3 ก.ย. 2549 - พ.ต.อ.โพธ สวยสุวรรณ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ได้จัดตั้งทีมประชาชนสัมพันธ์ไว้เป็นการเฉพาะ เพื่อรับมือกับกรณีที่เกิดข่าวลือขึ้นในเมืองหาดใหญ่ โดยจะชี้แจงข้อเท็จจริงผ่านสื่อมวลชนทุกแขนงในทันทีเพื่อไม่ให้เกิดความตื่นกลัว โดยเฉพาะในกลุ่มของนักท่องเที่ยว เนื่องจากที่ผ่านมามีข่าวลือเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องว่า มีความพยายามลอบวางระเบิดหรือพบวัตถุต้องสงสัยตามสถานที่ต่างๆ จนเกิดผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว

"ขอความร่วมมือประชาชนและสื่อมวลชนอย่าเชื่อข่าวลือ และตีข่าวที่ไม่มีข้อเท็จจริง เพราะเกรงว่าจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว พร้อมกับได้จัดทั้งทีมงานประชาสัมพันธ์เพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้ไว้เป็นการเฉพาะ" พ.ต.อ.โพธ กล่าวว่า

พ.ต.อ.โพธ กล่าวอีกว่า หลายครั้งที่เกิดเหตุสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายหวัดชายแดนภาคใต้ ได้มีการแจ้งเตือนให้ทุกพื้นที่เพิ่มความระมัดระวัง รวมถึงอำเภอหาดใหญ่ด้วย จึงขอความร่วมมือประชาชนรวมถึงสื่อมวลชนว่า หากมีข้อสงสัยในเรื่องใดให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับตนหรือสถานีตำรวจภูธรอำเภอหาดใหญ่โดยตรง

นอกจากนี้ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 กันยายน 2549 ที่ห้องประชุมกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พล.ต.ต.วีรยุทธ สิทธิมาลิก รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ในฐานะร้องผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจแห่งชาติส่วนหน้ายะลา ได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวนคดีคนร้ายลอบวางระเบิดธนาคาร 22 แห่ง ในจังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2549 ที่ผ่านมา เพื่อกำหนดแนวทางการสืบสวน สอบสวน ติดตามกลุ่มคนร้าย โดยศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้าจังหวัดยะลา ร่วมมือกับตำรวจท้องที่ เนื่องจากกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ เป็นเครือข่ายเดียวกัน มีคนสั่งการจุดชนวนระเบิดคนเดียวกัน

พล.ต.ต.วีรยุทธ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนและเก็บหลักฐานที่เกิดเหตุหลายแห่ง พบว่า ระเบิดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุไม่มีชนวนที่เป็นสะเก็ดระเบิด ส่วนผู้ที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ มีสาเหตุเนื่องจากอยู่ใกล้กับกล่องระเบิดจึงถูกแรงอัดจากระเบิดอย่างแรง เป็นเหตุให้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ

ส่วนความคืบหน้าการติดตามคนร้ายนั้น จากการสอบสวนและซักถามผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวได้นั้น ได้ประโยชน์มากพอสมควร ส่วนคนร้ายคนอื่นๆ บางคนเจ้าหน้าที่ทราบตัวแล้วกำลังติดตาม แต่ไม่ขอเปิดเผยจำนวน เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ มีการวางแผน เชื่อมโยงและสั่งการจากคนเดียวกัน โดยเจ้าหน้าที่จะติดตามจากหลักฐานและชิ้นส่วนระเบิดที่เก็บกู้ได้ เป็นแนวทางการสอบสวน