"เจ้าท่า" เชียงใหม่ ยอมรับมีแรงเสียดออกใบย้อนหลังสั่งหยุดดูดทรายแม่น้ำปิงเพื่อตรวจสอบทางวิศวกรรมของแม่น้ำและปริมาณทราย ปล่อยให้ดูดมานานร่วม 1 ปี เกิดผลกระทบต่อตลิ่งและตอม่อสะพาน ส่วนการกระทำผิดหรือไม่รอผล สตง.ตรวจสอบ

นายวิเชียร เปมานุกรรักษ์ หัวหน้าสำนักงานกรมขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวี หรือ กรมเจ้าท่าเดิม ได้มีคำสั่งระงับการดูดทรายในแม่น้ำปิง ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ตั้งแต่เชิงสะพานป่าตัน ไปจนถึง ฝ่ายท่าวังตาล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากที่พบการดูดทรายมีผลกระทบต่อประชาชนริมสองฝั่งแม่น้ำปิงและสะพานหลายแห่งที่มีการดูดทรายใกล้หวั่นจะกระทบต่อตอม่อของสะพานจนอาจทำให้เกิดเหตุโศกนาฏกรรมขึ้นมาได้
 

อย่างไรก็ตามการขุดลอกทรายแม่น้ำปิงเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปลายปี 2548 ตามการร้องขอเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่และขยายจุดแคบ 7 จุด ที่มีผลกระทบต่อการไหลของน้ำปิงเป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ซ้ำซาก แต่การขุดลอกโดยรถแบคโฮกลายมาเป็นการดูดทรายหลายจุดเกินความจำเป็นและการดูดทรายกระทำต่อเนื่องมาร่วม 1 ปี ไม่มีการตรวจสอบถึงผลกระทบทำให้ต้องสั่งระงับการดูดดังกล่าว เพื่อทำการตรวจสอบทางเทคนิควิศวกรรมถึงขนาด จุดลึก และปริมาณการไหลของน้ำมีมาตรฐานอย่างไร นายวิเชียรกล่าว

นายวิเชียรกล่าวต่อว่าพบว่า ประชาชนสงสัยว่าปริมาณทรายที่ถูกดูดขึ้นมาจำนวนมากเกินกว่าที่ขออนุญาตไว้กับทางเจ้าท่า จนทำให้ทาง สตง. ลงมาตรวจสอบถึงปริมาณทราย การขออนุญาต และการดูดถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ จนทำให้ขณะนี้มีแรงผลักดัน กดดันจากคนในเทศบาลนครเชียงใหม่ เข้ากดดันให้ทางเจ้าท่า ออกใบอนุญาตย้อนหลังเพื่อส่งให้ สตง.ตรวจสอบ เพราะการดูดทรายออกไปแล้วกลายเป็นนำทรัพย์ของแผ่นดินไปหาผลประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งทรายจำนวนมหาศาลนั้นจะถูกนำไปใช้อย่างไรก็ต้องขึ้นอยู่กับทางจังหวัดโดยผู้ว่าราชการจะดำเนินการ ส่วนเจ้าท่าเป็นเพียงผู้ออกใบอนุญาตเท่านั้น

หัวหน้าเจ้าท่า กล่าวยืนยันว่าจะเดินหน้าดำเนินการตรวจสอบ และให้เป็นไปตามกระบวนการของระเบียบไม่ทำให้เกิดตำหนิส่วนใดส่วนหนึ่งให้เกิดผลกระทบโดยให้เกิดความโปร่งใส ไม่สนใจต่อแรงเสียดทานต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นเพื่อให้ประชาชนและสังคมรับทราบถึงข้อเท็จจริง โดยจะให้ข้อมูลทุกอย่างต่อสตง. และสื่อมวลชนตาม พรบ. ข่าวสารเพื่อให้ทุกอย่างใสสะอาดบริสุทธิ์มากที่สุดผู้ที่กระทำผิดก็ว่าไปตามความผิดนั้นๆ

อย่างไรก็ตาม ทีมวิศวกรรมตรวจสอบของกรมเจ้าท่า กำลังจะเดินทางมาลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยจะเชิญสื่อมวลชนพร้อมประชาชนและเทศบาลนครเชียงใหม่ ร่วมลงมาตรวจสอบร่วมกัน เพื่อให้เกิดความโปร่งใสมากที่สุด