Skip to main content
sharethis


 


ประชาไท -- 30 มี.ค. 2550 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชุมนุมของกลุ่มพีทีวี หลังจากที่ กทม. ยอมให้ใช้ลานคนเมืองหน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานครเป็นที่ชุมนุมนั้น โดยเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. ที่ผ่านมามีผู้ทยอยร่วมชุมนุมประมาณ 2,000 คน กินพื้นที่เกือบ 3 ใน 4 ของลานคนเมือง และมีผู้ทยอยเข้ามาชุมนุมเรื่อยๆ


 


ในเวลาดังกล่าวนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตรองโฆษกพรรคไทยรักไทย ซึ่งลาออกมาเป็นรองผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์พีทีวีกล่าวในช่วงหนึ่งของการปราศรัยว่า พีทีวีตั้งขึ้นมาเพื่อออกอากาศ เหมือนกับ 60 สถานีโทรทัศน์ที่ออกอากาศผ่านดาวเทียม โดยที่ไม่มีช่องไหนขออนุญาตจากกรมประชาสัมพันธ์และ ไม่เคยได้รับอนุญาตจากที่ไหน ทุกช่องออกได้หมด แต่พีทีวีออกอากาศไม่ได้ เราประกาศเมื่อ 1 มีนาคม ว่าเราจะต่อสู้เพื่อให้ได้ออกอากาศ บอกแล้วว่าอย่าให้เราจนตรอก จนตรอกแล้วเราจะมาสนามหลวง แต่สุดท้ายก็มาปิดสนามหลวงจนได้


 


นายจตุพร กล่าวว่า การที่เราถอยจากสนามหลวงมาที่ลานคนเมืองนั้น ตนขอบอก พล.อ.สนธิว่าไม่ได้หมายความว่าเราจะยอมจำนน แต่ไม่ต้องการให้ พล.อ.สนธิและพวก มาเอาพวกเราเพื่อที่จะได้เข้ามาสู่อำนาจเองแทนพลเอกสุรยุทธ์ เพราะบรรยากาศเมื่อวานนี้ทำกันอย่างกับจะเป็นจะตาย ประชุมเพื่อที่จะวางแผนประกาศภาวะฉุกเฉินทั้งที่ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น ประเทศไทยจะเป็นประเทศเดียวเท่านั้นที่ประกาศภาวะฉุกเฉินเพราะกลัวม็อบพีทีวีจะพูดเรื่องสมรสซ้อน


 


นายจตุพร ได้อธิบายภาพข่าวการเข้าพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ประเทศจีน ที่ได้ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์บางฉบับเมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมาว่าภาพดังกล่าวนั้นตนได้แถลงข่าวไปตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. โดยที่ตนและนายจักรภพ เพ็ญแข เดินทางไปประเทศจีน ไม่ใช่ความลับอะไรเลย เพราะการที่จะเดินทางออกต่างประเทศ ทาง ตม. และการบินไทย ต้องรายงานให้ คมช. ทราบอยู่แล้ว


 


ทั้งนี้เมื่อเราตัดสินใจว่าจะลาออกจากพรรคไทยรักไทยมาทำสื่อทีวี จึงเดินทางไปตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ. มีกำหนดกลับวันที่ 21 ก.พ. แต่เนื่องจากปักกิ่งหิมะตก ทัศนะวิสัยไม่ดี จึงต้องเดินทางกลับมาวันที่ 22 ก.พ. ซึ่งเหลืออีก 6 วันสถานีจะออกอากาศ ถ้าไปเอาเงินทักษิณมาเปิดทีวีจริง โดยเหลือเวลาอีก 6 วันต้องออกอากาศ ใครมันจะทำได้ ไม่มีเทวดาหน้าไหนทำได้ นายจตุพรกล่าว


 


เหตุที่ไปประเทศจีนนั้น นายจตุพรให้เหตุผลว่าเพราะตนเป็นคนไทย เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งตนมาทำงาน มีความสัมพันธ์ที่ดี วันหนึ่งตนลาออกจากรองโฆษกพรรค จึงไปกราบลา พ.ต.ท.ทักษิณ แทนพี่วีระ (มุสิกพงศ์) และแทนผู้บริหารพีทีวีทุกคน ซึ่งประเพณีไปมาลาไหว้เป็นเรื่องปกติของสังคมไทย


 


"แตกต่างจาก พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ที่ ทักษิณ ตั้งเป็น ผบ.ทบ.แต่มาปฏิวัติลับหลังตอนทักษิณไปต่างประเทศ จะให้ผมใช้นิสัย พล.อ.สนธิได้อย่างไร ผมไม่ใช่คนอย่างนั้น" นายจตุพรกล่าว


 


นายจตุพรยังกล่าวว่า "การต่อสู้ของพวกเราในวันนี้ จริงอยู่เราต้องการออกอากาศในฐานะคนทำสื่อ แต่เมื่อเราเดินทางออกมาที่ท้องถนน ออกมาสนามหลวง ออกมาที่นี่ เราก็ข้ามพ้นปัญหาของเราไปได้ นั่นคือเรามองเรื่องปัญหาของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก"


 


ที่บอกว่าคนพีทีวีเป็นมือปืนรับจ้างนั้น ตนไม่ใช่มือปืนรับจ้าง เพราะไม่มีมือปืนรับจ้างคนไหนไปยิงคนอื่นโดยที่ผู้จ้างวานถูกจับไปแล้ว ตนเองสมัยพฤษภาทมิฬ เมื่อ พล.ต.จำลอง ถูกจับไปแล้ว ตนยังไปต่อสู้ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งมีโอกาสถูกฆ่าตายสูง ถ้าเป็นมือปืนรับจ้างจริงคงไม่กล้า แต่นี่เป็นเพราะตนไม่ยินยอมเผด็จการจึงไปต่อสู้


 


"นี่คือหัวใจของประชาธิปไตย ไม่ได้มีราคาค่างวด ต่อสู้โดยไม่ได้หวังผลอะไร เพราะเราคิดว่าการอยู่ใต้เผด็จการชีวิตอาจจะรอด แต่การใช้ชีวิตเหมือนไม่มีชีวิต จะมีชีวิตไปทำไมพี่น้องทั้งหลาย" นายจตุพรกล่าว


 


ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวจะรายงานความคืบหน้าของสถานการณ์การชุมนุมเป็นระยะๆ ต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net