Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 19 ธ.ค.2549 ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์ รายงานจากลอส แอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ว่า สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.ณพล บุญทับ รองสมุหราชองค์รักษ์ ในฐานะผู้รับผิดชอบประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เดินทางมาบรรยายเรื่องโครงการหลวงและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับพุทธศาสนิกชนในสามจังหวัดภาคใต้ ที่วัดไทย ลอส แอนเจลิส เพื่อให้พระธรรมทูตจากวัดต่างๆ ทั่วรัฐแคลิฟอร์เนีย รวมถึงประชาชนทั่วไปได้เข้าใจถึงสาเหตุของปัญหาภาคใต้อย่างถูกต้อง อีกทั้งเป็นการเผยแพร่พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมีพระราชดำริให้จัดทำโครงการช่วยเหลือราษฎรในพื้นสามจังหวัดภาคใต้ด้วย


 



พล.อ.ณพล บุญทับ


รองสมุหราชองค์รักษ์


ผู้รับผิดชอบประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ


ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ


 


โดย พล.อ.ณพลย้ำกว่า สถานการณ์ในสามจังหวัดภาคใต้ของไทยนั้น เกิดจากขบวนการแบ่งแยกดินแดนสามจังหวัดภาคใต้เพื่อจัดตั้งเป็นรัฐปัตตานี มีการเตรียมงานและวางแผนเป็นอย่างดี แต่ยังมีคนไทยในต่างแดนหลายกลุ่มที่ยังเข้าใจว่า สาเหตุของปัญหาภาคใต้เกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือข้าราชการไปข่มเหงรังแกราษฎรมุสลิมในพื้นที่ หรือทอดทิ้งไม่เอาใจใส่ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ส่วนเป้าหมายของขบวนการแบ่งแยกดินแดนนั้น ส่วนหนึ่งอยู่ที่การทำลายสถาบันหลัก คือสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์


 


"ในเรื่องของชาติ เขาบอกว่า ชาตินี่ก็คือคนกับแผ่นดิน ถ้าทำให้คนหนีไปแผ่นดินก็จะเป็นของเขา เพราะฉะนั้นสวนเงาะ สวนลองกอง สวนยาง นี่เราก็ทำไว้แล้ว ถ้าเจ้าของหนีไปแผ่นดินก็เป็นของเขา ศาสนานี่เป็นจุดอ่อนที่ไม่มีทางต่อสู้ พระพุทธศาสนานี่ยึดหลักสันติ เพราะฉะนั้นแค่วางระเบิด ยิง หรือเชือดคอ อย่างที่วัดเฉลิมนิคมที่ยะลา ก็ปรากฏว่า พระขวัญเสีย มีการสึก ย้ายอพยพหนี ทำให้เกิดวัดร้าง บางวัดก็เหลือองค์เดียวบ้าง ไม่เหลือเลยบ้าง ปีที่แล้วนี่ก็ขาดแคลนพระสงฆ์เป็นจำนวนมาก ส่วนสถาบันพระมหากษัตริย์เขาก็เริ่มโจมตีแล้วทางเว็บไซต์ต่างๆ แต่ก่อนนี้ไม่เคยแตะต้อง เพราะพระองค์ท่านทั้งสองได้ลงไปช่วยตั้งแต่ปี 2516 เป็นต้นมา โครงการพระราชดำริเกิดขึ้นมากมาย"


 


พล.อ.ณพล บุญทับ กล่าวอีกว่าสถานการณ์ความไม่สงบในปัจจุบันนั้นเกิดขึ้นจากการวางแผนงานเป็นขั้นตอนของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน โดยปัจจุบันกำลังพยายามเข้าสู่ขั้นที่เจ็ด คือการปฏิวัติเพื่อยึดพื้นที่ต่างๆ และว่าเหตุร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับพระภิกษุสงฆ์นั้น เป็นเรื่องที่ระมัดระวังได้ยาก


 


"ตอนนี้เจ้าคุณพระเทพศรีพิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส ก็ได้มีประชุมคณะสงฆ์และก็ออกประกาศว่า ขอร้องให้ไม่ให้ออกบิณฑบาตในช่วงนี้ เพราะว่าจะเกิดเหตุร้ายเกิดขึ้น แล้วก็จะทำความเดือนร้อนให้กับกำลังที่คุ้มกันด้วย เพราะเขาใช้การวางระเบิดใส่ไว้ไม่เลือกที่ ในถังขยะ ในท่อน้ำเสีย ในกระถางต้นไม้ที่ตบแต่งไว้ข้างทางเขาก็วางระเบิดไว้กดระเบิดด้วยโทรศัพท์ โอกาสป้องกันนั้นยากมาก ขวัญและกำลังใจของพุทธศาสนิกชนรวมทั้งพระภิกษุสงฆ์ โดยส่วนรวมแล้วขวัญเสียพอสมควร แต่ว่าด้วยพระบารมีทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถได้ทรงห่วงใยและส่งทีมงานต่างๆ เข้าไปช่วยดูแล ช่วยให้ท่านมีขวัญและกำลังใจดีขึ้น หลายกลุ่มก็ยืนหยัดที่จะขออยู่และไม่อพยพไปไหน"


 


พล.อ.ณพล บุญทับ กล่าวด้วยว่า ศาสนามุสลิมถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในสามจังหวัดภาคใต้ โดยชาวมุสลิมส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น


 


"เขาบอกว่ามีมุสลิมเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ที่เห็นด้วยกับขบวนการก่อการร้าย ดูว่าน้อย แต่คิดแล้วก็เป็นแสนนะครับ ไม่ใช่น้อย แล้วเป็นวัยรุ่นทั้งนั้น วัยที่กำลังคึกคะนอง แล้วไปได้รับการฝึกอบรมมาจากต่างประเทศกลับเข้ามาร่วมขบวนการ ถูกปลูกฝังอุดมการณ์เรื่องการแบ่งแยกดินแดน" พล.อ.ณพลกล่าว และว่าปัญหาภาคใต้ จึงเป็นปัญหาระดับชาติ ที่ไม่สามารถจะปล่อยให้ลุกลามต่อไปได้อีก


 


"จุดอ่อนคือเราไม่สามารถเอาคนร้ายมาลงโทษได้ ทำให้กฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ สิ่งที่เราต้องการแค่นี้ ถ้าทำผิดต้องเอามาลงโทษ อย่างในมาเลเซียใครพกปืนพอจับได้ก็แขวนคอไม่เห็นมีใครว่าอะไร ต้องกล้าแล้วทำให้บ้านเมืองเขาสงบ ทำไมเราไม่สามารถทำให้เด็ดขาดได้ เพราะเราใช้ประนีประนอม อะลุ่มอล่วย สมานฉันท์ อย่างนี้ตลอด ผมว่ามันต้องถือทั้งไม้เรียว คือทั้งปลอบและทั้งปราบ ส่วนที่เป็นโจรเราก็ต้องปราบ ส่วนที่เป็นคนดีเราก็ต้องช่วยพัฒนา ไม่ใช่เราจะไปสมานฉันท์กับโจรผมว่าไม่เกิดประโยชน์" รองสมุหราชองค์รักษ์กล่าว


 


เมื่อถามถึงการกล่าวขอโทษชาวมุสลิมของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ว่าส่งผลอย่างไรหรือไม่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พล.อ.ณพลกล่าวว่า นายกฯ พยายามทำดีที่สุดแล้ว แต่ตนเห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ได้ผล


 


"ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น อย่างที่ตากใบ เราต้องยอมรับ ที่ท่านออกมาขอโทษเพราะความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่เรา แต่ไม่ใช่ว่าขอโทษแล้วกูก็ยังไม่ยอมรับอะไรอย่างนี้ มันไม่ใช่ จะเอาการฆ่าทุกวันๆ มาเป็นข้ออ้างอย่างนี้ผมว่าไม่ถูกต้อง เรื่องนี้ก็ได้มีการชดเชยกันไปแล้ว มีการจ่ายเงินค่าอะไรต่ออะไรไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าเขาเห็นแก่ชาติบ้านเมืองควรจะมาร่วมมือกัน เอาซิมาช่วยกันคุณมีปัญหาเดือดร้อนเรามาช่วยกันพัฒนามาแก้ไขคนยากจน คนเดือดร้อนไม่มีงานทำ มาช่วยกันอย่างนี้มันถึงจะพูดกันรู้เรื่อง แต่ถ้าใช้การฆ่าตัดคอยิงทุกวันอย่างนี้มันพูดกันไม่รู้เรื่องแล้ว เพราะฉะนั้นผมบอกว่ามันต้องทั้งปลอบและทั้งปราบ"


 


ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการพระราชดำริในเขตสามจังหวัดภาคใต้ เพื่อช่วยเหลือราษฎรและอุปถัมภ์พระศาสนาของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถนั้น รองสมุหราชองค์รักษ์ กล่าวว่า ประกอบไปด้วยโครงการสำคัญ 6 โครงการ คือ


 


1 โครงการพระสงฆ์นำชัยคุ้มภัยใต้ ที่ทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้นิมนต์พระสงฆ์ทั่วทุกภาคของประเทศเดินทางไปจำพรรษา ณ วัดที่ขาดแคลนพระสงฆ์ในสามจังหวัดชายแดน เริ่มมาตั้งแต่ปี 2548 จำนวน 55 วัด 4 สำนักสงฆ์ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้มีที่ยึดเหนี่ยวทางใจ


 


2 โครงการฝึกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน (อรบ.) ที่ต้องการฝึกราษฎรให้รู้จักป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง รวมกลุ่มประกอบอาชีพและระวังป้องกันตัวเองตลอดเวลา โดยมีสมาชิก 14,113 คนใน 33 อำเภอของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้


 


3 โครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ที่ทรงสละพระราชทรัพย์จัดซื้อที่ดินและสร้างบ้านพักพระราชทานแด่ราษฎรที่หัวหน้าครอบครัวเสียชีวิต หรือทุพลภาพ ปัจจุบันมีสามโครงการคือ 1 บ้านรอตันบาตู ตำบลกะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส มีสมาชิก 150 ครอบครัว, 2 อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส มีสมาชิก 30 ครอบครัว และ3 อำเภอเบตง จ.ยะลา มีสมาชิก 30 ครอบครัว


 


4 โครงการฟาร์มตัวอย่าง เพื่อช่วยราษฎรในพื้นที่ประสบปัญหา ให้มีที่ทำกินไม่ไกลจากหมู่บ้าน และได้เรียนรู้การเกษตร ปศุสัตว์และประมงในครัวเรือน เพื่อให้มีอาหารเพียงพอในกรณีฉุกเฉิน ปัจจุบันโครงการนี้ได้แพร่ขยายไปสามจังหวัดภาคใต้ 16 ฟาร์ม คลุมพื้นที่ 5,076 ไร่ สร้างงาน สร้างรายได้ให้สมาชิกโครงการประมาณ 16,000 คน


 


5 โครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเล (ปะการังเทียม) เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศน์ชายฝั่งให้มีความอุดมสมบูรณ์เหมือนอดีต ช่วยครอบครัวผู้ประกอบอาชีพประมง 7,900 ครอบครัว กว่า40,000 คน คลุมพื้นที่ฝั่งทะเล 119 กิโลเมตรในพื้นที่ 28 ตำบล 8 อำเภอของจังหวัดปัตตานีและนราธิวาส


 


6 โครงการส่งเสริมศิลปาชีพ เพื่อแก้ปัญหาความยากจน การว่างงาน ช่วยเหลือด้านการศึกษาและสุขภาพ รวมทั้งอนุรักษ์ศิลปะ วัฒนธรรม ปัจจุบันมีสมาชิกที่ได้ประโยชน์จากโครงการศิลปาชีพกว่า 30,000 คน


 


พล.อ.ณพล บุญทับ กล่าวด้วยว่า คนไทยในต่างประเทศ สามารถมีส่วนร่วมแก้ไขสถานการณ์ 3 จังหวัดภาคใต้ได้ เริ่มจากมีความเข้าใจที่ถูกต้องเป็นเรื่องแรก ส่วนการช่วยเหลืออื่นๆ นั้น สุดแล้วแต่น้ำใจของแต่ละคน


 


"ถ้าท่านจะช่วยเหลือเพราะเห็นใจคนไทยที่ตกทุกข์ได้ยากอยู่ในขณะนี้ เห็นว่าเขาเดือดร้อนทำมาหากินไม่สะดวก อันนี้เป็นน้ำใจของท่าน ผมมาไม่ได้มาบอกบุญเรี่ยไร แต่ผมอยากจะสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้น แม้จะอยู่ถึงต่างประเทศเราก็เป็นคนที่รักแผ่นดินเหมือนกัน ก็รวมกันได้เอาไปเลยถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ หรือมอบกับท่านเจ้าคุณพระราชธรรมวิเทศ (เจ้าอาวาสวัดไทย ลอส แอนเจลิส) ให้ท่านเข้าไปถวาย รับรองว่าเงินเหล่านั้นถึงประชาชนแน่" รองสมุหราชองค์รักษ์กล่าวในที่สุด


 


ที่มา ไทยทาวน์ ยูเอสเอนิวส์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net