Skip to main content
sharethis

ประชาไท—21 ก.พ. 2550 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2550 ที่ห้องประชุมสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี นายบุญสม ศิริบำรุงสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเวทีประชาคมมอ.รับฟังความเห็นเกี่ยวกับการออกนอกระบบราชการของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยช่วงเช้ารับฟังความเห็นจากนักศึกษา ส่วนช่วงบ่ายรับฟังความเห็นจากบุคลากรของมหาวิทยาลัย


 


สำหรับประเด็นที่ผู้เข้าร่วมประชุมทั้ง 2 ช่วง ให้ความสนใจมาก คือ การขึ้นค่าธรรมเนียมการศึกษา ที่จะเริ่มเก็บจากนักศึกษาใหม่ปีการศึกษา 2550 เป็นต้นไป เนื่องจากบางสาขาวิชาปรับค่าธรรมเนียมสูงขึ้นเกือบ 300 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลกระทบต่อนักศึกษาและผู้ปกครองจำนวนมาก โดยผู้เข้าร่วมได้ขอให้ยืดเวลาการขึ้นค่าธรรมเนียมการศึกษาออกไปก่อน หรือให้ลดค่าธรรมเนียมลงอีก


 


เป็นที่น่าสังเกตว่า นายบุญสมไม่ยอมชี้แจงประเด็นนี้ และระหว่างผู้เข้าร่วมประชุมแสดงความเห็นเรื่องการขึ้นค่าธรรมเนียมการศึกษา นายบุญสมยังได้เดินออกจากห้องประชุม ก่อนจะกลับเข้ามายังห้องประชุมอีกครั้ง


 


นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมประชุมยังได้สอบถามว่า หากมีการออกนอกระบบแล้ว บุคลากรที่เป็นพนักงานของรัฐ จะได้รับผลประโยชน์ต่างๆ เทียบเท่ากับข้าราชการหรือไม่ นายบุญสมตอบว่า ในระยะ 3 - 4 ปีนี้ จะยังไม่มีการนำมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ออกนอกระบบแน่นอน เนื่องจากมีผู้คัดค้านมาก และร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ยังไม่เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ


 


ผู้เข้าร่วมประชุมยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มีหลายวิทยาเขต เหตุใดจึงงเปิดสาขาวิชาซ้ำซ้อนกับที่มีอยู่แล้วในวิทยาเขตอื่น เช่น การเปิดคณะศิลปศาสตร์ที่วิทยาเขตหาดใหญ่ โดยมีบางสาขาวิชาซ้ำซ้อนกับวิทยาเขตปัตตานี ทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณโดยไม่จำเป็น


 


ส่วนข้อเสนออื่น เช่น ขอให้แยกคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ออกเป็น 2 คณะ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารงาน และให้พัฒนาระบบการรักษาความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น


 


นายปรีชา เกียรติกิระขจร นักศึกษาชั้นปี 3 คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในฐานะผู้ช่วยฝ่ายวิชาการ สภานักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ เปิดเผยกับ "ประชาไท" ว่า ขณะนี้สภานักศึกษาได้ขอให้นายกสโมสรนักศึกษาทุกคณะ ในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ สอบถามผู้บริหารของแต่คณะ ถึงเหตุผลในการกำหนดค่าธรรมเนียมการศึกษาใหม่ ตามประกาศขึ้นค่าธรรมเนียมของมหาวิทยาลัย ที่จะใช้กับนักศึกษาใหม่ ตั้งแต่ปีการศึกษา 2550 เป็นต้นไป โดยมีหลายคณะค่าธรรมเนียมสูงขึ้นจากเดิมถึงเกือบ 300 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อนักศึกษาใหม่ และผู้ปกครองอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ปกครองที่มีฐานะยากจน


 


นายปรีชา เปิดเผยต่อไปว่า เหตุที่ต้องถามผู้บริหารแต่ละคณะก่อน เนื่องจากแต่ละคณะเป็นผู้เสนออัตราค่าธรรมเนียมใหม่ จากนั้นจะมาหารือกันว่า จะเคลื่อนไหวเรียกร้องให้ผู้บริหารทบทวนการขึ้นค่าธรรมเนียมดังกล่าวอย่างไร นอกจากนี้ จะประสานกับองค์การนักศึกษาทุกวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เรียกร้องให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยออกมาชี้แจงถึงเหตุผลการขึ้นค่าธรรมเนียมดังกล่าวด้วย


 


"พวกผมเพิ่งทราบเรื่องการขึ้นค่าเทอมใหม่ เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ช่วงนี้จึงต้องการทราบเหตุผลว่า เหตุใดบางคณะถึงขึ้นค่าเทอมสูงมาก โดยเฉพาะสาขาทางด้านสังคมศาสตร์" นายปรีชา กล่าว


 


นายปรีชา กล่าวว่า มหาวิทยาลัยมีหน้าที่ในการผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพออกสู่สังคม แต่ถ้าขึ้นค่าธรรมเนียมสูงมากเช่นนี้แล้ว ลูกของคนจน ชาวนา หรือคนกรีดยาง จะเอาเงินจากไหนมาจ่าย เท่ากับปิดโอกาสของคนกลุ่มนี้ ที่จะศึกษาเล่าเรียนเพื่อพัฒนาตัวเองให้มีคุณภาพออกสู่สังคม


 


"นักศึกษาที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมตามอัตราใหม่ ถ้าเป็นนักศึกษาที่มีผลการเรียนค่อนข้างต่ำ ต้องลงทะเบียนเรียนในภาคเรียนถัดไปน้อยลง ยังต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเท่ากับคนที่ลงทะเบียนเรียนตามปกติ ส่วนในภาคฤดูร้อน ก็ต้องจ่าย 50 เปอร์เซ็นต์ของค่าธรรมเนียม ซึ่งสูงกว่าค่าธรรมเนียมภาคปกติของปัจจุบัน พวกผมสงสารรุ่นน้อง ต้องมาแบกรับภาระหนักอึ้งแบบนี้" นายปรีชา กล่าว

เอกสารประกอบ

โปรดอ่านตารางเปรียบเทียบค่าเทอมเก่า-ใหม่ ที่ต่างกันเกือบ 300%

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net