ชาวสะเอียบชุมนุมใหญ่ต้านปลุกผี "แก่งเสือเต้น"

 

วันนี้(27 ก.พ.) เวลา 09.09 น. ชาวบ้าน ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ กว่า 2,000 คน ได้ชุมนุมบริเวณหน้าที่ว่าการ อ.สอง จ.แพร่ เพื่อประกาศเจตนารมณ์ในการคัดค้านโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น โดยมีเหตุเนื่องจากการที่นายธีระ สูตะบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายนโยบายให้กรมชลประทานเร่งผลักดันโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น พร้อมกันนี้ได้ทำการเผาหุ่นนายธีระ สูตะบุตร และนายสามารถ โชคคณาพิทักษ์ อธิบดีกรมชลประทาน ซึ่งเป็นตัวหลักในการผลักดันโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นอีกด้วย

 

นายเส็ง ขวัญยืน ผู้ใหญ่บ้านบ้านดอนชัยสักทอง หมู่ 9 ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ หนึ่งในแกนนำชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นมากว่า 18 ปี กล่าวว่า ชาวบ้านเดือดร้อนมายาวนานกว่า 18 ปีแล้ว ทุกแล้งทุกฝน ทุกรัฐบาลต้องหยิบยกเขื่อนแก่งเสือเต้นขึ้นมาปัดฝุ่นทุกปี ทำให้ชาวบ้านต้องออกมาแสดงเจตนารมณ์คัดค้านโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นทุกปี ทั้งที่มีการศึกษามาอย่างชัดเจนแล้วว่าเขื่อนแก่งเสือเต้นไม่คุ้มทุน ส่วนการแก้ปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม ชาวบ้านและนักวิชาการก็ได้เสนอทางออกให้แล้วแต่ทุกรัฐบาลกลับไม่ฟังเสียง พวกเราเดินทางมาครั้งนี้ก็เพื่อประกาศเจตนารมณ์ในการคัดค้านโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นด้วยเหตุด้วยผล หวังว่ารัฐบาลคงจะเข้าใจในเจตนาของพวกเรา

 

นายอุดม ศรีคำภา ชาวบ้านบ้านดอนชัย หมู่ 1 ต.สะเอียบ ได้ปราศรัยชี้แจงว่า การมาแสดงเจตนารมณ์ในครั้งนี้ ชาวบ้านเดือดร้อน ต้องลงทุนลงแรง เติมน้ำมันรถ ห่อข้าวห่อน้ำกันมาเอง เพราะต้องการให้รัฐบาลยกเลิกโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นเสียที และหันไปแก้ปัญหาภัยแล้งน้ำท่วมตามที่มีการเสนอกันมาจากหลายหน่วยงานและนักวิชาการอย่างมหาวิทยาลัยนเรศวร ก็ได้เสนอแผนงานแก้ภัยแล้งน้ำท่วมแบบบูรณาการตั้ง 19 แผนงาน แต่ทำไมรัฐบาลไม่ยอมทำเสียที หากจะสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นก็ให้เอาระเบิดไปทิ้งให้พวกเราชาวบ้านตายเสียให้หมด

 

นายสมาน สร้อยเงิน หนึ่งในแกนนำชาวบ้าน ต.สะเอียบ กล่าวว่า โครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นได้สร้างความกังวลให้กับชาวบ้านมายาวนาน อยากให้รัฐบาลตัดสินใจยกเลิกโครงการอย่างเด็ดขาดชาวบ้านจะได้มีวิถีชีวิตอย่างปกติสุขเสียที การที่รัฐบาลหยิบยกโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นขึ้นมาปัดฝุ่นใหม่อีก เป็นการสร้างความกดดันให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ทำให้เกิดปัญหาต้องออกมาประท้วง สังคมแตกแยก รัฐบาลไม่ควรสร้างปัญหา สังคมกำลังต้องการการความสมานฉันท์ อย่าให้แผ่นดินต้องลุกเป็นไฟอีกเลย

 

นายชาติชาย ธรรมโม แกนนำกลุ่มเยาวชนตะกอนยม กล่าวว่า พวกเราเป็นลูกหลานของชาวบ้าน เมื่อบ้านเรามีภัยก็ต้องช่วยกันปกป้อง ตนเห็นว่าโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น ไม่สมควรที่จะเกิดขึ้น เพราะสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน และยังทำลายป่าสักทองธรรมชาติผืนสุดท้ายของประเทศไทย ส่วนการแก้ไขปัญหาภัยแล้งน้ำท่วมนั้นก็มีวิธีการอื่นๆ อีกมากมาย เช่น การสร้างอ่างขนาดเล็ก การสร้างทางเบี่ยงน้ำ การทำแก้มลิง การปลูกป่าเพื่อรักษาระบบนิเวศ พวกเราเห็นว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองควรคิดให้มาก มองถึงอนาคตของลูกหลานด้วย ไม่ใช่แก้ไขปัญหาหนึ่งแล้วไปสร้างปัญหาให้เกิดในอนาคต ลูกหลานจะประนามเอาได้

 

น.ส.เยาวลักษณ์ ศรีคำภา หนึ่งในแกนนำเยาวชนกลุ่มตะกอนยม กล่าวว่า ชาวบ้านและลูกหลานได้ร่วมกันศึกษาวิจัยจาวบ้าน ได้รู้ได้เห็นว่า ป่าไม้ สัตว์ป่า ระบบนิเวศน์ มีความสัมพันธ์กับชุมชนอย่างลึกซึ้ง จนชาวบ้านขนานนามป่าแม่ยม แม่น้ำยม ว่าเป็นซุปเปอร์มาเก็ตของชุมชน อยากให้รัฐมนตรีได้อ่านได้เรียนวิชาสิ่งแวดล้อม จะได้เห็นความสำคัญของระบบนิเวศ ถ้ารัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ และอธิบดีกรมชลประทานอยากรู้ ชาวบ้านและลูกหลานเยาวชนกลุ่มตะกอนยมยินดีถ่ายทอดวิชาความรู้ให้ จะได้ตระหนักและเข้าใจในความสำคัญของระบบนิเวศ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเวลาประมาณ 12.00 น. ชาวบ้านได้ยุติการปราศรัย พักรับประทานอาหารที่ตระเตรียมกันมาตามอาคารหอประชุม ตามร่มไม้ รอฟังคำตอบจากส่วนราชการว่าจะมีใครมารับหนังสือจากชาวบ้านหรือไม่ ต่อมาเวลาประมาณ 13.30 น. ชาวบ้านได้รวมตัวกันอีกครั้งหนึ่ง และมีนายปัญญา นาคฉ่ำ นายอำเภอสอง ได้ขึ้นเวทีกล่าวต้อนรับชาวบ้าน และยินดีที่เห็นชาวบ้านกระตือรือร้นในการเรียกร้องปกป้องสิทธิของตนเอง หลังจากนั้นนายสมชัย หทยะตันติ รองผู้ว่าราชการ จ.แพร่ ได้เดินทางมารับหนังสือเรียกร้องจากชาวบ้าน และกล่าวว่า จะนำข้อเสนอของชาวบ้านเสนอต่อผู้ว่าราชการ จ.แพร่ เพื่อประสานต่อไปยังรัฐบาลต่อไป

 

หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนชาวบ้านได้อ่านประกาศเจตนารมณ์ในการยืนหยัดต่อสู้คัดค้านเขื่อนแก่งเสือเต้นจนถึงที่สุด พร้อมกันนี้ได้ทำการเผาหุ่น นายธีระ สูตะบุตร รมว.กระทรวงเกษตรฯ และนายสามารถ โชคนาภิทักษ์ อธิบดีกรมชลประทาน ที่สนามหน้าที่ว่าการ อ.สอง และได้แยกย้ายกันเดินทางกลับในเวลาต่อมา.

 





แถลงการณ์ชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น

 

หลังจากการยึดอำนาจ ของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และได้แต่งตั้งรัฐบาลชั่วคราวขึ้นมาบริหารประเทศ โครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นได้ถูกหยิบยกขึ้นมาอ้างถึงเหตุผลของการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วม และน้ำแล้ง อยู่ตลอดเวลาที่ผ่านมาจนถึงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2550 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบนโยบายให้กรมชลประทานเร่งผลักดันโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และน้ำแล้ง อย่างไม่มีเหตุผล และขาดสติปัญญาของผู้นำระดับประเทศ โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อื่น ที่จะได้รับผลกระทบจากโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น ทั้งที่มีแนวทางอื่นๆ ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง โดยที่ไม่ต้องสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นอยู่แล้ว

 

พวกเราชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น ได้ต่อสู้คัดค้านมาเป็นเวลา 18 ปีแล้ว ทั้งที่รัฐบาลหลายต่อหลายรัฐบาล ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาเขื่อนต่างๆ ที่สร้างไปแล้วได้ นับประสาอะไรกับรัฐบาลชั่วคราวอย่างรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งอีกไม่กี่วันก็จะหมดวาระไปแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นใครจะเป็นผู้รับผิดชอบวิถีชีวิตของราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการอพยพจากถิ่นฐาน ซึ่งมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน รวมทั้งผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม ป่าไม้ วัฒนธรรม วิถีชีวิตชุมชนที่จะต้องเสียไปจากการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ว่าใครคนใดคนหนึ่งจะเข้ามารับเงินใส่กระเป๋าแล้วทิ้งปัญหาไว้ให้คนอื่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีความยุติธรรมเลย

 

พวกเราชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น ขอฝากบอกรัฐบาล และท่านรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า หน้าที่ของท่านในตอนนี้คือ ช่วยกันสร้างความสมานฉันท์ให้กับสังคมไทย ไม่ใช่เข้ามาเพื่อทำความเดือดร้อน สร้างความแตกแยก ได้เงินใส่กระเป๋าแล้วออกไป ในที่สุดสังคมก็จะมี

แต่คนเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ สังคมจะแตกแยก ก่อให้เกิดความไม่สงบสุขขึ้นในบ้านเมือง

เราขอให้ท่านยุติการสร้างความเดือดร้อนได้แล้ว พวกเราจะขอยืนหยัดต่อสู้อย่างไม่มีวันท้อถอย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดไหนก็ตาม เราเคยพูดอย่างไร ทำอย่างไร เราก็จะขอทำอย่างนั้นต่อไป ที่ผ่านมาเราอยู่อย่างสงบ เงียบๆ เพราะเราให้เกียรติต่อรัฐบาล นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราไม่ยอมให้ผู้ใดที่เข้ามาดำเนินการใดๆ เกี่ยวข้องกับโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น อย่างเด็ดขาด เราขอประกาศว่าพื้นที่ตำบลสะเอียบจะต้องปราศจากเขื่อนแก่งเสือเต้น ตลอดไป

 ชาวบ้านตำบลสะเอียบ

27 กุมภาพันธ์ 2550 ณ สนามหน้าที่ว่าการ อ.สอง จ.แพร่

 

ที่มา : สำนักข่าวประชาธรรม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท