ประชาไท—31 ม.ค. 2550 เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 30 มกราคม 2550 ศาลจังหวัดสงขลา ได้นัดไต่สวนพยานโจทก์ ในคดีไต่สวนชันสูตรพลิกศพการสังหารหมู่ทีมฟุตบอลบ้านสุโสะ ตำบลธารคีรี อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา 19 ศพ เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2547 มีนายประเสริฐ กาญจนะ ผู้พิพากษาขึ้นนั่งบัลลังก์พิจารณาคดี โดยพนักงานอัยการจังหวัดสงขลาเบิกตัว ส.ต.อ.ธวัชชัย เพ็งลาย ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธรอำเภอสะบ้ายย้อย ซึ่งในวันเกิดเหตุประจำอยู่ที่หน่วยบริการประชาชนตลาดสะบ้าย้อยมาเบิกความ มีญาติผู้เสียชีวิตมาฟังการไต่สวน 19 คน

ส.ต.อ.ธวัชชัย เบิกความว่า เวลา 17.00 น. วันที่ 27 เมษายน 2547 ก่อนวันเกิดเหตุ 1 วัน ได้รับแจ้งจากสถานีตำรวจภูธรอำเภอสะบ้าย้อย ว่าจะมีกลุ่มคนไม่หวังดีเข้าโจมตีและฆ่าเจ้าหน้าที่ในหน่วยบริการประชาชน วันนั้นตนประจำอยู่ที่บังเกอร์ด้านในหน่วยบริการประชาชนกับพวกอีก 3 คน ส่วนที่บังเกอร์ด้านหน้า ซึ่งเป็นบังเกอร์เล็กมี จ.ส.ต.ชาญณรงค์ หนูเลือน นั่งประจำอยู่ ต่อมาเวลา 05.30 น. วันที่ 28 เมษายน 2547 ได้รับแจ้งว่ามีเหตุการณ์คนร้ายโจมตีป้อมตำรวจที่สามแยกบ้านเนียง อำเภอเมืองยะลา และที่กิ่งอำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลา

ส.ต.อ.ธวัชชัย เบิกความต่อไปว่า จากนั้นไม่นานได้มีคนร้ายสองคนสวมเสื้อแขนยาว มีผ้าโพกหัวและปิดหน้า ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาจอดหน้าบังเกอร์ ตรงที่จ.ส.ต.ชาญณรงค์นั่ง จากนั้นคนซ้อนท้ายวิ่งเข้ามาพร้อมกับชักมีดออกมา ตนจึงตะโกนว่า ใช่แล้ว จ.ส.ต.ชาญณรงค์ถามว่าใคร ชายคนดังกล่าวไม่ตอบ แต่กลับวิ่งเข้ามา จ.ส.ต.ชาญณรงค์จึงสั่งให้หยุดพร้อมกับยิงปืนขึ้นฟ้า 1 นัด แต่ชายคนดังกล่าวไม่หยุด จ.ส.ต.ชาญณรงค์ จึงยิงปืนออกไปอีกหนึ่งนัด ชายคนดังกล่าวล้มลง จากนั้นตนเห็นชายวัยรุ่นประมาณ 30 คน ใช้ผ้าคลุมศีรษะ วิ่งออกมาจากร้านอาหารสวยนะ ซึ่งอยู่ใกล้กับหน่วยบริการประชาชนตลาดสะบ้าย้อย จะบุกบังเกอร์ จ.ส.ต.ชาญณรงค์ยิงปืนขึ้นฟ้าอีก 1 นัด กลุ่มชายวัยรุ่นวิ่งกลับไปหลบในร้านอาหารสวยนะและที่บ้านพักครู ฝั่งตรงข้ามกับร้านอาหารสวยนะ ขณะที่จ.ส.ต.ชาญณรงค์ ยิงปืนนัดที่สาม ตนไม่เห็นว่าถูกคนร้ายหรือไม่

ส.ต.อ.ธวัชชัย เบิกความอีกว่า ตนจึงแจ้งเหตุไปยังสถานีตำรวจภูธรอำเภอสะบ้าย้อย พร้อมขอกำลังเพิ่ม ประมาณ 10 นาทีกองกำลังที่ขอไปก็มาถึง เป็นตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรตำบลบ้านโหนด อำเภอสะบ้าย้อย นำโดยร.ต.อ.อุทัย รัตนนล แยกออกเป็นสองกลุ่ม หลุ่มหนึ่งเข้ามายังหน่วยบริการประชาชน ส่วนอีกกลุ่มเข้าไปยังบ้านพักครู ส่วนตนรายงานสถานการณ์ให้ร.ต.อ.อุทัยทราบ ตนกับพวกอีก 4 คน ได้รับคำสั่งให้ประจำอยู่ในหน่วยบริการประชาชนต่อไป

ส.ต.อ.ธวัชชัย เบิกความด้วยว่า หลังจากรายงานสถานการณ์แล้ว ร.ต.อ.อุทัย จึงได้พูดผ่านโทรโข่งเป็นภาษาไทย ขอให้คนร้ายที่หลบอยู่ออกมามอบตัว นานประมาณ 10 นาที จึงได้ยินเสียงปืนออกมาจากร้านอาหารสวยนะ ตนไม่เห็นเหตุการณ์ภายในร้าน จากนั้นจึงได้ยินเสียงปืนดังเป็นช่วงๆ ช่วงแรกดังประมาณ 3 - 4 นัด ช่วงที่สองดังประมาณ 4 - 5 นัด เสียงปืนดังประมาณ 10 นาที เหตุการณ์จึงสงบ

ส.ต.อ.ธวัชชัย เบิกความต่อว่า ตนได้เข้าไปดูภายในร้านอาหารสวยนะ พบศพคนร้าย 3 - 4 ศพ มีปืนยาว ปืนคาร์บิน กระสุนปืนลูกซองสั้น มีด และระเบิดแบบขว้าง ตั้งอยู่ใกล้ศพ ส่วนหน้าบังเกอร์หน้าหน่วยบริการประชาชนพบศพนายสมศักดิ์ บังสมาน และภายในบังเกอร์พบศพนายสักกริยา หัดขะเจ

หลังจากนั้น ทนายความได้ซักค้าน โดยส.ต.อ.ธวัชชัย เบิกความในช่วงนี้ว่า หลังเกิดเหตุ เห็นจ.ส.ต.ชาญณรงค์ ส่งมอบปืนให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบ ขณะเกิดเหตุไม่เห็นคนร้ายขับรถจักรยานยนต์มาตามถนนชาญนุเคราะห์ ผ่านหน้าร้านอาหารสวยนะ ไม่เห็นกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืน ไม่เห็นจ.ส.ต.ชาญณรงค์ ยิงคนร้ายคนที่สองเสียชีวิต และไม่เห็นรอยกระสุนปืนตามฝาผนังร้านอาหารสวยนะ

การเบิกความสิ้นสุดเวลา 15.00 น. ส่วนนัดไต่สวนพยานครั้งต่อไปเวลา 09.00 น. วันที่ 31 มกราคม 2550