Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

พิณผกา งามสม


 


เรื่องของเวลา ใครบางคนบอกว่าเป็นสิ่งสมมติ....กว่าจะเขียนพ.ศ.ใหม่ถูกและคุ้นเคยกับมันก็ผ่านไปเกือบครึ่งปี พอเริ่มคุ้นกันดี อ้าว! เปลี่ยน พ.ศ.ใหม่ซะอีกแล้ว


 


คนเรามักจะใช้จังหวะของเวลาเป็นจุดเริ่มต้นหรือจุดจบของบางอย่าง ยิ่งอยู่กับความสมมติมาก ก็ยิ่งยึดถือเวลามาก บางคนก็ตั้งคำถาม จะเคาท์ดาวน์กันไปทำไม ในเมื่อโลกต้องหมุนรอบตัวเองตั้ง 24 ชั่วโมง กว่าจะถือเป็นการเปลี่ยนผ่านสู่ปีใหม่อย่างสมบูรณ์


 


อย่างไรก็ตาม จุดตัดของเวลาก็ช่วยอะไรเราได้หลายๆ อย่าง มีอะไรบ้างนะที่คนเราชอบทำช่วงปีใหม่... ท่องเที่ยว จัดเวลาให้ครอบครัว ไปทบทวนตัวเอง บรรดาสื่อต่างๆ ก็คงจะต้องมีการจัดอันดับที่สุดแห่งปี บางคนก็อาจจะได้แรงบันดาลใจลองจัดอันดับแห่งปีให้กับตัวเองบ้าง จะว่าไปการจัดอันดับ ก็คือการใช้จังหวะเวลาเป็นจุดให้ได้ทบทวนอะไรๆ อีกครั้งหนึ่ง


 



ภาพจาก www.locateart.com


 


ช่วงปีที่ผ่านมาของประเทศไทย เรื่องราวมากมายเกิดขึ้นแบบที่คงมีหลายคนอยากให้เป็นแค่เรื่องสมมติ  แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่สามารถปฏิเสธได้เอาเสียจริงๆ กระแสขับไล่ทักษิณ ชินวัตร การเลือกตั้งที่กลายเป็นโมฆะ รัฐประหาร 19 กันยา ทหารและรัฐข้าราชการคืนชีพ ค่าเงินบาทแข็งโป้ก และล่าสุด ตลาดหุ้นทรุดฮวบ โอ...ประเทศนี้ช่างเต็มไปด้วยเรื่องราวอ่อนไหว เหมือนหนังสือที่ถูกเขียนโดยนักเขียนซาดิสม์ ซัดชะตากรรมเข้าใส่ตัวละครกันอย่างไม่บันยะบันยัง


 


นักเขียนคนที่ว่านี้ต้องซาดิสต์มากๆ ด้วยเพราะปูเรื่องมาอย่างซับซ้อนยอกย้อนยาวนาน แต่กลับกำหนดให้ตัวละครความจำสั้นเสียนี่


 


คำถามหนักๆ ที่เกิดขึ้นกับสังคมไทย คิดในแง่ดีก็ดีตรงที่ว่า คำตอบที่จะได้ต้องไม่มักง่ายอีกต่อไป เพียงหวังพึ่งพระสยามเทวาธิราชย์ อาจจะไม่พอแล้ว หรือเพียงรอคอยให้ชนชั้นนำหรือปัญญาชนนักวิชาการคอยให้ทานคำตอบก็อาจจะไม่พออีก อันที่จริงจะว่าสังคมไทยมักง่ายก็คงไม่ค่อยยุติธรรม ที่ใกล้เคียงน่าจะเป็น ประนีประนอม รอมชอมจนเคยชินมากกว่า น่าสนใจว่า เมื่อถึงวันที่เจอคำถามอย่างที่ประนีประนอมอรอมชอมกันไม่ได้อีกต่อไปแล้ว สังคมไทยจะได้รับคำตอบแบบไหน


 


เรื่องราวของปี 2549 คงไม่สามารถจะแฮปปี้เอ็นดิ้งในปีถัดมาด้วยการให้ตอบ หรือคำอธิบาย ไม่ว่าจะเป็น มาตรา 7 สามารถกระทำได้เมื่อการเมืองอยู่ในภาวะสุญญากาศหาทางออกไม่ได้แล้ว เว้นวรรคประชาธิปไตยเพื่อพัฒนาประชาธิปไตย หรือคำตอบล่าสุด ผมยอมเสียหน้าเพื่อให้ชาติรอด (ฟังคล้ายๆ เสียสัตย์เพื่อชาติ ยังไงก็ไม่รู้)


 


คำถามหนักๆ ที่ย้อนกลับไปสู่สังคมไทยที่สำคัญ ที่ประชาไทเคยเสนอผ่านการให้สัมภาษณ์ของนักวิชาการหนุ่ม 2 คนอาจจะเป็นคำถามที่สำคัญมากๆ สำหรับปีต่อไปและต่อๆ ไป นั่นก็คือ จะเอาความดีแบบธรรมราชา หรือจะเอาประชาธิปไตยแบบตรวจสอบถ่วงดุลได้....ซึ่งคำถามจากคนหนุ่ม ก็อาจจะมีคนอาวุโสกว่าตอบมาแล้วบ้าง แว่วๆ เรื่อง อภิชนาธิปไตยขบวนสุดท้ายหรืออะไรสักอย่างนี่แหละ


 


000


 


เรื่องของเวลาน่ะ คนบางคนเขาบอกว่าเป็นสิ่งสมมติ


 


อันที่จริงถ้าจะพูดกันเรื่องจริงหรือเรื่องสมมตินี่ อะไรๆ ก็กลายเป็นเรื่องไม่จริงไปได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการมีอยู่ของชีวิต ความสัมพันธ์ของผู้คน ชุมชน รัฐชาติ แต่ในความสมมตินั้นบางอย่างได้สถาปนาตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และไม่อาจจะปฏิเสธการมีอยู่ได้ ด้วยระยะเวลาที่ยาวนาน เรื่องสมมติบางเรื่องก็กลายเป็นเรื่องจริงในช่วงเวลาหนึ่งๆ และก็ได้ส่งอิทธิพลถึงสิ่งที่แวดล้อมในช่วงเวลานั้นๆ ด้วย อย่างมหาศาลเหลือเกิน


 


คำถามหนักๆ ที่เกิดจากสถานการณ์ยุ่งเหยิงทางการเมืองไทย อาจะทำให้หลายคนท้อแท้ อยากแก้ปัญหาด้วยการหนีไปปลีกวิเวกเสียให้รู้แล้วรู้รอด


 


มันคงจะง่ายดี ถ้าเราจบปัญหาด้วยการบอกว่า "โลกนี้ล้วนสมมติ"


 


แต่ให้ตายเหอะ...ไอ้เรื่องสมมตินี่มันอยู่กะเรานานจริงๆ และอาจจะนานกว่าที่คิดด้วยอีกต่างหาก


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net