เจ้าชายจิกมี เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรวัดพระธาตุดอยสุเทพจังหวัดเชียงใหม่ 24 พฤศจิกายน 2549 (REUTERS)
17 ธ.ค. 2549 หนังสือพิมพ์เคินเซล (Kuensel) ของทางการภูฏานได้ออกแถลงการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ในวันนี้ (16ธ.ค.) ระบุว่า สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี ซิงเย วังชุก ซึ่งเป็นสมเด็จพระราชาธิบดีองค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์วังชุก ได้ทรงสละราชสมบัติ พร้อมด้วยอำนาจการปกครองประเทศให้กับเจ้าชายจิกมี เคเซอ นัมเกล วังชุก มกุฎราชกุมาร แล้ว
ในแถลงการณ์ซึ่งได้อ้างถึงพระดำรัสของกษัตริย์วังชุกระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่พระองค์จะทรงมอบหมายความรับผิดชอบให้กับมกุฏราชกุมาร โดยขณะนี้เจ้าชายจิกมี ได้รับมอบอำนาจเต็มในการเป็นประมุขของประเทศ ในฐานะสมเด็จพระราชาธิบดีองค์ที่ 5 แห่งราชวงศ์วังชุก
กษัตริย์วังชุกซึ่งทรงขึ้นครองราชสมบัติเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2517 ได้ทรงประกาศตั้งแต่ปีแล้วว่า พระองค์จะทรงสละราชสมบัติในปี 2551 ซึ่งประเทศภูฏานจะมีการเลือกตั้งอย่างเป็นครั้งแรก
และในรายงานข่าวไม่ได้ชี้แจงถึงเหตุผลที่พระองค์ทรงสละราชสมบัติเร็วกว่าที่คาดไว้
ขณะที่สื่อมวลชนอินเดียแสดงความเห็นว่า พระองค์ทรงมีพระประสงค์เปิดโอกาสให้มกุฏราชกุมารได้แสดงบทบาททางการเมืองก่อนที่ตำแหน่งสมเด็จพระราชาธิบดีจะถูกลดบทบาทลงหลังการเลือกตั้ง
สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย นัมเกล วังชุก ขณะนี้มีพระชนมายุ 51 พรรษา ทรงขึ้นครองราชย์เมื่อปี 2515 ขณะมีพระชนมายุ 17 พรรษา ทรงเป็นกษัตริย์องค์ที่ 4 ของราชวงศ์วังชุก ซึ่งสถาปนาราชวงศ์เมื่อเดือนธันวาคม 2450
พระองค์ทรงมีพระราชดำรัสในการประกาศพระราชประสงค์เกี่ยวกับการสละราชสมบัติเมื่อปี 2548 ว่า เวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเปลี่ยนแปลงระบอบการเมือง คือ เวลาที่ประเทศมีสันติภาพและเสถียรภาพ โดยในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา ทรงเริ่มกระบวนการปฏิรูป ด้วยการพระราชทานพระราชอำนาจให้แก่คณะรัฐมนตรี และมีรัฐธรรมนูญเมื่อปีที่แล้ว
..................
ที่มา: http://www.komchadluek.com
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)