ประชาไท - 25 เม.ย.50 เวลา 13.00 น. ชาวบ้านกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินทับสะแก รวมตัวกันบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อยื่นหนังสือต่ออำเภอในเรื่องการคัดค้านการกระทำของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ที่ยังเข้ามาสำรวจพื้นที่เพื่อทำการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ทั้งๆ ที่มีจดหมายจากกระทรวงพลังงานยืนยันว่าไม่มีนโยบายที่จะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่อำเภอทับสะแก
ผู้ชุมนุมประมาณ 100 คน ร่วมกันสวมเสื้อสีเขียว พร้อมกับถือธงสีเขียวด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อยืนยันการอนุรักษ์ดูแลทรัพยากรด้วยตนเอง และชูข้อความในแผ่นป้าย เช่น "คนทับสะแกรักธรรมชาติ ไม่ใช่ให้คนชาติชั่วมาทำลายธรรมชาติ" "ชาวทับสะแกต้องการน้ำฝน น้ำบริสุทธิ์ และใจบริสุทธิ์เท่านั้น" "โรงไฟฟ้ามหัตภัยอยู่ที่ไหนก็ฉิบหาย"
ในหนังสือที่ชาวบ้านต้องการยื่นระบุว่า ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่กฟผ.เข้ามาแจกเงินทำโครงการต่างๆ ด้วยเงิน 150 ล้านบาทที่อำเภอทับสะแก ซึ่งเป็นโครงการที่ไม่ได้เกี่ยวกับเนื้องานด้านไฟฟ้าของกฟผ. แต่พยายามอ้างว่านี่เป็นการประชาสัมพันธ์ เช่น จะลอกคลอง จะสร้างที่ว่าการอำเภอใหม่ เป็นต้น
ชาวบ้านเห็นว่าพฤติกรรมเช่นนี้ ถือเป็นการยั่วยุ ท้าท้าย ประชาชนที่คัดค้านโครงการโรงไฟฟ้า และตอกย้ำให้ประชาชนรู้สึกไม่ไว้วางใจกฟผ.และกระทรวงพลังงานมากยิ่งขึ้น จึงขอให้รัฐบาล คมช. กระทรวงพลังงาน และกฟผ. เข้าใจตรงกันว่า ชาวบ้านคัดค้านโรงไฟฟ้าทับสะแก เพราะเข้าใจและยืนยันที่จะดำรงชีวิตอย่างมั่นคงและกำหนดการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนด้วยตนเอง
โดยหนังสือฉบับนี้ระบุยื่นถึงทั้ง นายกรัฐมนตรี, ประธานคมช., รัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน, ประธานบอร์ดกฟผ. ,ผู้ว่ากฟผ. ,ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนายอำเภอทับสะแก
นางสาวสุรีรัตน์ แต้ชูตระกูล แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า ชาวบ้านไปยื่นหนังสือต่อหลายหน่วยงานที่กรุงเทพฯ ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ และได้รับจดหมายลงวันที่ 7 ก.พ. 50 ยืนยันจากกระทรวงพลังงานว่าจะไม่มีนโยบายจะก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ทับสะแก และจะรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนอย่างรอบด้านในการจัดทำแผนพัฒนาพลังงาน
แต่เมื่อวานนี้ (24 เม.ย.) ชาวบ้านกลับพบพนักงานกฟผ.ลงพื้นที่ทับสะแกเพื่อสำรวจสถานที่ก่อสร้าง ซึ่งชาวบ้านเห็นว่าเป็นการละเมิดสัญญาที่เคยให้ไว้ อีกทั้งยังมีการสร้างความแตกแยก ความขัดแย้งให้กับคนในพื้นที่ โดยการนำเงิน 150 ล้านบาทที่มีวาระแอบแฝงมาดำเนินโครงการในพื้นที่
นางสาวสุรีรัตน์กล่าวต่อว่า การชุมนุมในครั้งนี้เพื่อให้ส่วนราชการประสานกับกฟผ.ให้รักษาสัญญาของกระทรวงพลังงาน โดยต้องเชิญตัวแทนของกฟผ.ให้มารับรู้ และยืนยันสิทธิการมีส่วนร่วมของชาวบ้านในการตัดสินใจสิ่งที่กระทบต่อพวกเขา
เมื่อชาวบ้านชุมนุมกันอยู่หน้าที่ว่าการราว 2 ชั่วโมง จึงมีปลัดอำเภอลงมารับหนังสือ ชาวบ้านจึงสลายตัวไป พร้อมกับประกาศที่จะชุมนุมกันอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 30 เม.ย. 50 เพื่อกดดันต่อกฟผ.ต่อไป