นายกบ หลำโซ๊ะ แกนนำเครือข่ายคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซและโรงแยกก๊าซไทย - มาเลเซียและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เปิดเผยว่า ทางเครือข่ายจะจัดเวที "หยุดกฎหมายเยียบย่ำหลักการศาสนา ท้า"สุรยุทธ์" ให้จุฬาฯ มาสาบาน" ในวันที่ 20 ธันวาคม 2549 ที่มัสยิดบ้านสะกอมใหญ่ ตำบลสะกอม อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เพื่อคัดค้านคำวินิจฉัยกรณีที่ดินวากัฟ ของนาย
นายกบ เปิดเผยต่อไปว่า การจัดเวทีครั้งนี้ จะมีการท้าให้พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี นำนายสวาสดิ์มาสาบานว่าที่ดินแปลงดังกล่าวไม่ใช่ที่ดินวากัฟจริงๆ โดยชาวบ้านในพื้นที่พร้อมออกมายืนยันว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ดินวากัฟแน่นอน เพราะทายาทเจ้าของที่ดินซึ่งยังมีชีวิตอยู่ยืนยันว่า เจ้าของที่ดินได้วากัฟหรือมอบให้เป็นที่สาธารณประโยชน์จริง ซึ่งตามหลักศาสนาอิสลาม เมื่อมีบุคคลยืนยันก็เพียงพอที่จะใช้เป็นหลักฐานได้แล้ว สำหรับที่ดินวากัฟไม่สามารถซื้อขายหรือโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่กันได้
"เราต้องการให้คนได้รับรู้ว่า การเรียกร้องของเราเป็นเรื่องจริง เพราะคนส่วนใหญ่ไปเชื่อจุฬาราชมนตรีว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวไม่ใช่ที่ดินวากัฟ เพราะไม่มีหลักฐาน แต่จริงๆ แล้วมีหลักฐานที่เป็นตัวบุคคล สามารถยืนยันได้ ที่ผ่านมาไม่มีผู้นำศาสนาคนใดที่จะออกมายืนหยัดในหลักการศาสนา เพราะไปเชื่อจุฬาราชมนตรีกันหมด โดยไม่รู้ว่านี่คือความเดือนร้อนของชาวมุสลิม" นายกบ กล่าว
นายสุไลมาน หมัดยูโซ๊ะ แกนนำอีกราย เปิดเผยว่า เมื่อครั้งที่จุฬาราชมนตรี ส่งคนมาตรวจสอบที่ดินแปลงดังกล่าว ไม่ได้แจ้งให้ทายาทเจ้าของที่ดินผู้ให้วากัฟไปยืนยัน รวมทั้งไม่ได้ขอเอกสารหลักฐานไปตรวจสอบ อยู่ๆ ก็มีคำวินิจฉัยออกมาว่า ไม่มีหลักฐานยืนยันได้ว่าเป็นที่ดินวากัฟ ขณะนี้ทางเครือข่ายฯ ได้นำหลักฐานและทำหนังสือยืนยันพร้อมทั้งทายาทไปยืนยันกับสำนักจุฬาราชมนตรีแล้ว โดยเจ้าหน้าที่รายหนึ่งมาพบและรับหนังสือ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง