กบร. เร่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสางปัญหาที่ดินสาธารณประโยชน์ "ดอนคำพวง"

ศูนย์ข่าวประชาสังคม จ.อุบลราชธานี

 

เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 2 มีนาคม 2550 ที่ห้องประชุมมิตรไมตรี 2 ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี นายเสนีย์ จิตตเกษม รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ (กบร.) จังหวัดอุบลราชธานี

           

สืบเนื่องจากกระทรวงมหาดไทย แจ้งว่านายชนะ กิคำ และชาวบ้านแสนตอ อำเภอพิบูลมังสาหาร ร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่า ที่ดินสาธารณะประโยชน์ดอนคำพวง เป็นเกาะอยู่กลางแม่น้ำมูล ซึ่งชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์มาเป็นเวลานานแล้ว แต่ถูกนายจักรกฤช วิเศษชลธาร กับพวกเข้าไปบุกรุกทำลายป่าและยึดถือครองที่ดินดังกล่าวเป็นทรัพย์สินของตน ทำให้ผู้ร้องและชาวบ้านแสนตอ ไม่สามารถที่จะใช้ประโยชน์ที่ดินดังกล่าวได้ และได้ขอให้มีการยกเลิกคำขอเอกสารสิทธิของนายจักรกฤช วิเศษชลธาร กับพวก และสนับสนุนให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการจัดการแก้ไขปัญหา รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เป็นที่ยุติโดยเร็ว

           

นายสนธยา รัตนชื่น เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดอุบลราชธานี สาขาอำเภอพิบูลมังสาหาร กล่าวในที่ประชุม ว่า ผลการตรวจสอบตามประเด็นที่คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ (กบร.) ขอทราบ จากกรณีของนายจักรกฤช วิเศษชลธาร ซึ่ง ส.ค. 1 ได้มาอย่างไรนั้น ได้ทำการตรวจสอบหลักฐานต่าง ๆ ที่นายจักรกฤช วิเศษชลธาร กับพวกยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินโดยอาศัยหลักฐาน ส.ค. 1 เลขที่ 1 หมู่ที่ 16 ปรากฏว่า ได้มีการทำหนังสือสัญญาซื้อขาย ฉบับลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2543 ที่ดินตาม ส.ค.1 เลขที่ 1 ดังกล่าวจาก ส.ต. สวาท ทาระสาร และนางคำผอง ทาระสาร ในราคา 800,000 บาท ได้มีการชำระราคาและส่งมอบการครอบครองกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วตามข้อบันทึกถ้อยคำประกอบการขอออกโฉนด ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2543

           

ส่วนกรณี น.ส. 3 ก. เลขที่ 2144 ตำบลคันไร่ อำเภอสิรินธร จ.อุบลราชธานี เนื้อที่ 8 ไร่ 56 ตาราวา ซึ่งนางคำผอง ทาระสาร ได้ขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์เพื่อขายให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เนื่องจากถูกผลกระทบจากโครงการสร้างเขื่อนปากมูล โดยได้ทำการตรวจสอบเอกสารหลักฐานในหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ปรากฏว่า การขอหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของนางคำผอง ทาระสาร ในขณะนั้น เป็นการออกโดยมิได้แจ้งการครอบครองตามมาตรา 59 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เชื่อได้ว่าหนังสือรังรองการทำประโยชน์ดังกล่าวเป็นการออกในที่ดินของนางคำผอง ทาระสาร ครอบครองการทำประโยชน์นอกหลักฐาน ส.ค. 1

 

 "เดิมทีพื้นที่พื้นที่ดังกล่าวตาม ส.ค. 1.เลขที่ 1 หมู่ที่ 16 ตำบลกุดชมพู อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี มีชื่อของนายกู๋ บุญศรี เป็นผู้แจ้งการครอบครอง เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2498 มีเนื้อที่ประมาณ 15 ไร่ โดยแจ้งว่าได้มาโดยการรับมรดกจากบิดามารดาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2478 เป็นการปฏิบัติตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งการครอบครองแล้ว เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2498 เชื่อได้ว่า ส.ค.1 ดังกล่าวได้มีการแจ้งการครอบครองเป็นไปตามกฎหมายบัญญัติไว้"

           

อย่างไรก็ตามพื้นที่บริเวณดังกล่าวทางสำนักงานที่ดินจังหวัดอุบลราชธานี สาขาอำเภอพิบูลมังสาหาร ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบและออกหนังสือรับรองสิทธิ์ในที่ดินให้ แต่ยังมีการคัดค้านจากชาวบ้านในแถบนั้นซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้กักบริเวณพื้นที่ที่มีการคัดค้านไว้เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณา โดยพื้นที่ที่ถูกคัดค้านมีพื้นที่ของนายจักรกฤช วิเศษชลธาร ซึ่งซื้อมาจากนางคำผอง ทาระสาร รวมอยู่ด้วยและได้นำเรื่องดังกล่าวส่งฟ้องต่อศาล ในข้อหาออก นสร. ทับที่ของตนเอง

             

โดยที่ประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ( กบร.) จังหวัดอุบลราชธานี เตรียมหารือในเรื่องดังกล่าวเพื่อหาข้อยุติ ซึ่งต้องรอคำพิพากษาจากศาล กรณีของนายจักรกฤช วิเศษชลธาร โดยการประชุมในครั้งนี้มีตัวแทนจากสำนักงานธนารักษ์พื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานอัยการจังหวัด สำนักงานที่ดินจังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานที่ดินจังหวัดอุบลราชธานี สาขาพิบูลมังสาหาร และฝ่ายปกครองจังหวัดอุบลราชธานี กว่า 20 คน

 

 

 

 

 

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท