Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 12 ก.ย. 49     วันที่ 11 ก.ย. นางสุนี ไชยรส ประธานคณะอนุกรรมการสิทธิในการจัดการที่ดินและป่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แถลงข้อเท็จจริงกรณีโครงการก่อสร้างถนนลาดยางสายกะเปอร์-ไชยา ว่า อาจเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่า เพราะจะตัดผ่าป่าอนุรักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกรุงและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองยัน  จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งครอบคลุมพื้นที่อำเภอท่าชนะ อำเภอไชยา อำเภอท่าฉาง และกิ่งอำเภอวิภาวดี


 


ทั้งนี้ นายจำนง ประวิทย์ และเครือข่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ลุ่มน้ำคลองยัน ได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิฯโดยตั้งข้อสังเกตว่า ป่าผืนดังกล่าวมีสภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์ มีทัศนียภาพสวยงาม เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่หล่อเลี้ยงชีพชาวสุราษฎร์ธานี นอกจากนี้ยังเป็นผืนป่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่ยังเหลือในภาคใต้ตอนบน มีลักษณะภูมิศาสตร์ที่ยังคงสภาพความต่อเนื่องของระบบนิเวศได้ระดับหนึ่งและเป็นแหล่งรวบรวมพันธุกรรมความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญของประเทศด้วย อีกทั้งหากมีการก่อสร้างถนนตามโครงการดังกล่าวอาจเป็นการเปิดช่องทางสะดวกแก่ผู้ลักลอบตัดไม้ทำลายป่าและกลุ่มนายทุนให้สามารถฉกฉวยผลประโยชน์จากทรัพยากรของชาติได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วย


 


เมื่อคณะอนุกรรมการสิทธิในการจัดการที่ดินและป่าร่วมกับมูลนิธิสืบนาคะเสถียรและชาวบ้านลงพื้นที่ตรวจสอบก็พบข้อเท็จจริงของโครงการดังกล่าวตามการร้องเรียน จึงมีมติเห็นชอบร่วมกันให้กรมทางหลวงและบริษัทในที่ปรึกษาควรยุติการศึกษาและการดำเนินการใดๆเพื่อใช้ผืนป่าคลองยัน-แก่งกรุงในการก่อสร้างถนนลาดยาง


 


ตัวแทนจากมูลนิธิสืบนาคะเสถียร แถลงว่า ปัญหาของโครงการนี้มีบทเรียนการก่อสร้างถนนผ่าป่าที่ผ่านมาในที่อื่นๆ ว่า ปัจจุบันเป็นที่ประจักษ์กันแล้วว่า การก่อสร้างถนนผ่าป่าไม่เพียงแต่เป็นการต้องสูญเสียพื้นที่ป่าอย่างถาวรเท่านั้น แต่จะมีผลกระทบต่อเนื่องด้วย คือการเข้าไปตั้งถิ่นฐานของชุมชนที่อพยพโยกย้ายตามถนนเข้าไป


 


ปัจจุบันแม้โครงการนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว ก็ยังมีความพยายามของกลุ่มนายทุนเข้าไปจับจองพื้นที่ป่าตามแนวเส้นทางที่โครงการฯ วางแผนตัดถนนผ่านอย่างต่อเนื่องด้วย


 


ด้านชาวบ้านที่คัดค้านกรณีการตัดถนนผ่าพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกรุงและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองยัน ได้เสนอภาพรวมของผลกระทบที่เห็นเป็นรูปธรรมว่า การขยายพื้นที่สองฝั่งถนนจะทำให้ระบบนิเวศถูกตัดขาดอย่างถาวร  เมื่อลงสำรวจพบการแพร่กระจายของรอยเท้าสัตว์ป่าอย่างชุกชุม เช่น รอยกระทิง หมูป่า รอยช้าง กวางป่า ในแนวเขตถนนที่จะตัดใหม่


 


นอกจากนี้ จากการสำรวจป่าตามแนวก่อสร้าง ก็พบการตัดไม้ขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก โดยมีการทำสัญลักษณ์เพื่อจับจองเป็นเจ้าของพื้นที่ตามแนวที่โครงการถนนจะตัดผ่าน ดังนั้นผลที่ได้จากการสำรวจป่าตามแนวก่อสร้างถนนดังกล่าว ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเห็นว่า เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องหารือเพื่อหาข้อยุติของโครงการนี้ โดยเสนอแผนการแก้ไขระยะสั้นต่อรัฐบาลและกรมทางหลวงให้ยกเลิกโครงการนี้โดยด่วน และกำชับให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์ไม้ ต้องดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาการบุกรุกจับจองพื้นที่ด้วย


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net