กรรณิการ์ กิจติเวชกุล
กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (เอฟทีเอ ว็อทช์)
ก่อนที่รัฐบาลชุดของ พล.อ.
รวมถึงการทุจริตของนักวิชาชีพหลายต่อหลายคณะ และหลายคนที่รับรองว่า สนามบินสุวรรณภูมิไร้ปัญหา แม้จะเห็นรอยแตกร้าวของรันเวย์ สื่อมวลชนบางส่วนที่ไม่กล้าพูดความจริง หรือถึงขั้นโกหกหลอกลวงประชาชน ถึงขั้นหลอกตัวเอง เพื่อกลบความอัปลักษณ์ของสนามบินสุวรรณภูมิ
อย่างไรก็ตาม คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระ มหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ในขณะนั้นก็เกรงว่า ภาพพจน์ประเทศไทยจะเสียหายในสายตาต่างชาติ หลังจากที่เสียหายมาแล้วจากการที่ทหารยึดอำนาจ จึงตัดสินใจเปิดสนามบินสุวรรณภูมิตามเวลาที่รัฐบาลของ พ.ต.ท.
ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจ ไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ที่เพิ่งผ่านการหารือในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาอยู่ในสภาพที่ใกล้เคียงกันอย่างที่สุด
นาย
แม้ สมาชิก สนช.หลายท่านจะอภิปรายถึงความเสี่ยงต่างๆที่ปรากฏอยู่ในความตกลงฯ ทั้งจากที่รวบรวมจากข้อคิดเห็นของนักวิชาการ องค์กรพัฒนาเอกชน และองค์กรประชาชนภายนอก และจากประสบการณ์ตรงของ สมาชิก สนช. นั้นเอง เพื่อเสนอให้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบ และแก้ไขประเด็นที่จะเป็นปัญหาต่อไปในอนาคต แต่ทั้งรัฐมนตรีพาณิชย์ และคณะเจรจา ก็พยายามชี้แจงว่าไม่มีความเสี่ยงใดๆ ทั้งสิ้น หรือเป็นความเสี่ยงที่สามารถจัดการได้
การอภิปรายที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ถูกตัดให้สั้น เพียงเพราะ สมาชิก สนช.บางคนที่รับเงินเดือนเดือนละ 130,000 บาท ต้องการทำหน้าที่เพียงหายใจรดสภาไปวันๆแล้วก็รีบๆกลับบ้าน ทำให้แม้แต่การหารือที่ได้รับการยกย่องว่า "เป็นความกล้าหาญทางประวัติศาสตร์การเจรจาการค้าระหว่างประเทศของไทย" ก็ไม่สามารถทำได้อย่างจริงจัง และแทนที่จะรับฟังข้อคิดเห็นอย่างเต็มที่ รัฐบาลและทีมเจรจาก็ยึดกุมเวลาการอภิปรายไปมากกว่า 1 ใน 3 ของการอภิปราย 6 ชั่วโมงเศษ
และที่น่าเสียดายที่สุด คือ การที่ สมาชิก สนช.บางคนเห็นปัญหาว่า กำลังถูกรัฐบาลมัดมือชกให้เป็นตรายางสร้างความชอบธรรมให้กับการลงนามความตกลงฯ 900 หน้าที่ปากคนพูดว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้ยังไม่เคยได้อ่านความตกลงฯ ฉบับจริง แต่กลับหน้าชื่นตาบานบอกว่า "ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่ปกติอย่างยิ่ฝ ผมยอมถูกมัดมือชก" เพราะเกรงว่านายกรัฐมนตรีจะ "มือเปล่า" ไปญี่ปุ่น ไม่มีความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจ ไทย-ญี่ปุ่น ไป "จิ้มก้อง" นายกรัฐมนตรีชินโซะ อาเบะ เพื่อแลกกับการยอมรับในรัฐบาลรัฐประหาร และเงินกู้จากญี่ปุ่นในโครงการเมกกะโปรเจค รถไฟฟ้า 5 สายของรัฐบาล
ดังนั้น เพื่อที่ในอนาคต ลูกหลานคนไทยจะไม่ลำบากในการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ขึ้นมาสืบสาวว่า ใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศชาติ และประชาชนรุ่นลูกรุ่นหลานจาก "สนามสุวรรณภูมิแห่งที่
กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (เอฟทีเอ ว็อทช์) จะจัดทำหนังสือเรื่องความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจ ไทย-ญี่ปุ่น เพื่อรวบรวมข้อวิเคราะห์เนื้อหาในแง่มุมต่างๆที่ภาคประชาสังคมต่างๆเห็นว่าเป็นปัญหาไว้
หากในอนาคต ไม่เป็นจริงตามคนกลุ่มนี้วิเคราะห์ไว้ก็จะมีหลักฐานไว้ตามด่าไล่หลังได้ว่า "ไอ้พวกขัดขวางความเจริญ" "ไอ้พวกไม่รักชาติ" ฯลฯ
แต่หากในอนาคต "สนามสุวรรณภูมิแห่งที่
เพื่อจารึกไว้เป็นประวัติศาสตร์เมื่อถึงวัน "สนามสุวรรณภูมิแห่งที่
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)