Skip to main content
sharethis


 


ประชาไท - 5 ก.พ.2550 ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นางกมลพร วงศ์วิเศษศิริ ซึ่งยังคงอยู่ในสภาพอิดโรยจากความสูญเสียลูกสาววัยเ 9 ขวบ คือ "น้องจ้า" จารุพร วงศ์วิเศษศิริ ได้ให้สัมภาษณ์ไทยทาวน์ฯ ก่อนบันทึกเทปรายการ "เอ็กซิท ยูเอสเอ" ที่สถานีไอพีทีวี โดยช่วงหนึ่ง นางกมลพรกล่าวว่า ในความเป็นพุทธศาสนิกชนนั้น ตนไม่อยากผูกใจอาฆาตมือปืนทั้งสอง แต่เกรงว่าจะมีคนที่ต้องเสียใจอย่างสาหัสเหมือนตนอีก หากมือปืนทั้งสองยังคงลอยนวลอยู่เช่นนี้


 


"เท่าที่ญาติเขาคุยกับตำรวจ ตำรวจเขาแน่ใจมากว่าสองคนนี้คือมือปืน หลักฐานค่อนข้างแน่นหนา เขาก็เลยเสียใจมากที่อัยการไม่ฟ้อง" นางกมลพรกล่าว และว่าขณะนี้ ตนตั้งใจแล้วว่าจะขอต่อสู้แทนลูก โดยจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากสองผู้ต้องหาในคดีแพ่ง ตามคำแนะนำของศูนย์ส่งเสริมชาวไทย


 


"ค่าเสียหายที่จะเรียกร้องไม่ใช่ประเด็นสำคัญเลย เพราะเงินเท่าไหร่ก็เรียกชีวิตของน้องจ้าคืนมาไม่ได้ แต่อยากให้เขารับผิดชอบสิ่งที่พวกเขาทำลงไปบ้าง ไม่เช่นนั้นก็จะไปยิงคนอื่นเขาอีก" นางกมลพรกล่าว


 


คุณแม่ผู้สูญเสียกล่าวด้วยว่า ตนขอบคุณไอพีทีวี และศูนย์ส่งเสริมชาวไทย ที่อาสาเป็นตัวตั้งตัวตีในการเรียกร้องความยุติธรรมให้น้องจ้าครั้งนี้ รวมทั้งขอขอบคุณประชาชนชาวไทยในอเมริกาทุกคน ที่ได้โทรศัพท์เข้ามาบริจาคเงินในการสู้คดีผ่านทางไอพีทีวีด้วย กำลังใจที่ได้รับ ทำให้ตนมีความเข้มแข็งที่จะยืนหยัดเพื่อต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรมให้ลูกสาวต่อไป


 


"ตอนนี้สภาพจิตใจยังแย่มาก คิดถึงลูกมาก ยิ่งนานก็ยิ่งคิดถึงเขา ตอนนี้อยากจะไปบวชที่ไหนสักระยะ แต่ยังไงก็จะทำหนังสือมอบอำนาจเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้กับญาติเอาไว้ก่อน ดิฉันขอบคุณทุกๆ คนมากที่เป็นกำลังใจให้ตลอดมา ขอบคุณจริงๆ ค่ะ" นางกมลพรกล่าว


 


ญาติสนิทของนางกมลพร กล่าวเสริมว่า ตนได้พูดคุยกับนายจอห์น มอตโต้ แห่งสถานีแรมพาร์ท ซึ่งเป็นเจ้าของคดี ทราบว่าขณะนี้ตำรวจยังไม่วางมือในคดีนี้ ยังคงพยายามรวบรวมหลักฐานและพยานต่อไป รวมทั้งกล่าวว่าอาจจะดำเนินคดีสองผู้ต้องหา คือนายซีซ่า ซาโมร่า วัย 23 และนายสตีเว่น คาสทานอน วัย 20 ด้วยข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด หรือข้อหาเกี่ยวกับอาวุธปืน ซึ่งตนเห็นว่าเป็นเรื่องดี แม้โทษของข้อหาดังกล่าวจะเบากว่าข้อหาฆาตกรรม แต่อย่างน้อยก็น่าจะทำให้สังคมมีความปลอดภัยขึ้นบ้าง


 


ญาติสนิทของนางกมลพรกล่าวด้วยว่า ตนยังหวังว่าตำรวจจะรวบรวมหลักฐานและพยานได้มากพอที่สำนักงานอัยการจะทำการฟ้องร้องคดีฆาตกรรมกับสองผู้ต้องหาต่อไปในอนาคต แต่ขณะนี้ตนและนางกมลพร จะดำเนินการเรียกร้องความยุติธรรมให้น้องจ้า โดยการฟ้องสองผู้ต้องหาในคดีแพ่งไปก่อน


ก่อนหน้านั้น ไทยทาวน์ฯ ได้สัมภาษณ์นายคริส ออพเพ่นบอร์น เจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนของสำนักงานอัยการเขตลอส แอนเจลิส ถึงการที่สำนักงานอัยการไม่ส่งฟ้องสองผู้ต้องหาในคดีนี้ โดยเขากล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องปกติในคดีที่หลักฐานไม่แน่นหนาพอ


 


"ถ้าหลักฐานไม่พอ อัยการเขาก็เอาหลักฐานคืนให้ตำรวจบอกว่าไม่พอ ยังฟ้องไม่ได้ ฟ้องแล้วจะเสียคดี หน้าที่ของตำรวจก็คือต้องกลับไปทำงาน ไปหาหลักฐานเพิ่มเติมมาอีก เมื่อไหร่ที่อัยการเห็นว่ามีหลักฐานเพียงพอเขาก็จะฟ้อง อย่าลืมว่าคดีฆาตกรรมไม่มีวันหมดอายุคดี อยู่ที่ว่าตำรวจจะหาหลักฐาน หาพยานได้หรือเปล่า" ฝ่ายสืบสวนของสำนักงานอัยการ ลอส แอนเจลิส กล่าว


 


เมื่อถามย้ำว่า ยังมีความหวังว่าคดีนี้จะถูกส่งฟ้องศาลหรือไม่ นายคริส ออพเพ่นบอร์น ตอบว่า "น่าจะมี" และความโด่งดังของคดีนี้ สร้างความกดดันให้สำนักงานอัยการพอสมควร แต่กระนั้น หากหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะส่งฟ้อง สำนักงานอัยการก็ไม่สามารถทำอะไรได้


 


ด้านนางชัญชนิฐ มาร์เทอเรล ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมชาวไทยกล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจที่ชุมชนไทยยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของน้องจ้าในการต่อสู้คดีแพ่ง โดยขณะนี้ ตนได้ให้ทนายความที่ปรึกษาของศูนย์ฯ มองหาทนายความที่มีความสามารถ และเหมาะสมอยู่


 


"ขั้นแรกคือเราต้องพบกับทนายความที่เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอาญาและกฎหมายแพ่งก่อน ให้เขาดูภาพทั้งหมดแล้วดูสิว่าเขามีข้อเสนออย่างไรบ้าง เราต้องคุยกับทนาย ถ้าเขาเห็นว่าสู้แล้วมีโอกาสชนะ ก็ทันทีเลย ครอบครัวต้องฟ้อง" นางชัญชนิฐ กล่าว และว่าขณะนี้ยังไม่สามารถให้รายละเอียด หรือประเมินค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดีได้


 


"ก็อาจจะใช้ทนายจากองค์กรกฎหมายต่างๆ แต่ปกติคดีแบบนี้มันยากที่เขาจะรับ เพราะมันเป็นคดีที่ยุ่งยากมาก ซับซ้อน อาจจะไปหาสำนักงานกฎหมายที่เขามี pro bono หรือมีทนายความที่ทำงานแบบอาสาสมัคร ไม่คิดเงิน แต่ก็ต้องหาเหมือนกัน เพราะหากทนายไม่เก่งจริงก็ลำบากเหมือนกัน" ผอ.ศูนย์ส่งเสริมชาวไทย ซึ่งเป็นองค์กรไม่หวังผลกำไรที่ทำงานด้านช่วยเหลือผู้ถูกเอารัดเอาเปรียบมานานกว่าสิบปี กล่าวในที่สุด


 


ด้านนายนภดล วงศ์ชัยวัฒน์ ผู้บริหารของสถานีไอพีทีวี กล่าวกับไทยทาวน์ฯ ว่า รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่สามารถมีส่วนร่วมในการเรียกร้องความยุติธรรมให้กับชุมชนไทย เพราะหากปล่อยให้เด็กไทยวัยเก้าขวบถูกยิงเสียชีวิตโดยไม่สามารถเอาผิดใครได้เลยนั้น ตนถือว่าสังคมไทยกำลังถูกรังแก และถูกละเลยโดยภาครัฐ


 


"ขอเรียนว่า ไอพีทีวีจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางรับบริจาคเงินให้กับครอบครัวของน้องจ้าเท่านั้น เราจะทำเหมือนที่เคยรับบริจาคเงินช่วยผู้เดือดร้อนจากน้ำท่วม หรือช่วยครูจูหลิง คือทุกอย่างจะโปร่งใส มีการตรวจสอบรายชื่อและเงินบริจาคได้" นายนภดล วงศ์ชัยวัฒน์กล่าว และว่าการบริจาคเงินช่วยครอบครัวของน้องจ้าเพื่อสู้คดีผ่านไอพีทีวีนั้น สามารถส่งเช็คหรือมันนี่ออร์เดอร์ สั่งจ่าย IPtv โดยเขียนกำกับบนเช็ค หรือบนหน้าซองว่า (น้องจ้า) แล้วส่งมาที่ IPtv 3235 N. San Fernando Rd., #7B, LA, CA 90065 หรือบริจาคทางบัตรเครดิตได้ที่หมายเลขโทรศัพท์   1-866-825-8096, 323-259-2130 หรือจะบริจาคผ่านเว็บไซต์ของไทยทาวน์ฯ (www.thaitownusa.com) ก็สามารถทำได้อย่างสะดวกและง่ายดายเช่นกัน


 


ที่มา: ไทยทาวน์ยูเอสเอนิวส์


 

ข่าวประกอบ: ตั้งรางวัล 50,000 ดอลลาร์นำจับคนร้ายยิงเด็กไทยเก้าขวบ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net