อุทัยวรรณ เจริญวัย
หลังนาวิกโยธินและลูกเรือชาวอังกฤษ 15 นายถูกอิหร่านจับตัวไปในข้อหา "ละเมิดน่านน้ำอิหร่าน" วันที่ 23 มีนาคม และมีการระดมยิงวิดีโอ "สารภาพผิด" และวิดีโอ "สบายดี" ทางทีวีอิหร่านตามมาเป็นระลอก สัปดาห์ที่แล้ว...ตะวันออกกลางเลยต้องประสบกับปัญหา "โลกร้อนฉุกเฉิน" ขึ้นมาทันตา สมาชิกชมรม "ผู้ยึดครองอิรัก" ต่างก็พร้อมใจกันซัลโวใส่อิหร่านเป็นชุด
โทนี แบลร์ โกรธจัด-ยั๊วสุด ยืนยันว่ามันเป็นน่านน้ำของอิรักต่างหาก แบลร์เรียกสิ่งที่เกิดขึ้นว่า "การบุกรุกอย่างอุกอาจ" พร้อมกับประณามพฤติกรรมอิหร่านที่ปฏิบัติต่อลูกเรือเหล่านั้นด้วยคำแรงๆ ว่า
"มันเป็นเรื่องโหดร้าย ไร้ความปราณี ที่ทำกับคนในสถานะนั้นได้ขนาดนี้ และเล่นเกมแบบนี้ - มันเป็นเรื่องอัปยศน่าละอายจริงๆ"
กอร์ดอน บราวน์ รัฐมนตรีคลังอังกฤษ ก็มาในอารมณ์เดียวกันแต่สคริปต์เว่อร์กว่านิดหน่อย "โหดร้าย ไร้จิตใจ ไม่มีความเป็นมนุษย์ ไม่สามารถยอมรับได้"
และไม่พลาดอยู่แล้วสำหรับงานนี้ ประธานาธิบดี จอร์จ บุช เรียกเจ้าหน้าที่อังกฤษที่อิหร่านควบคุมตัวไว้ว่า "ตัวประกัน" แถมเรียกร้องให้ปล่อยตัวทันที พร้อมประณามว่า "มันคือพฤติกรรมที่ไม่สามารถมีข้อแก้ตัวใดๆ"
ลูกเรือหญิง เฟย์ เทอร์นีย์ (Faye Turney) เขียนจดหมายขึ้นมา 3 ฉบับ นอกจากจะยืนยันเหมือนคนอื่นๆ ว่าเธอได้รับการปฏิบัติอย่างดีและด้วยท่าทีที่เป็นมิตรแล้ว ในจดหมายลงวันที่ 27 เทอร์นียังกล่าวด้วยว่า
"ฉันเชื่อว่า ในการที่ประเทศของเราจะก้าวต่อไปข้างหน้า เราจำเป็นจะต้องเริ่มถอนทหารจากอิรัก และปล่อยให้ชาวอิรักได้กอบกู้ชีวิตของพวกเขาขึ้นมาใหม่อีกครั้ง และฉันก็ได้เขียนจดหมายขึ้นมาอีกฉบับเพื่อขอโทษชาวอิหร่านสำหรับการกระทำของเราด้วย
"ขณะที่เราได้ยินและได้เห็นกันแล้วว่า นักโทษที่อาบูกราอิบและในคุกอื่นๆ ของอิรัก ถูกเจ้าหน้าที่อังกฤษและอเมริกันปฏิบัติด้วยอย่างไร อิหร่านปฏิบัติต่อฉันอย่างให้เกียรติเต็มที่ และฉันปลอดภัยดี ไม่ได้รับอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น
มันถึงเวลาแล้วที่จะขอให้รัฐบาลของเราเปลี่ยนแปลงตัวเอง...สำหรับพฤติกรรมกดขี่ข่มเหงที่มีต่อประชาชนชาติอื่นๆ"
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นต้องเป็นเรื่องจัดฉากถูกบังคับแน่นอน สื่อเมืองผู้ดีทั้งหลายรับไม่ได้ไปตามๆ กัน และแม้ว่าจะถูกแบลร์หลอก (รับประทาน) มาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่สื่อเหล่านั้นก็พร้อมจะประโคมโหมข่าวตามแบลร์ทันทีว่า งานนี้ อิหร่านต้องละเมิดน่านน้ำอิรักมาจับตัวลูกเรือของตัวเองไปแน่ๆ แถมยังปล่อยวิดีโอสารภาพผิดออกมาท้าทายกันอีกด้วย - อิหร่านป่าเถื่อน อิหร่านโหดร้าย อิหร่านกล้าดียังไง...มาหยามกันเล่นแบบนี้?
มีเสียงเล่าลือจากอดีตทูตอังกฤษประจำอุซเบค เครก เมอร์เรย์ ว่า เรื่องแผนที่ของแบลร์น่ะ มันของปลอม-ของเฟค แต่พูดไปสื่อส่วนใหญ่ก็ไม่อยากรับรู้...ก็ในเมื่ออิหร่านมันอันธพาลทุกเรื่องอยู่แล้ว
ในโลกที่เต็มไปด้วยผู้ดี สื่อมวลชนผู้มีวิจารณญาณแสนดี และผู้นำที่มีอารยธรรมศิวิไลซ์สุดยอด ประเทศล้าหลังด้อยพัฒนาอย่างอิหร่าน...ยังต้องการการเรียนรู้และปรับปรุงตัวเองอีกมากเพื่อที่จะก้าวให้ทันโลก อิหร่านป่าเถื่อนอย่างไร? ปัญหาของอาห์มาดิเนจัดอยู่ตรงไหน? มีใครบางคนยินดีจะอธิบายเรื่องนี้...ให้ประชาชนบ้านๆ ทั่วไปสามารถค้นพบสัจจธรรมได้ภายใน 2 นาที
เขาคือ เทอรี โจนส์ (Terry Jones) ผู้กำกับ-นักเขียนบท-นักแสดงที่รวยอารมณ์ขันของอังกฤษ สมาชิกกลุ่มแอบเสิร์ดคอมมาดี Monty Python อันสุดจะบุกเบิกสร้างสรรค์มาตั้งแต่ยุคเจ็ดสิบ
0 0 0
หยามกันอย่างแรง?
ไม่คลุมหัว ไม่เฆี่ยนตี ไม่ช็อคด้วยไฟฟ้า
เห็นชัดเลยว่า...อิหร่านพวกนี้ไม่มีอารยธรรมเอาจริงๆ
เทอรี โจนส์
31 มีนาคม 2007
สื่ออังกฤษพากันแสดงความโกรธเกรี้ยวทนไม่ได้ กับสิ่งที่อิหร่านทำลงไปกับลูกเรือของเรา-ซึ่งถูกกล่าวหาว่าไปล่วงละเมิดน่านน้ำอิหร่านเข้า ผมขอร่วมโกรธด้วยคนสิ มันเป็นเรื่องเลวร้ายน่าอดสูใจจริงๆ ใครจะไปคิดล่ะว่า อิหร่านจะปฏิบัติต่อคนที่ถูกจับกุมตัวไปแบบนั้น - เป็นต้นว่า พวกเขาปล่อยให้ลูกเรือของเราสูบบุหรี่ สูบบุหรี่...ทั้งๆ ที่บุหรี่สามารถทำลายชีวิตคนสูบได้ ใครๆ ก็รู้และพิสูจน์กันมานานแล้ว แล้วยังจะมาบังคับให้ลูกเรือหญิงผู้น่าสงสารของเรา เฟย์ เทอร์นีย์ ต้องใส่ผ้าคลุมผมสีดำอีก แล้วยังปล่อยให้ภาพที่ว่าเผยแพร่ไปทั่วโลกอีก - - ดูสิ อิหร่านพวกนี้ไม่มีความคิดบ้างหรือไงว่า พฤติกรรมที่มีอารยธรรมมันเป็นยังไง? โอ...ได้โปรดเถอะ เห็นแก่พระเจ้าหน่อย ทำไมไม่รู้จักเอาถุงมาสวมหัวให้เธอซะบ้าง? ทำแบบเดียวกับที่เราทำตอนที่จับชาวมุสลิมมาได้นั่นแหละ : เอาถุงมาครอบหัวไว้ เพื่อให้หายใจลำบากนิดนึง หลังจากนั้น การถ่ายรูปและเผยแพร่ไปตามสื่อต่างๆ ก็จะเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ ไม่มีปัญหาอะไร เพราะคนที่ถูกจับตัวมาจะไม่มีใครจำหน้าได้ ไม่มีอะไรให้ต้องอับอายเสื่อมเสีย แบบเดียวกับที่เจ้าหน้าที่อังกฤษผู้โชคร้ายของเราต้องประสบพบเจอ
และมันก็เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้อีกน่ะแหละ เมื่อชาวอังกฤษที่ถูกจับตัวไปต้องถูกบังคับให้ออกมาพูดจาหน้าทีวี พูดในสิ่งที่พวกเขาอาจจะเสียใจทีหลังก็ได้ ทำไมอิหร่านไม่รู้จักเอาเทปใหญ่ๆ มาปิดปากพวกเขา เหมือนอย่างที่เราทำกับคนที่เราจับมาล่ะ แล้วพวกนั้นก็จะเปิดปากพูดไม่ได้ไปเอง แน่นอนว่า...สำหรับพวกเขา มันอาจจะหายใจยากลำบากขึ้นอีกนิด - เมื่อคิดว่ามีถุงครอบไว้บนหัวร่วมด้วย - แต่อย่างน้อยที่สุด...พวกเขาก็จะไม่ได้รับความอับอายหรือต้องรู้สึกเสียหน้าแต่ประการใด
แล้วมันอะไรกันนักหนาอีกล่ะเนี่ย ใครเขาปล่อยให้คนที่ถูกจับกุมตัวไป...เขียนจดหมายมาบอกที่บ้านว่าตัวเองปลอดภัยและสบายดี? ถึงเวลาที่อิหร่านจะต้องหัดเข้าแถวทำตามนานาอารยประเทศในโลกแล้ว : พวกเขาต้องหยิบยื่นความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ที่ถูกจับกุมมา...ด้วยการขังเดี่ยว และนี่ก็เป็นแค่หนึ่งในอภิสิทธิพิเศษอันมากมายที่อเมริกาภูมิใจมอบให้กับคนที่มันจับกุมคุมขังไว้ใน กวนตานาโม นั่นเอง
แต่สิ่งที่เป็นดัชนีชี้วัดอย่างแท้จริงถึงการเป็นประเทศศิวิไลซ์ไม่มีใครเทียบก็คือ ไม่ต้องรีบร้อนตั้งข้อหาคนที่ตัวเองจับกุมมาตามอำเภอใจ ดูคนที่ถูกกักกันไว้ในกวนตานาโมเป็นตัวอย่างสิ พวกนั้นต่างก็มีโอกาสเอ็นจอยกับความเป็นส่วนตัวทั้งหมดที่ต้องการมาตลอด 5 ปี คนที่ถูกจับมาตั้งแต่แรกเพิ่งจะได้รับการตั้งข้อหาไปเมื่อเร็วๆ นี้ ช่างตรงกันข้ามกับอาการรีบร้อนเกินงามของอิหร่าน ในการระดมผู้ถูกกักกันของมันมาโชว์ตัวต่อหน้ากล้อง!
แค่นั้นยังไม่พอ ชัดเจนเลยว่า อิหร่านไม่รู้จักให้นักโทษอังกฤษได้ออกกำลังกายอย่างถูกต้องเหมาะสม กองทัพอเมริกาทำทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจได้ว่า ชาวอิรักที่มันจับกุมมาจะได้รับโปรแกรมการฝึกร่างกายอย่างดี ด้วยรูปแบบของ "stress positions" (ท่าทางที่ผิดธรรมชาติและสร้างความเครียด-เทคนิคทรมานพื้นฐาน) อันน่าตื่นเต้น ซึ่งผู้ถูกจับกุมมักจะถูกบังคับให้ยืนตัวตรงเป็นเวลายาวนานหลายชั่วโมงติดกัน เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อท้องและน่อง โดยทั่วไป การฝึกร่างกายจะเกิดขึ้น ตอนที่พวกเขาถูกบังคับให้ยืนอยู่บนปลายนิ้วเท้าแล้วย่อตัวลงจนกระทั่งสะโพกขนานกับพื้น มันจะสร้างความเจ็บปวดตึงเครียดและกล้ามเนื้อล้มเหลวตามมาได้ในที่สุด มันเป็นเรื่องสนุกๆ ที่ดีต่อสุขภาพ มิหนำซ้ำ...ยังมีโบนัสแถมมาด้วย นั่นก็คือ ผู้ถูกจับกุมคุมขังจะสารภาพได้ทุกอย่างเพื่อที่จะหลุดพ้นจากกิจกรรมดังกล่าว
และเรื่องนี้เองที่นำไปสู่ประเด็นสุดท้ายของผม จากการปรากฏตัวในทีวีของเธอ เห็นได้ชัดอีกเหมือนกันว่า ลูกเรือหญิงเทอร์นีถูกทำให้ตกอยู่ภายใต้ความกดดันอะไรสักอย่าง บรรดาหนังสือพิมพ์ทั้งหลายได้เชิญชวนนักจิตวิทยามาตรวจสอบจับสังเกตอากัปกิริยาของเทอร์นีในวิดีโอที่เผยแพร่ออกมา พวกเขาต่างก็สรุปเหมือนๆ กันว่า เธอ "ดูเครียดและไม่มีความสุข"
สิ่งที่น่าขนลุกชวนให้สยดสยองตามมาก็คือ ชาวอิหร่านแอบใช้วิธีการลึกลับอะไรกัน...ที่ทำให้เธอ "ดูเครียดและไม่มีความสุข" เพราะเท่าที่มองเห็น เธอไม่มีรอยไหม้หรือถูกจี้ด้วยไฟฟ้า ที่ใบหน้าก็ปราศจากร่องรอยการใช้กำลังทุบตี โอ เรื่องนี้...เป็นอะไรที่ยอมรับไม่ได้เลยจริงๆ เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่ถูกจับตัวไปข่มขู่คุกคาม เป็นต้นว่า ใช้กำลังบีบบังคับให้ยอมทำท่าอนาจารบัดสี หรือถูกไฟฟ้าช็อคที่อวัยวะเพศแล้ว พวกเขาควรจะได้รับการถ่ายรูปบันทึกไว้ เหมือนกับที่เราทำที่ อาบูกราอิบ นั่นไง และรูปเหล่านั้นก็สมควรจะถูกแจกจ่ายเผยแพร่ไปทั่วสังคมของผู้มีอารยธรรมทั่วโลก เพื่อว่าเราทุกคนจะได้เห็นกันจะๆ ไปเลยว่า จริงๆ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่
และก็อย่างที่ สตีเฟน กลัฟเวอร์ (Stephen Glover) ได้พูดเอาไว้ในเดลีเมล์ บางทีมันอาจจะไม่ถูกต้องที่เราจะบอมบ์อิหร่าน เพียงเพื่อจะตอบโต้กับการที่อิหร่านหยามเกียรติ หยามศักดิ์ศรี และทำให้เจ้าหน้าที่ผู้รับใช้ชาติของเราต้องอับอาย แต่ถึงกระนั้น ชาวอิหร่านก็สมควรจะเป็นฝ่ายได้รับความเจ็บปวดกลับคืนไปบ้าง อาจจะโดยการเพิ่มความเข้มข้นในมาตรการคว่ำบาตร-อย่างที่เดลีเมล์แนะนำไว้ หรือด้วยวิธีการง่ายกว่านั้น อย่างเช่น ช่วยกันผลักดันให้ประธานาธิบดีบุชรีบบุกอิหร่าน-ซึ่งเขาก็ตั้งใจจะบุกอยู่แล้วเนี่ยนะ-ให้รวดเร็วทันใจขึ้นไปอีก ให้ประธานาธิบดีบุชรีบเอาประชาธิปไตยและความดีงามแบบตะวันตกไปมอบให้อิหร่านทีเถอะ ช่วยหน่อยเถอะ - - ทำแบบที่ทำกับอิรักไปแล้วน่ะแหละ o
. . .
(ปล. แอบเมาธ์ : จริงๆ แล้ว มีเรื่องหนักๆ โหดๆ อยู่ในสต็อคโกดังฮาร์ดดิสก์เต็มเลย แต่เขียนไป-กำจัดปลวกที่บ้านไป มัวแต่วุ่นวายไม่เสร็จซักที เลยต้องเอาชิ้นนี้มาแปลไปก่อน คิดซะว่าเป็น "การพักร้อน" รับเดือนเมษา ก็แล้วกันนะคะ...พ่อแม่พี่น้อง)
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)