค่าเสียหายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ทำให้นายจอบิถูกคุมขังมานานกว่า 1 ปีแล้วคิดว่าจะไม่ฟ้อง แต่อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปด้วยความยุติธรรม และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจถือเป็นอุทาหรณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อไม่ให้มีการจับแพะขึ้นอีก
ส่วนปัญหาเรื่องสัญชาติและข้อหาหลบหนีเข้าเมืองของนายจอบินั้น ข้อเท็จจริงปรากฏว่านายจอบิเกิดในประเทศไทยในป่าอำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี มีบุคคลรู้เห็นจำนวนมาก แต่นายจอบิเป็นชาวกะเหรี่ยงอาศัยอยู่ในป่า จึงตกสำรวจรายชื่อบุคคลในทะเบียนบ้านเช่นเดียวกับชาวกะเหรี่ยงตามแนวชายแดนจำนวนมาก ทำให้นายสุรพงษ์ กองจันทึก นักกฎหมายจากสภาทนายความ เข้าไปช่วยเหลือนายจอบิกับครอบครัวและเรื่องอยู่ระหว่างการดำเนินการ
อย่างไรก็ตาม นายสุรพล ตั้งคำถามว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไรต่อกรณีของจอบิที่ต้องติดคุกโดยไม่ได้กระทำผิด ที่สำคัญจะมีการรื้อฟื้นคดีนี้เพื่อหาผู้กระทำผิดที่แท้จริงหรือไม่
ส่วนนายจอบิ ได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือและให้กำลังใจ ทั้งยังรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถที่ทรงห่วงใยรับตนเองเป็นคนไข้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และทรงมีพระเมตตาพระราชทานเงินจำนวนหนึ่งให้ครอบครัว
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)