9  ธันวาคม  2549 ท้องสนามหลวง กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงรัฐบาล   พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ  (คมช.) ที่ใช้ชื่อว่า กลุ่มคนรักวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ  ตั้งเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลและ  คมช. รวมถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี

โดยนำภาพถ่ายของ  พล.อ.เปรม   พล.อ.สุรยุทธ์  พล.อ.สนธิ  บุญยรัตกลิน  ประธาน  คมช.   พล.อ.สพรั่ง  กัลยาณมิตร ผช.เลขาธิการ คมช.  ขยายใหญ่มาติดไว้ในตู้พลาสติก และมีการจัดเตรียมมะเขือเทศ 100  กิโลกรัม  และจานกระเบื้องให้ผู้ร่วมชุมนุมมาขว้างไปยังรูปถ่ายดังกล่าว  เพื่อแสดงออกถึงการคัดค้านการกระทำของบุคคลเหล่านี้

วันเดียวกันนี้ แกนนำเครือข่าย 19 กันยาต้านรัฐประหาร เปิดแถลงชี้แจงกิจกรรมชุมนุมเดินขบวนต่อต้านการทำรัฐประหารในวันที่ 10 ธันวาคม โดยนายสมบัติ  บุญงามอนงค์  แกนนำกลุ่ม  กล่าวว่า จะเริ่มต้นรวมตัวกันที่สนามหลวง  ในเวลา  16.00  น.  และจะเดินทางไปที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย  เวลา  18.00  น.  เพื่อเผาร่างรัฐธรรมนูญฉบับทหาร

ด้าน  นพ.เหวง  โตจิราการ  แกนนำสมาพันธ์ประชาธิปไตย  ซึ่งมาร่วมรับฟังการแถลงข่าว  กล่าวว่า การออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ ไม่ใช่การฉวยโอกาส  แต่เคลื่อนไหวเพื่อช่วยเหลือประคับประคองกลุ่มเครือข่าย  19  กันยาฯ  ซึ่งเป็นเลือดใหม่ของประชาธิปไตย

"ขณะนี้มีทหารจำนวน  1,800  นายกระจายเข้าไปในชุมชนทั่วประเทศและกรุงเทพมหานคร  เพื่อควบคุมประชาชน เป็นการขัดกับคำพูดของ  คมช.ที่ระบุว่า การยึดอำนาจทำด้วยสันติ จึงอยากขอให้  คมช.จับตาดูกำลังจากภาคเหนือที่กำลังเข้ามา อยากให้ คมช.ดูแลหอกข้างแคร่ที่อยู่ข้างเดียวกันว่าอาจจะมีการรัฐประหารซ้ำซ้อนขึ้น  ดีกว่าจะมาหวาดระแวงการเคลื่อนไหวของประชาชน"

นพ.เหวงยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ คมช.มีพฤติกรรมแบบเดียวกับเหตุผล  4 ข้อ ที่ใช้ยึดอำนาจ  ทั้งเรื่องการสร้างความแตกแยกในสังคม การส่งทหารไปนั่งเป็นกรรมการบริหารในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจหลายแห่งจึงขอท้าให้ยกเลิกกฎอัยการศึกทั่วประเทศ เพื่อแสดงความจริงใจ อย่าพูดแต่ปาก แต่ไม่แสดงความจริงใจ และ  คมช.จะรู้ว่าประเทศมีความแตกแยกมากขึ้นเพียงใดในการยึดอำนาจครั้งนี้  ทำให้ประเทศชาติขายหน้าต่อประชาคมโลก ขณะนี้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยต่อประชาคมโลก ใกล้เคียงกับสหภาพพม่า  การยึดอำนาจที่มาจากกระบอกปืนเป็นเผด็จการทหาร

…………………………………………………………………….

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์