Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 17 พ.ค. 50 วานนี้ (16 พ.ค.) เวลา 10.00น. ชาวบ้านป่างาม หมู่ที่ 3 ต.ตลิ่งชัน อ.จะนะ ได้รวมตัวกันคัดค้านคนงานของบริษัทปตท.ไม่ให้เข้ามาทำการวางและเชื่อมต่อแนวท่อก๊าซในพื้นที่บ้านป่างาม เพราะตั้งแต่นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตลิ่งชันที่มีคำสั่งให้ยุติและระงับการวางแนวท่อก๊าซจากบ้านป่างามไปยังโรงไฟฟ้าสงขลา เพราะกระทบกับชุมชน สิ่งแวดล้อมและทำให้ชุมชนมุสลิมเกิดความแตกแยก แต่ที่ผ่านมาบริษัทปตท.ยังฝ่าฝืนเข้ามาดำเนินงานทุกวัน เช่นเดียวกับวันนี้ชาวบ้านได้เข้าไปห้ามไม่ให้คนงานเข้ามาดำเนินการวางและเชื่อมท่อส่งก๊าซ ในขั้นแรกคนงานไม่ยอมและได้โทรศัพท์เรียกกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอจะนะลงมาจำนวน 1 รถกระบะ ประมาณ 10 นายทั้งในและนอกเครื่องแบบ


           


ชาวบ้านเครือข่ายคัดค้านจึงได้นำหนังสือคำสั่งของนายกองค์การบริหารส่วนตำบลตลิ่งชันเรื่องระงับและยุติการวางท่อก๊าซให้คนงานของบริษัทดู ซึ่งเมื่อคนงานอ่านอ้างว่าไม่ทราบว่ามีคำสั่งดังกล่าว และให้หนังสือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ลงมาเพื่อคุ้มกันคนงานของบริษัทปตท.ดู และบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าอย่ามาคุ้มกันกับบริษัทที่กระผิด เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นหนังสือฉบับดังกล่าว จึงกล่าวว่าบริษัททำไม่ถูกเพราะนายกอบต.สั่งระงับแล้วจากนั้นจึงเดินทางกลับ


           


หลังจากที่พล.ต.จำลอง คุณสงค์ เลขาธิการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ลงมาตรวจสอบแนวท่อก๊าซฯ ตามที่ชาวบ้านเครือข่ายคัดค้านท่อส่งก๊าซและโรงแยกก๊าซธรรมชาติไทย-มาเลเซียได้ส่งหนังสือร้องเรียนไป ดังนั้นในวันนี้พล.ต.จำลอง คุณสงค์ ได้ส่งหนังสือถึงผู้อำนวยการบริษัทการปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) ขอความร่วมมือกับบริษัทในการระงับการดำเนินวางท่อก๊าซไว้ก่อนแล้ว


           


ด้านพล.ต.จำลอง คุณสงค์ กล่าวว่าวันนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่และหนังสือขอให้บริษัทปตท.ระงับการวางท่อส่งก๊าซไว้ก่อน ส่วนเรื่องที่วันนี้ปตท.เรียกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงไปคุ้มกันนั้น พล.ต.จำลอง คุณสงค์ กล่าวว่าปตท.และตำรวจจะใช้กำลังกับชาวบ้านไม่ได้ เนื่องจากชาวบ้านปกป้องชุมชน ชาวบ้านกำลังเดือดร้อน สมมติกำลังมีคนจะเผาบ้านคิดอย่างไรกรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน หาก ปตท.ทำง่ายๆ เช่นนี้จะเป็นปัญหาบานปลายในอนาคต


           


ตัวแทนชาวบ้านเครือข่ายคัดค้านฯ กล่าวว่า ปัญหาของโครงการท่อส่งก๊าซและโรงแยกก๊าซธรรมชาติไทย-มาเลเซียก่อปัญหากับชุมชนมาอย่างยาวนานตั้งแต่กรณีการฮุบที่ดินสาธารณประโยชน์ การฮุบที่ดินวะกัฟของพี่น้องมุสลิม การละเมิดสิทธิของชุมชนด้วยการใช้กองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุม เหตุการณ์เหล่านี้เกิดในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนกระทั่งมีการปฏิวัติและพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี และกำลังจะหมดวาระแต่ปัญหาโครงการท่อก๊าซฯ ยังไม่ได้รับการแก้ไข และมีแนวโน้มว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยรัฐบาลทักษิณ เพราะ ปตท.กำลังใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงมาเพื่อจัดการกับเครือข่ายคัดค้านฯ แม้แต่ข้าราชการระดับจังหวัดและระดับอำเภอจะนะก็เอื้ออำนวยเห็นกับผลประโยชน์ของบริษัทมากกว่าความเดือนร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งเมื่อสมัยรัฐบาลทักษิณก็เป็นเช่นนี้


           


เวลานี้ ปตท.กลับวางแนวท่อส่งก๊าซเชื่อมต่อไปยังโรงไฟฟ้าโดยไม่ถามความคิดเห็นของชาวบ้าน ไม่มีการศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และไม่ให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมและยังกำหนดวางแนวท่อส่งก๊าซผ่ากลางชุมนุม ในวันนี้บริษัท ปตท.เองมีการสร้างสถานการณ์ขึ้นในพื้นที่ โดยให้คนในชุมชนที่สนับสนุนโครงการโปรยเรือใบตามเส้นทางที่เครือข่ายคัดค้านฯจะใช้สัญจร ในเรื่องนี้ทางเครือข่ายคัดค้านฯ เห็นว่าอาจเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อให้เจ้าหน้าที่เห็นว่ามีการก่อความวุ่นวายและไม่ปลอดภัย เพื่อสร้างความชอบธรรมให้บริษัทปตท.ในการขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลงมาในพื้นที่


           


ทั้งนี้ เพิ่งทราบจากพล.ต.จำลอง คุณสงค์ว่า นายประสงค์ รัตนพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามตรวจสอบการดำเนินโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติไปยังโรงไฟฟ้าจะนะ ตามคำสั่งจังหวัดสงขลาที่ 1063/2550 โดยมีนายอำเภอจะนะเป็นประธานนั้น


 


อย่างไรก็ตาม พวกเขาขอปฏิเสธคณะกรรมการชุดนี้เนื่องจากขาดความชอบธรรม ขาดความโปร่งใสและไม่มีความเป็นกลาง รายชื่อคณะกรรมการในส่วนของชาวบ้านที่แต่งตั้งล้วนเป็นคนของนายโส๊ะ หัดเหาะอดีตนายกอบต.ตลิ่งชันและเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแนวท่อก๊าซ และหลายคนเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากปตท.และกฟผ. เช่น นางแหมะ หัดยุมสาตัวแทนกลุ่มแม่บ้านหมู่ที่ 3 ต.ตลิ่งชัน ซึ่งเป็นพี่สะไภ้ของคนที่ทำงานให้กับบริษัท และกลุ่มแม่บ้านดังกล่าวกฟผ.และปตท.เคยพาไปเที่ยวและดูงานมาแล้ว และได้รับงบประมาณจาก กฟผ.เป็นจำนวนเงิน 200,000 บาทเพื่อซื้อเครื่องมือทำขนม ตัวแทนโต๊ะอิหม่ามบ้านป่างาม บ้านตลิ่งชัน และบ้านปลักคุย ซึ่งมัสยิดเหล่านี้ล้วนรับเงินสนันสนุนจากปตท.และกฟผ.ทั้งสิ้น แม้แต่นายอำเภอจะนะที่ทำหน้าที่ประธานยังให้ อส.มาข่มขู่ชาวบ้านที่ไม่ยอมขายที่ดินให้กับปตท. แต่ไม่มีตัวแทนของเครือข่ายคัดค้านแม้แต่คนเดียวที่ได้เข้าไปร่วมเป็นคณะกรรมการฯ ดังนั้นการที่นายประสงค์ รัตนพันธ์ตั้งบุคคลเหล่านี้เป็นคณะกรรมการฯนั้น พวกเขาไม่ยอมรับอย่างแน่นอนเพราะแต่งตั้งเฉพาะผู้ที่สนับสนุนโครงการทั้งสิ้น


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net