Skip to main content
sharethis



การเมือง


 


พีทีวี ย้ายที่ชุมนุม จากสนามหลวง เป็นลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม.


แนวหน้า -  คณะผู้บริหารสถานีโทรทัศน์พีทีวี ร่วมแถลงการเคลื่อนไหวนัดชุมนุมในวันที่ 30 มี.ค. โดยนายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานกรรมการฯ กล่าวว่าการที่บชน.มทภ.1 และกทม. มีมติว่าจะปิดสนามหลวงตั้งแต่วันนี้- 5 เม.ย. เท่ากับประกาศไม่ให้กลุ่มพีทีวีเปิดเวทีปราศรัยชุมนุมที่สนามหลวง ก็ไม่เป็นไร เพราะฉะนั้นกลุ่มพีทีวีจึงขอเปลี่ยนแปลงสถานที่การชุมนุม เป็นที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกทม. ตั้งแต่เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป


 


มีคำสั่งห้ามดำเนินกิจกรรมในท้องสนามหลวงตั้งแต่วันนี้-5เมษายน 2550


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - มีมติร่วมระหว่างกรุงเทพมหานคร กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองทัพภาคที่ 1 ห้ามดำเนินกิจการในท้องสนามหลวงตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 5 เมษายน 2550


 


พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้ช่วยเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. กล่าวว่า การปิดการใช้สนามหลวงจะมีผลกระทบต่อส่วนอื่นหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง แต่คงเป็นคนละส่วนกับการควบคุมการชุมนุม


         


รองผู้ว่าฯ กทม.ระบุ ประชาชนยังสามารถใช้พื้นที่ในสนามหลวงได้ตามปกติ


ไอ.เอ็น.เอ็น. - นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยืนยันในที่ประชุมร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจนครบาลไม่ได้มีมติปิดท้องสนามหลวง ประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา ยังคงเข้าใช้พื้นที่ได้ แต่จะไม่อนุญาตให้มีการตั้งเวทีปราศัยหรือ ใช้เครื่องขยายเสียงเด็ดขาด จะมีการตรึงกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่เทศกิจ รักษาความสงบเรียบร้อยตลอด 24 ชั่วโมง


         


ส่วนกรณีที่ กลุ่มผู้ชุมนุมสถานีโทรทัศน์พีทีวี จะมาชุมนุมที่ลานคนเมืองในวันที่ 30 มี.ค. ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมว่ากลุ่มดังกล่าวจะมาในลักษณะใด ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายและไม่กระทบต่อสิทธิของผู้อื่น โดยกรุงเทพมหานคร จะจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจคอยรักษาความเรียบร้อยบริเวณลานคนเมืองด้วย


 

รัฐบาลสวิสลอยแพ มือพ่นสเปรย์หมิ่นพระบรมฯ


กรุงเทพธุรกิจ - โฆษกกระทรวงต่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นาย ฌอง ฟิลิปป์ ฌองแนรา  บอกว่า จะไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือนายโอลิเวอร์ จูเฟอร์ ชาวสวิส วัย 57 ปี ที่ถูกศาลไทยตัดสินในวันที่ 29 มี.ค. จำคุกเป็นเวลา 10 ปี ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หลังถูกตำรวจ จ.เชียงใหม่จับกุมเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2549 หลังพ่นสีสเปรย์บนพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


         


นายฌองแนราบอกว่า การดำเนินคดีกับนายจูเฟอร์ตามพื้นฐานของกฎหมายไทย เหมาะสมกับสิ่งที่เขาได้กระทำลงไป   และเขาไม่ขอออกความเห็นเกี่ยวกับระยะเวลาในการจำคุกที่เป็นไปตามกฎหมายไทย ซึ่งทางการสวิสจะไม่ร้องขอให้รัฐบาลไทยปล่อยตัวนายจูเฟอร์ และรัฐบาลสวิสจะไม่ยื่นมือเข้าไปแทรกแซงในกรณีใด ที่มีกระบวนการเป็นไปตามหลักการยุติธรรมพื้นฐาน แต่ก็บอกว่า นายจูเฟอร์มีเวลา 1 เดือนที่จะยื่นอุทธรณ์


 


คมช.ยืนยันขอประกาศใช้พรก.เพื่อความมั่นคง


กรุงเทพธุรกิจ - พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก คมช. ให้สัมภาษณ์ ว่า การที่ทหารได้มีการเสนอให้ประกาศพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่ได้หมายความว่าจะต้องประกาศพ.ร.ก.เพื่อควบคุมกลุ่มม็อบที่เดินทางมาชุมนุมต่อต้านการทำงานของ รัฐบาล และคมช.เพียงแต่คมช.เสนอในมุมมองของงานด้านความมั่นคง ว่าสิ่งที่เราคาดหวัง และประชาชนคาดหวัง คือเรื่องการลงประชามติ คมช.ไม่ได้ไปบังคับ แต่อยากให้ใช้ดุลยพินิจในการลงมติ ปราศจากการชี้แจงกลุ่มการเมืองต่าง ๆ และกรอบของการเลือกตั้งจะมีประมาณสิ้นปี อยากให้มีการ มั่นใจและชัดเจน


 



กรรมการสิทธิฯ ยื่นมือช่วย 2 หนุ่มหน้าเหมือน


กรุงเทพธุรกิจ -  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) มีมติรับพิจารณากรณีของ นายปรัชญา ปรีชาเวช และนายยุทธพงษ์ กิติศรีวรพงษ์ ผู้ต้องหาลอบวางระเบิดห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ แม้จะไม่มีการร้องเรียนจากชายหนุ่มทั้งสองคน


 


นายจรัล ดิษฐาอภิไชย กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเศร้า และเป็นความทุกข์ทรมานของคน 2 คนที่ออกมาแสดงตัวด้วยความบริสุทธิ์ใจ ดังนั้น กสม.จึงมีมติให้พิจารณาเรื่องนี้แม้จะไม่มีการร้องเรียนก็ตาม เพราะสิ่งที่ทั้งสองคนต้องประสบ เข้าข่ายเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนแล้ว


         


 "ที่สำคัญเวลานี้ประชาชนเริ่มเคลือบแคงสงสัยกระบวนการยุติธรรม ว่าพยานหลักฐานที่นำไปสู่การออกหมายจับนั้น มีความชัดเจนแค่ไหน หน่วยงานที่รับผิดชอบจึงมีหน้าที่ต้องแก้ความสงสัยเหล่านี้ด้วย" นายจรัล ระบุ


 



ความมั่นคง สถานการณ์ภาคใต้


 



กลุ่มวาดะห์นัดถกด่วนถูกโยงป่วนใต้


คมชัดลึก - จากกรณีที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ออกมาระบุว่า มีกลุ่มนักการเมืองซึ่งเป็นกลุ่มวาดะห์บางคนเข้าไปร่วมผสมโรงกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ล่าสุด นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ สมาชิกกลุ่มวาดะห์ เปิดเผยว่า การให้ข่าวกรณีมีสมาชิกบางคนรับใช้กลุ่มอำนาจเก่าทางการเมือง เคลื่อนไหวในการก่อความไม่สงบนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะตั้งแต่เกิดปัญหาความไม่สงบในปี 2547 เป็นต้นมา กลุ่มวาดะห์ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการแก้ไขปัญหาชายแดนใต้ของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สิ่งที่ยืนยันได้ชัดเจนคือ การเลือกตั้งเมื่อปี 2547 ชาวบ้านในพื้นที่ปฏิเสธพรรคไทยรักไทยอย่างสิ้นเชิง จนทำให้สมาชิกกลุ่มวาดะห์พ่ายแพ้การเลือกตั้งอย่างราบคาบ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ความพ่ายแพ้ครั้งนั้น สมาชิกกลุ่มวาดะห์ยอมรับในช่วงนั้นออกจากพรรคไทยรักไทยไม่ได้ เนื่องจากติดกฎเหล็ก 90 วัน แต่ทันทีที่มีการปฏิรูปการเมือง กลุ่มวาดะห์ได้ลาออกจากพรรคทันที ฉะนั้น การที่กลุ่มวาดะห์จะกลับไปรับใช้กลุ่มอำนาจเก่าทางการเมือง จึงเป็นไปไม่ได้


 



กระแสข่าวที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อภาพของกลุ่มวาดะห์อย่างมาก ทั้งที่ภาพของกลุ่มได้รับความน่าเชื่อถือจากกลุ่มประเทศมุสลิมมานานหลายปี แต่ครั้งนี้ยอมรับว่า ปัญหาชายแดนภาคใต้ กำลังถูกจับตามมองจากต่างประเทศมากขึ้น เพราะการกล่าวอ้างว่ามีนักการเมืองระดับชาติอยู่เบื้องหลัง จึงอยากให้ พล.อ.สนธิดำเนินการเรื่องนี้ให้กระจ่างชัดโดยเร็ว และสมาชิกกลุ่มวาดะห์ทุกคนก็พร้อมให้ตรวจสอบ โดยเฉพาะประวัติการศึกษา ยืนยันว่าทั้งหมดเดินตามกฎเกณฑ์ของบ้านเมืองมาตลอด ไม่มีใครเดินนอกลู่ หรือถูกปลูกฝังอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดนอย่างที่เข้าใจ


 



นายสุทธิพันธ์ ศรีริกานนท์ เลขานุการนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา แกนนำกลุ่มวาดะห์ กล่าวว่า นายวันนอร์แสดงความไม่สบายใจและเป็นห่วงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะกระทบต่อภาพลักษณ์ของกลุ่มโดยตรง โดยเฉพาะข่าวสารที่มีการนำเสนอนั้นได้เผยแพร่ไปยังนานาประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศมุสลิม ซึ่งพบว่าตลอดทั้งวันมีสื่อมวลชนต่างประเทศ และประชาชนจำนวนมากติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้น นายวันนอร์ได้ให้ประสานแจ้งสมาชิกกลุ่มหารือเป็นการภายในอย่างเร่งด่วน แต่เนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ทำให้ไม่สะดวกจึงเลื่อนการนัดหมายหารือในวันที่ 30 มีนาคมนี้ และอาจมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพื่อชี้แจงรายละเอียดทั้งหมด


 


นายเด่น โต๊ะมีนา ผู้ก่อตั้งกลุ่มวาดะห์ กล่าวว่า อยากให้ พล.อ.สนธิ แสดงความชัดเจนออกมา เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนอกจากไม่สร้างบรรยากาศความสมานฉันท์แล้ว ยังสร้างความหวาดระแวงกันเองของคนในพื้นที่เพิ่มขึ้น หาก พล.อ.สนธิระบุไม่ได้ว่าบุคคลที่กล่าวถึงนั้นเป็นใคร ก็ควรออกมาแจงต่อสังคม โดยเฉพาะชายแดนภาคใต้ให้รับรู้ว่าข้อมูลทางการข่าวมาจากหน่วยงานใด ซึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่รายงานเรื่องนี้ให้แก่ พล.อ.สนธิ เพื่อให้สังคมได้เป็นผู้พิจารณาและตัดสินใจเองว่าฐานการข่าวของเจ้าหน้าที่จากองค์กรนั้นมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน


 


นักวิชาการ ระบุ เป็นไปได้กลุ่มอำนาจเก่าชักใยป่วนใต้


ไอ.เอ็น.เอ็น.- ศ.ดร.วรวิทย์ บารู ผู้อำนวยการสถาบันสมุทรรัฐเอเชียตะวันอออกเฉียงใต้ศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) วิทยาเขตปัตตานี และในฐานะรองประธานสภาที่ปรึกษาเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.สนธิ ที่ระบุว่ากลุ่มอำนาจเก่าและสมาชิกกลุ่มวาดะห์บางส่วนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นเป็นเกมการเมืองหรือไม่


 


ในทางกลับกันหาก พล.อ.สนธิ รู้ตัวว่าสมาชิกกลุ่มวาดะห์รายใดเป็นผู้อยู่เบื้องหลังก็ไม่สมควรออกมาเปิดเผยข้อมูลผ่านสื่อมวลชนตามที่เป็นข่าว แต่ควรจะใช้แนวทางอื่นๆ เช่น การจับตาพฤติกรรมหรือเข้าไปพูดคุยในทางลับก่อนที่จะสั่งดำเนินคดีตามกฎหมายน่าจะดีกว่า และโดยส่วนตัวเชื่อว่าสมาชิกกลุ่มวาดะห์ในพื้นที่คงไม่กล้าที่จะให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอย่างแน่นอน หากจะมีก็คงเป็นกลุ่มอำนาจเก่าที่พยายามสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในทางอ้อมมากกว่า


 


 



 



เศรษฐกิจ


 


ศาลปกครองกลางไม่รับไต่สวนฉุกเฉินคดีเจเทปป้า


คมชัดลึก - นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรุญ ผู้อำนวยการองค์กรความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาไทย (ไบโอไทย) กล่าวว่า ศาลปกครองกลางได้จำหน่ายคดีที่กลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch) มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มูลนิธิชีววิถี มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ และมูลนิธิข้าวขวัญ ได้ยื่นฟ้องเพื่อให้ศาลฯ ไต่สวนฉุกเฉินเพื่อให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เพื่อระงับการลงนามร่างข้อตกลงการเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่าง ไทย-ญี่ปุ่น (เจเทปป้า) ซึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปลงนามที่ญี่ปุ่น ในวันที่ 3 เมษายนนี้ โดยให้เหตุผลว่า ไม่ใช่การใช้อำนาจทางการปกครอง ดังนั้น ศาลจึงไม่รับไต่สวนฉุกเฉิน ซึ่งทางกลุ่มฯ จะไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไป ในวันที่ 30 มี.ค. เวลา 11.00 น.


 

 


การศึกษา คุณภาพชีวิต

 


วิจัยพบรถบัสเสี่ยงตายมีอุบัติเหตุ4พันคันต่อปี


ผู้จัดการรายวัน -- เปิดผลวิจัยร้อน พบรถบัสประสบอุบัติเหตุสูงถึง 4,000 คันต่อปี มูลค่าเสียหาย 8,000 ล้านบาท กรุงเทพฯ ครองแชมป์บ่อยที่สุด พบสาเหตุมาจากอุปกรณ์ในรถ-ถนนไม่มีมาตรฐานเพียงพอ แถมพนักงานขับรถร้อยละ 7 เท่านั้นที่ผ่านโรงเรียนสอนขับรถ ขณะที่ร้อยละ 80 เคยประสบอุบัติเหตุมาแล้ว เสนอให้รัฐเข้มงวดออกใบขับขี่รถสาธารณะมากขึ้น


         


 


เบอร์เกอร์คิง'เพิ่มการสั่งซี้อหมู-ไข่ที่ไม่ถูกขังกรง


ผู้จัดการออนไลน์ -- เบอร์เกอร์คิง เครือข่ายร้านฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน เผยเมื่อวันพุธที่28 มี.ค. ว่า ทางบริษัทกำลังเพิ่มการสั่งซื้อเนื้อหมูและไข่จากเกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์อย่างมีมนุษยธรรม จะเพิ่มการสั่งซื้อจากผู้ผลิตที่ไม่ขังสัตว์ไว้ในลังและกรงเหล็กอย่างแออัด โดยเป็นการปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านสวัสดิภาพของสัตว์ จะส่งเสริมให้เกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ดไก่เริ่มใช้วิธีรมแก๊สแทนการใช้ไฟฟ้าช้อต เพื่อทำให้สัตว์ปีกเหล่านั้นหมดสติก่อนที่จะถูกฆ่าและนำไปแปรรูป จะซื้อไข่ 2% จากเกษตรกรที่ไม่เลี้ยงไก่ในกรงตับอันคับแคบ และจะซื้อเนื้อหมู 10% จากฟาร์มที่ไม่ขังหมูไว้ แต่ปล่อยให้มันเดินไปมาได้อย่างอิสระ


 


ศาลพิพากษาประหารชีวิต "อาซัน" ลูกน้องคนสนิท "เล่าต๋า"


ผู้จัดการออนไลน์ - ที่ห้องพิจารณา 912 ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการคดียาเสพติด 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจีรศักดิ์ หรือ อาซัน ฉัตรวรนิติ ชาวเขาเผ่าเย้า เจ้าของฉายา มนุษย์ร้อยชื่อ ลูกน้องคนสนิทนายเล่าต๋า แสนซื่อ นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ นายอุทัย หรือกวง สมประสพสุข และนางกาญจนา หอมนาน จำเลยที่ 1, 2 และ 3 ในความผิดฐานสมคบกันโดยการตกลงตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และฐานมีเฮโรอีนจำนวน 60 แท่ง และยาบ้า 137,800 เม็ด ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย


 


ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร และสำเนานำสืบในชั้นศาลแล้ว เห็นว่า จำเลยทื่ 1 คือ นายอาซัน กระทำความผิดหลายกรรมต่างวาระ จึงพิพากษาประหารชีวิตสถานเดียว ส่วนจำเลยที่ 2 และ 3 พยานหลักฐานไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าได้ร่วมกระทำผิดจริง จึงพิพากษายกฟ้อง


 







 


การเมือง


ผู้จัดการ


---


"สนธิ"เชื่อ! รัฐขุดหลุมล่อ คมช.ให้ใช้ กม.ฉุกเฉิน


ผู้จัดการออนไลน์ -  รายการยามเฝ้าแผ่นดิน ออกอากาศทางเอเอสทีวี วันที่ 29 มี.ค. นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ได้สนทนากับนางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ผู้ดำเนินรายการ กรณีศาลอาญามีคำพิพากษาจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีหมิ่นประมาท นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า น้อมรับและเคารพคำพิพากษาของศาล แต่ในขณะที่เคารพนั้นก็ต้องขออนุญาตไม่เห็นด้วยและขอร้องเรียนอยู่ 2 ประการ


 


ประการที่หนึ่ง พร้อมที่จะยื่นอุทธรณ์คดีตามกระบวนการต่อไป ทั้งนี้เชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรมในที่สุด ส่วนประการที่สองต้องหาวิธีอื่นเพื่อขอความเป็นธรรม โดยขณะนี้กำลังคิดและหาช่องทางอยู่


         


"ผมเป็นนักรบ ทำหนังสือพิมพ์มาก็นาน ขึ้นศาลในคดีหมิ่นประมาทนับครั้งไม่ถ้วน มีทั้งชนะบ้าง แพ้บ้าง แต่ไม่เคยมีครั้งใดที่ศาลพิพากษาจำคุกทันที 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ผมรู้สึกประหลาดใจมาก ทั้งๆ ที่เรื่องทั้งหมดเป็นผลพวงมาจากการต่อสู้กับระบอบทักษิณ ความถูกต้องในสมัยนั้นกลับไม่ถูกต้องในวันนี้ แต่มูลเหตุ 4 ข้อ ในการยึดอำนาจของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) นั้นน่าจะเป็นการยืนยันว่า สิ่งที่เราต่องสู้มาถูกต้อง และยังทำให้ผมยืนอยู่ได้ในวันนี้"นายสนธิ กล่าว


        


นอกจากนี้ นายสนธิ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ทางด้านการเมืองในขณะนี้อีกว่า ตอนนี้บ้านเมืองกำลังอยู่ในจุดวิกฤต อยากให้ประชาชนที่มีปัญญาตั้งอยู่ในที่มั่น ต้องมีเวลาของพวกเราสักวัน อย่าไปตกหลุมใครเป็นอันขาด อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในอนาคต ขอให้นั่งอยู่เฉยๆ อย่าไปหลง ต้องตั้งสติและสามัคคีกันไว้ให้มาก


 


ส่วนกรณีที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี แถลงไม่ประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เพื่อควบคุมการชุมนุมที่ต่อต้าน คมช.ที่ท้องสนามหลวง ของกลุ่มพีทีวีในวันที่ 30 มี.ค. นายสนธิ กล่าวว่า หลายคนอาจเห็นด้วย ขอมองไม่ต่างมุม แต่ขอมองคนละมิติว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ มาจากการที่รัฐบาลไม่ทำงาน ตนไม่ตำหนิ คมช.เลยแม้แต่นิดเดียว


         


นายสนธิ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเคยพูดไปแล้วว่าในระยะนี้ พวกพีทีวีซึ่งเป็นคนของพรรคไทยรักไทย จะด่าแต่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน คมช.กับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ แต่จะเทิดทูน พล.อ.สุรยุทธ์ นั่นเพราะพีทีวีมองว่ามีเพียง พล.อ.สุรยุทธ์เท่านั้นที่เข้าใจพวกเขา ยิ่งวันนี้ยิ่งชัดเจน เพราะพล.อ.สุรยุทธ์ ยังไม่เคยพูดตำหนิการเคลื่อนไหวของพีทีวีเลย หรืออาจจะมีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่น เพื่อนำไปสู่ความสมานฉันท์หรือไม่


       


นายสนธิ ยังต้องข้อสังเกตถึงการที่รัฐบาลไม่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีกว่า วันนี้ยังมีขบวนการการเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง มีการนำประชาชนเข้ามาเคลื่อนไหวในกรุงเทพฯ เมื่อ คมช.รู้ก็เกิดกลัวว่า จะเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น ดังนั้นจึงเสนอไปให้รัฐบาลพิจารณาประกาศใช้ พ.ร.ก. เนื่องจากทหารไม่อยู่ในสถานะที่ดำเนินการได้ในเวลานี้ แต่รัฐบาลกลับมาดำเนินการ นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นิ่งเฉย แทนที่จะเดินสายประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดให้กำชับกำนันผู้ใหญ่บ้านไม่ให้นำประชาชนเข้ามา ก็ไม่ทำ อดคิดไม่ได้ว่า นายอารีย์ อยากที่จะเห็นความรุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่


 


"ข่าวเรื่องการประกาศภาวะฉุกเฉิน ตั้งแต่เมื่อวานนี้ก็ออกแล้ว วันนี้ก็ออกแล้วว่าจะต้องประกาศ จู่ๆ ท่านนายกฯ ออกมาพูดอย่างนี้ ก็แปลว่าคนซึ่งอยากให้ประกาศก็คือ ผบ.สนธิ"


 


นอกจากนี้ยังทำให้ประชาชนมอง คมช.ในแง่ลบว่า เป็นพวกขวาจัด คิดอะไรไม่ออก ก็ใช้ความรุนแรง ทั้งๆ ที่ พล.อ.สนธิ นั้นไม่รู้เรื่องด้วย เพียงแต่สงสัยว่าทำไมถึงปล่อยให้ม็อบพีทีวีออกมาขนาดนี้ หรือม็อบเกษตรกร ทำไมรัฐบาลไม่ลงไปแก้ไขม็อบเกษตรกร แก้อยู่อย่างเดียวก็ม็อบไอทีวี ม็อบอื่นไม่สนใจ


         


ไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลชุดนี้ไม่ทำงาน ไม่ลงไปแก้ไขปัญหาประชาชน ตนพูดมานานแล้วว่า ถ้าหากจะเข้ามาเพื่อแก้วิกฤติของชาติ ก็ต้องเข้ามาแก้ ถ้าเข้ามาเพื่อใส่เกียร์ว่าง แล้วสิ้นปีรอรับเครื่องราชฯ แล้วพอมีการเลือกตั้ง จะกลับไปเลี้ยงหลาน อย่ามารับตำแหน่งนี้ ด้วยเหตุนี้เอง พล.อ.สนธิ ถึงบอกว่า เป็นนายกรัฐมนตรีสบายกว่า เพราะไม่ต้องทำอะไรเลย


         


"ปัญหาที่เกิดขึ้นในที่สุดแล้ว เมื่อฝ่ายม็อบเขาเชียร์นายกฯ คนนี้ แล้วคุณรู้ไหมทำไมเขาเชียร์นายกฯ คนนี้ เพราะนายกฯ คนนี้เป็นชายในดวงใจของพวกหมอเหวง หมอสันต์ ทุกอย่าง ก็เพราะว่านายกฯ คนนี้ทำอะไรก็โดนใจคนพวกนี้หมด อย่างเช่น พล.อ.สนธิ ไม่ใช่ชายในดวงใจของพวกนี้ นั่นคือที่มาว่ารัฐบาลชุดนี้ ท่านนายกฯ ถึงย้ำนักย้ำหนาว่าต้องมีการเลือกตั้ง เลือกตั้งนี่มีได้ แต่คำถามมีอยู่ว่า ขวากหนามที่เกิดขึ้น ปัญหาวิกฤติต่างๆ ที่เกิดขึ้น แก้กันหรือยัง ถ้ายังไม่แก้ จะมีการเลือกตั้งได้อย่างไร ถ้ามีการเลือกตั้งก็หมายความว่ายกประเทศไทยกลับไปให้ระบอบทักษิณคืนเหมือนเดิม และคนซึ่งเป็นคนเปิดประตูให้ระบอบทักษิณกลับเข้ามาอีกครั้ง ผมเกรงว่าประวัติศาสตร์จะกล่าวหา พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ว่าท่านเองเป็นคนที่เปิดประตูให้ระบอบทักษิณกลับมาอีกครั้ง ไม่ทราบว่าจะจริงหรือไม่จริง ผมไม่รู้ แต่ลักษณะการกระทำจะเป็นไปในรูปนี้"นายสนธิกล่าว


 


 นายสนธิ กล่าวต่อว่า หลังจากรัฐบาลชุดนี้หมดวาระไปแล้ว คนที่เคยเป็นรัฐมนตรีก็หมดหน้าที่และสบายไป แต่ คมช.ยังอยู่ หลายคนก็ยังรับราชการอยู่ และอาจจะถูกเช็กบิลจากระบอบทักษิณ


         


อัยการจ่อยื่นฟ้อง "ไอทีวี" - เรียกค่าปรับแสนล้านพรุ่งนี้


ผู้จัดการออนไลน์ - นายบัลลังก์ ปิ่นสากล อัยการผู้เชี่ยวชาญฝ่ายคดีปกครอง 3 ผู้รับผิดชอบสำนวนคดีฟ้องไอทีวี เปิดเผยว่า ในวันที่ 30 มี.ค. เวลา 10.30 น. พนักอัยการจะยื่นฟ้อง บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ต่อศาลปกครอง จากกระทำผิดสัญญาสัมปทานดำเนินกิจการสถานีโทรทัศน์ไอทีวี อันเป็นสัญญาทางปกครองที่ บมจ.ไอทีวี เป็นคู่สัญญาสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.)โดยการยื่นฟ้องดังกล่าว อัยการได้รับมอบอำนาจจาก สปน.ให้เรียกค่าเสียหายรวมจำนวน 1.01 แสนล้านบาท จากกรณีที่ บมจ.ไอทีวี ผิดนัดชำระค่าตอบแทนสัมปทาน ซึ่งยังค้างชำระจำนวน 2,800 ล้านบาทเศษ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่ 4 ก.ค.2547-2549 และค่าปรับที่ บมจ.ไอทีวี ทำการปรับลดสัดส่วนผังรายการข่าวสารคดีลงเหลือร้อยละ 30 และปรับเพิ่มสัดส่วนรายการบันเทิงขึ้นเป็นร้อยละ 70 อีกจำนวน 97,760 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันที่ยื่นฟ้อง และมูลค่าทรัยพ์สินที่ บมจ.ไอทีวียังไม่สามารถจัดทำเครือข่ายและเครื่องมืออุปกรณ์การส่งสัญญาณ เพื่อส่งมอบให้กับ สปน.ได้ครบในปีที่ 10 ตามที่ระบุในสัญญาจำนวน 4,000 ล้านบาท โดยมูลค่าทรัพย์สินที่ บมจ.ไอทีวี ต้องชำระยังเหลืออีก 656 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันที่ยื่นฟ้อง


         


อัยการผู้เชี่ยวชาญฝ่ายคดีปกครอง 3 กล่าวต่อว่า ในการยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายดังกล่าว เป็นไปตามสิทธิที่กฎหมายกำหนด ซึ่งสัญญาที่ทำขึ้นระหว่าง สปน.กับ บมจ.ไอทีวี ถือเป็นสัญญาทางปกครอง ดังนั้น คดีจึงต้องยื่นต่อศาลปกครองกลางซึ่งเป็นศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษา โดยการฟ้องเรียกค่าเสียหายนี้เป็นผลพวงจากคดีที่ สปน.เคยยื่นขอให้ศาลปกครองมีคำพิพากษาเพิกถอนคำวินิจฉัยคณะอนุญาโตตุลาการ ฉบับลงวันที่ 30 ม.ค.47 ที่คณะอนุญาโตฯ วินิจฉัยชี้ขาดเรื่องการเรียกชำระค่าตอบแทนระหว่าง สปน-บมจ.ไอทีวีใหม่โดยขัดต่อ พ.ร.บ.อนุญาโตฯ พ.ศ.2545 ซึ่งศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำวินิจฉัยอนุญาโตฯ ดังกล่าว เชื่อว่าการฟ้องเรียกค่าเสียหายนี้ศาลปกครองกลางจะมีคำสั่งให้ประทับรับฟ้องไว้เพื่อมีคำพิพากษา


 


         


 



 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net