นพ.ธเนศ กรัษนัยรวิวงศ์ ผู้อำนวยการกองการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า การนำสเต็มเซลล์ซึ่งเก็บจากเลือดสายสะดือ ไปรักษาโรคต่างๆ เป็นความหวังใหม่ของผู้ป่วย ที่กำลังเป็นที่สนใจเป็นอย่างมาก ประกอบกับในปัจจุบันมีเอกชนหลายรายให้บริการอยู่แล้ว พร้อมทั้งได้แจ้งความประสงค์ที่จะเปิดคลินิกเทคนิคทางการแพทย์พร้อมธนาคารสเต็มเซลล์ด้วย
กองประกอบโรคศิลปะจึงได้ส่งหนังสือขอความเห็นเกี่ยวกับมาตรฐานวิชาชีพจรรยาบรรณ ซึ่งคณะกรรมการสถานพยาบาลได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาหาแนวทางเพื่อจัดทำเกณฑ์มาตรฐานการบริการธนาคารเซลล์ต้นกำเนิด ร่วมกันจัดทำร่างดังกล่าวขึ้นเพื่อการบริการมีมาตรฐาน สามารถคุ้มครองผู้ใช้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 6 และมาตร 15 แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกประกาศกำหนดมาตรฐานการบริการเซลล์ต้นกำเนินเลือดสายสะดือในสถานพยาบาล ซึ่งขณะนี้ร่างดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมให้มีความสมบูรณ์ ซึ่งน่าจะแล้วเสร็จภายในมกราคมนี้
จากนั้นจึงจะนำเข้าในการประชุมคณะกรรมการสถานพยาบาล และเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงนาม ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
นพ.ธเนศ กล่าวอีกว่า ส่วนรายละเอียดในร่างประกาศฯ ฉบับนี้ คลอบคุลมนิยามของเลือดสายสะดือ ธนาคารเซลล์ต้นกำเนินเลือดสายสะดือ และขบวนการเก็บเซลล์ต้นกำเนินเลือดสายสะดือเพื่อใช้สำหรับตนเอง และการกำหนดความรับผิดชอบของผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการสถานพยาบาลทั้งสถานที่ สิ่งแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวก เครื่องมือและอุปกรณ์ในการดำเนินการ การเก็บเลือดสายสะดือที่ได้มาตรฐาน มีคู่มือการปฏิบัติงานเพื่อควบคุมคุณภาพและสามารถอ้างอิงได้ การจัดระบบทะเบียนการลงบันทึกข้อมูลที่เป็นระเบียบโดยเป็นความลับ การโฆษณาในการใช้บริการ
ทั้งนี้ความเห็นเพิ่มเติมจากการประชุมครั้งนี้ หลายประเด็นน่าสนใจอย่างยิ่ง เช่น การให้สิทธิในการให้เจ้าของสเต็มเซลล์สามารถให้สเต็มเซลล์เพื่อประโยชน์ทางการรักษากับพี่ น้องที่มาจากบิดามารดาเดียวกันได้เท่านั้น
.......................
ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)