ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 18 มี.ค. เวลา 10.00 น. นายนรนิติ เศรษฐบุตร ประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ พร้อมด้วยนายเสรี สุวรรณภานนท์ นายเดโช สวนานนท์ รองประธาน ส.ส.ร. ได้ร่วมประชุมคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 13 คณะเป็นการภายใน เพื่อรายงานความคืบหน้าในการร่างรัฐธรรมนูญ
ก่อนเริ่มการประชุม นายนรนิติให้สัมภาษณ์ว่า เหตุที่ต้องมีการนัดประชุมกมธ.ในวันอาทิตย์ เนื่องจากขณะนี้เหลือเวลาในการร่างรัฐธรรมนูญไม่มาก และการประชุมในวันปกติ กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญบางส่วนก็ไม่สามารถเข้าประชุมได้อย่างพร้อมเพรียงเนื่องจาก กมธ.บางคนติดภารกิจด้านอื่นด้วย อย่างไรก็ดีในการร่างรัฐธรรมนูญ กมธ.จะเร่งดำเนินการให้ทันภายในเวลาที่กระชั้นเข้ามา และจะดำเนินการบรรจุวาระต่างๆ และรับฟังความคิดเห็นจากส่วนต่างๆ ในทุกมาตราโดยรอบคอบ
"ส่วนที่ฝ่ายทหารเสนอให้นำศาสนาพุทธบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วยนั้น คณะ กมธ.ก็จะรับฟังความคิดเห็น แต่ทั้งนี้ก็จะต้องพิจารณาโดยรอบคอบ เนื่องจากเรื่องศาสนาอาจจะป็นประเด็นที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งหรือแตกแยกได้" นายนรนิติ กล่าว
ด้านนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง กมธ.วิสามัญการมีส่วนร่วม เปิดประเด็นว่า โดยภารกิจการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในขณะนี้ ก็ได้ดำเนินการให้ทั้ง 76 จังหวัดตั้งแบบสอบถามแล้ว โดยรวบรวมคำถามไว้ 35 ข้อ แต่การดำเนินการ แม้จะมีความคืบหน้าแต่ก็ยังติดขัดปัญหาอยู่บ้าง ดังนั้นจึงควรมีการจัดเวทีในส่วนกลางเพื่อรับฟังความคิดเห็น โดยจะดำเนินการรับฟังความคิดเห็นรวม 24 ครั้ง ซึ่งจะเริ่มจากกรุงเทพฯ ในวันอาทิตย์ที่ 25 มี.ค.ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ที่อาคารรัฐสภา และเปิดให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตั้งคำถาม แสดงความคิดเห็น หากประเด็นใดที่ยังมีข้อสงสัยทางกมธ.ก็จะเป็นผู้ชี้แจง โดยจะจัดให้มีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ วิทยุรัฐสภา และวิทยุกรมประชาสัมพันธ์
จากนั้นก็จะเดินสายจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนไปในจังหวัดต่างๆ โดยจะพิจารณาว่าจากความสะดวกและความสามารถในการถ่ายทอดสดการประชุมของกรมประชาสัมพันธ์ว่าจังหวัดใดจะให้ความสะดวกในการจัดห้องส่งและอุปกรณ์ในการถ่ายทอดบ้าง สำหรับภาคใต้ จะเริ่มที่อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา และ จ.ภูเก็ต ส่วนภาคอีสาน ที่ จ.ขอนแก่น อุบลราชธานี ภาคเหนือ ที่จ.เชียงใหม่ และพิษณุโลก
นายเจิมศักดิ์กล่าวอีกว่า การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นในส่วนกลาง จะเป็นประโยชน์ในการเพิ่มฐานข้อมูลจากที่ 76 จังหวัดได้ดำเนินการไว้ นอกจากนี้ก็เพื่อให้ประชาชนและสังคมเกิดความตื่นตัวต่อการแสดงความคิดเห็น และมีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ด้วย และนอกจากการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นในส่วนกลางแล้ว กมธ.การมีส่วนร่วมยังได้เตรียมความพร้อมในการร่างรัฐธรรมนูญไว้ 3 ขั้นตอน
คือ 1.ก่อนที่จะมีการร่างรัฐธรรมนูญเสร็จครั้งแรกในวันที่ 19 เม.ย. จะนำเสนอร่างให้กับประชาชนได้รับทราบ 2.เมื่อมีการยกร่างรัฐธรรมนูญเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะนำร่างรัฐธรรมนูญเผยแพร่ต่อประชาชนเพื่อสอบถามว่ามีส่วนใดที่ต้องการให้แก้ไขหรือยังเกิดข้อข้องใจหรือไม่ อย่างไร ซึ่งในช่วงดังกล่าวจะตรงกับที่ต้องมีการแปรญัตติร่างรัฐธรรมนูญ และ 3.ก่อนที่จะมีการลงประชามติ ก็จะมีการนำเสนอร่างให้ประชาชนรับทราบโดยอธิบายถึงหลักและเหตุผลอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามทางกมธ.วิสามัญการมีส่วนร่วมได้มอบหมายให้นายศิวะ แสงมณี เป็นผู้ประสานกับกมธ.เพื่อจะให้มีการลงพื้นที่ชี้แจง
.
ที่มา : http://www.komchadluek.net