นิตยสารรายสัปดาห์พลเมืองเหนือ
ประมูลแล้ว 6 สัญญาพนังกั้นน้ำ
ความคืบหน้าโครงการก่อสร้างการพนังกั้นน้ำปิงในเขตเมืองที่กรมโยธาธิการและผังเมืองเสนอเข้าอยู่ในแผนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ และเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากถึงความจำเป็น ความเหมาะสม และประสิทธิภาพการใช้งานจริงนั้น ล่าสุด ขณะที่ประเทศไทยกำลังอยู่ในระหว่างเปลี่ยนผ่านเกิดการรัฐประหาร ยึดอำนาจการบริหารงานของรัฐบาลทักษิณเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ปรากฏว่า กรมโยธาธิการและผังเมืองได้เปิดให้ผู้รับเหมาเสนอราคาโครงการดังกล่าวด้วยวิธี อี -ออคชั่น ในวันที่ 29 กันยาย 2549 ทันที
แหล่งข่าวในสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองเชียงใหม่ ยอมรับว่าได้มีการประมูลโครงการนี้ไปในวันดังกล่าวจริง โดยเป็นการดำเนินงานของกรมโยธาธิการและผังเมื่อส่วนกลางที่ได้ประกาศหาผู้สนใจมาดำเนินโครงการดังกล่าวก่อนหน้านี้แล้ว โดยแบ่งสัญญาก่อสร้างเป็น 6 สัญญา วงเงินงบประมาณเบื้องต้น 680 ล้านบาท และคาดว่าน่าจะได้รับทราบว่าใครเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดแล้ว แต่ยังไม่ได้แจ้งมายังสำนักงานฯ
"การเปิดประมูลครั้งนี้เป็นไปตามมติครม.เดิมที่เห็นชอบโครงการนี้ และต้องทำให้ทันก่อนสิ้นปีงบประมาณ 2549 ด้วย แต่จะได้ทำหรือไม่ ขณะนี้งบประมาณยังไม่มา ถ้าเงินไม่มีหรือ ครม.ชุดใหม่ไม่เห็นชอบโครงการนี้ก็คงไม่สามารถทำได้"
แหล่งข่าวกล่าวว่า แม้จะได้ผู้รับจ้างแล้ว แต่คาดว่าในท้ายสัญญาน่าจะมีการเขียนกำกับไว้ว่าหากมีปัญหาด้านงบประมาณหรือการยกเลิกโครงการไปโดยความเห็นของกระทรวงมหาดไทยหรือคณะรัฐมนตรีก็สามารถทำได้ ไม่น่าจะเป็นปัญหา ส่วนการที่เปิดประมูลไปทั้งๆ ที่มีการยึดอำนาจการบริหารงานนั้น เห็นว่าการยึดอำนาจไม่ได้ประกาศให้การดำเนินงานต่างๆ หยุดชะงัก โครงการนี้ก็ดำเนินการไปตามระบบ
ทำไปปรับแบบไป
"พลเมืองเหนือ" สอบถามกรณีพื้นที่ก่อสร้างและแบบการก่อสร้างที่ยังไม่ได้ข้อยุติ โดยการออกแบบก่อสร้างทั่วไปจะต้องทราบสภาพพื้นที่ที่ชัดเจนเพื่อการคำนวณแบบและงบประมาณ แต่โครงการนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าพื้นที่ก่อสร้างจะต้องขยายแนวลำน้ำให้ได้ 90 เมตรตามข้อสรุปของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกในลำน้ำปิง ตลอดจนแบบที่ภาคประชาชนไม่ต้องการพนังที่เป็นคอนกรีต
แหล่งข่าวกล่าวว่า เงื่อนไขของการประมูลมีการกำหนดให้ปรับแบบได้ตามสภาพเงื่อนไขข้อเท็จจริง โดยที่ประชุมกันได้ข้อสรุปว่ามีหลายรูปแบบขึ้นอยู่พื้นที่ที่จะใช้สร้าง เนื่องจากพื้นที่ที่จะสร้างพนังค่อนข้างยาวมาก ตั้งแต่บริเวณป่าตัน ยาวไปจนถึง ป่าแดด หรือไม่ก็อาจจะยาวต่อไปอีก นอกจากนี้ความกว้างแต่ละช่วงของแม่น้ำปิงก็ไม่เท่ากัน
"จะปรับรูปแบบในการสร้างไปตามลักษณะของพื้นที่ ซึ่งถ้าตกลงกันได้ก็คงจะไม่มีปัญหา แต่ส่วนที่มีปัญหาคงต้องเว้นไว้ และไปทำในจุดอื่นก่อน โดยเฉพาะปัญหาการรุกล้ำพื้นที่ในจุดที่ตำรวจภาค 5 ที่รุกล้ำแม่น้ำมานั้น จริงๆ แล้วต้องย้ายออกไป เพราะเมื่อดูภาพถ่ายทางอากาศแล้ว พบว่าสร้างกินพื้นที่เข้ามา โดยถ้าจะย้ายออกไปนั้นต้องมีงบประมาณในการสร้างพื้นที่ใหม่ให้เขา ซึ่งในจุดนี้คงต้องรอข้อสรุปก่อน ซึ่งถ้าเคลียร์ได้ก็ทำต่อ แต่ถ้ายังเคลียร์ไม่ได้ ก็คงต้องเว้นไว้ก่อน และถ้าจะทำทั้งเส้นให้เสร็จทีเดียว คงจะไม่มีทางได้ทำเสร็จแน่นอน"
เร่งประมูลหวังผูกงบ 2,000 ล้าน
เป็นที่น่าสังเกตว่า โครงการก่อสร้างพนังกั้นแม่น้ำปิงในเขตเมืองความยาว 10.23 กม ที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมาก โดยยังไม่มีข้อสรุปที่ชัด ได้มีความพยายามเดินหน้าเข้าสู่การประมูลจนได้ เนื่องจากแท้จริงแล้วโครงการดังกล่าวมิได้มีมูลค่า 680 ล้านบาทแต่อย่างใด หากแต่เป็นมูลค่าต่อเนื่องสูงถึง 2,000 ล้านบาท จึงมีความจำเป็นจะต้องก่อหนี้ผูกพันเริ่มต้นในครั้งนี้ให้ได้ก่อนแม้จะเป็นวงเงินเพียง 68 ล้านบาทในปีนี้ก็ตาม เพราะได้มีการตั้งงบประมาณในปี 2550 ไว้อีก 612 ล้านบาท รวมเป็น 680 ล้านบาท ตามรายงานของโยธาธิการและผังเมืองเชียงใหม่
ทั้งนี้ตามแผนเต็มโครงการที่ยื่นเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีที่ไนท์ซาฟารี งบประมาณเต็มโครงการของโครงการนี้คือ 1,354.8 ล้านบาท ในระยะทาง 19.4 กม. และยังมีงบประมาณต่อเนื่องคืองานออกแบบระบายน้ำอีก 680 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณรวมของโครงการจริงคือ 1,925.8 ล้านบาท หากไม่มีการประมูลเพื่อยึด 68 ล้านบาทในปีงบประมาณ 2549 นี้ไว้