Skip to main content
sharethis

การเมือง


 


 


4 โจรใต้กระหน่ำยิงอส.ดับอนาถก่อนฉกปืนหนี


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - นายดอเลาะ เจ๊ะยะ อายุ 58 ปี เป็นอาสาสมัครอำเภอเมืองปัตตานี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้าลำตัวและศรีษะรวม 6 นัด เสียชีวิต บนถนนสายกรือเซะ - คลองมานิง ม.1 ต.คลองมานิง อ.เมือง ปัตตานี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.เมือง ปัตตานี ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ รถ จักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิล้มอยู่ข้างทาง ห่างกันประมาณ 10 เมตรมีผู้เสียชีวิตนอนตายจมกองเลือดมีภรรยาและลูกนั่งกอดศพของข้าง ๆ พบปลอกกระสุนจำนวน 6 ปลอกจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน


 


สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ผู้ตายขับรถ จยย.จะกลับบ้านพัก เมื่อถึงที่เกิดเหตุมีคนร้าย 4 คนใช้รถ จยย. จำนวน 2 คันขับตามหลัง เมื่อผู้ตายเผลอคนร้ายจึงตามประกบแล้วใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงทันที จนผู้ตายกระเด็นตกจากรถ คนร้ายยังได้ยิงซ้ำอีกจนเสียชีวิตทันที จากนั้นคนร้ายยังได้ขโมยอาวุธปืนขนาด .357 ของผู้ตายหลบหนีไปด้วย อย่างไรก็ตามเมื่อกลางปี 48 ผู้ตายเคยถูกยิงมาแล้วบาดเจ็บสาหัส กระทั่งครั้งนี้ถูกยิงซ้ำจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่เชื่อเป็นฝีมือโจรใต้สร้างสถานการณ์


 


และเวลา 20.00 น. ขณะที่นายซุนกัรนีย์ อับดุลวาฮับ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/1 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ขับรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าจะกลับบ้านพัก มาถึงที่บนถนนในหมู่บ้านถูกคนร้าย 2 คนขับรถ จยย.ตามประกบยิงจำนวน 3 นัดจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไป หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.สการียา ยูโซะ รอง ผกก.สส.สภ.อ.สายบุรี จ.ปัตตานี นำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าผู้ได้รับบาดเจ็บมีพลเมืองดีนำส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราชสายบุรีแล้ว เชื่อเป็นการสร้างสถานการณ์ใต้


 


 


กมธ.มีมติโอน ศอ.บต.สังกัดกระทรวงมหาดไทย


ผู้จัดการออนไลน์ - พล.อ.ปานเทพ ภูวนารถนุรักษ์ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต.เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ มีมติที่จะให้ ศอ.บต.เป็นหน่วยงานเฉพาะกิจในกำกับของกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้สามารถแต่งตั้งรองปลัดกระทรวงมหาดไทยขึ้นมาทำหน้าที่ดูแล ศอ.บต.ได้ แม้จะยังขัดกับคำสั่งของนายกรัฐมนตรีที่ 207 ที่ให้ ศอ.บต.อยู่ในสังกัดของสำนักนายกรัฐมนตรี โดยเห็นว่าหากเป็นเช่นเดิม ก็ไม่สามารถที่จะดำเนินการในการแต่งตั้งรองปลัดกระทรวงมหาดไทยขึ้นมาทำหน้าที่ได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานเพื่อทำความเข้าใจกับรัฐบาล ก่อนจะนำเสนอต่อร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของ สนช.ในวันพุทที่ 30 พฤษภาคมนี้


 


ทั้งนี้ พล.อ.ปานเทพ ยังยืนยันด้วยว่า การไม่มีพระราชบัญญัติ ศอ.บต.ไม่ใช่ปัญหาในการแก้ไขปัญหาเหตุรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากเห็นว่าคำสั่งของนายรัฐมนตรีที่ 207 ศอ.บต.สามารถดำเนิงานได้อย่างเต็มที่อยู่แล้ว แต่การแก้ไขปัญหาของ ศอ.บต.ต้องใช้เวลาระยะยาว


 


 


มท.2กำชับ ผวจ.สกัดม็อบเข้า กทม.ป่วนวันชี้ขาดคดียุบพรรค


กรมประชาสัมพันธ์ - นายบัญญัติ จันทน์เสนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติออกมาระบุว่า มีการรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมจากต่างจังหวัดเพื่อเตรียมเข้ากรุงเทพมหานคร ในวันตัดสินคดียุบพรรคการเมืองว่า ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยได้มีแนวทางแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งกำชับไปยังทุกจังหวัดแล้ว ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลงพื้นที่สำรวจความเดือดร้อนของประชาชนอย่างใกล้ชิด และให้การแก้ไขปัญหาให้เสร็จเรียบร้อยในพื้นที่ เนื่องจากการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ จะก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมาย ไม่ว่าจะเรื่องการจราจรติดขัดหรือเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งนี้ เชื่อว่าหากประชาชนได้รับการดูแลจากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเป็นอย่างดี ก็จะสามารถยับยั้งการเดินทางเข้ามาชุมนุมได้ ส่วนหากมีการชุมนุมแล้วเกิดการปะทะกันขึ้นนั้น เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบก็มีมาตรการรับมืออยู่แล้ว


 


 


 


"หมอวิชัย" ปลุกระดมแท็กซี่เปิดไฟหน้ารถสู้คดียุบพรรค


เว็บไซต์เดลินิวส์ - น.พ.วิชัย ชัยจิตรวณิชกุล อดีตส.ส.อุดรธานี พรรคไทยรักไทย กล่าวถึงการตัดสินคดียุบพรรคของตุลาการรัฐธรรมนูญที่จะมีขึ้นในวันที่ 30 พ.ค. ว่า ขอเสนอให้ชมรมแท็กซี่ในกทม.และปริมณฑล ที่มีอยู่ประมาณ 6 หมื่นคัน ร่วมกันรณรงค์เปิดไฟหน้ารถ และติดธงแดง ตั้งแต่วันวันอาทิตย์ที่ 27 พ.ค.เป็นต้นไป เพื่อแสดงออกถึงคนที่รักความยุติธรรม เรียกร้องให้ตุลาการรัฐธรรมนูญมีความเป็นธรรมในการตัดสินคดียุบพรรค เนื่องจากพรรคไทยรักไทยไม่ได้ทำผิดอะไร การรณรงค์ดังกล่าวก็เพื่อแสดงเจตนารมณ์ของคนที่รักพรรคไทยรักไทย แสดงให้เห็นถึงความผูกพันไว้ใจมากกว่าที่คมช.คาดคิด ซึ่งเราจะใช้แนวทางอหิงสาลักษณะนี้ ไม่ใช้วิธีการเผชิญหน้า ฉะนั้นคมช.ไม่ต้องตื่นเต้น ขาสั่น โดยยืนยันว่าวันที่ 30 พ.ค.ไม่ใช่วันสุดท้ายของพรรคไทยรักไทยแน่ ทั้งนี้ขอเชิญชวนประชาชนทั่วไปที่รักความยุติธรรมร่วมกันรณรงค์ในแนวทางดังกล่าวด้วย และในอนาคตข้างหน้าถ้ามีการปฏิวัติซ้ำ หรือมีการยึดอำนาจคืนจากพล.อ.สุรยทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ก็จะเรียกร้องให้ชมรมแท็กซี่ออกมาจอดรถล็อคกุญแจให้ทั่วท้องถนน เพื่อปิดทางรถถัง จะดูว่าวันนั้นรถถังสามารถออกมาได้หรือไม่


 


 


สนช.เห็นชอบยุบรวม'กทช.-กสช.' เสนอรัฐบาลตั้งองค์กรเดียวดูแล


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)มีมติเห็นชอบรายงานศึกษาแนวทางการแก้ไขกฎหมายโทรคมนาคมและการสื่อสารซึ่งคณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มีนายสุพัทธ์ พู่ผกา สมาชิก สนช. เป็นประธานคณะกรรมาธิการ ได้พิจารณาเสร็จแล้ว โดยส่งให้รัฐบาลไปดำเนินการต่อไปพร้อมข้อเสนอแนะ



โดยมีข้อสรุป คือ 1. ควรปรับปรุงแก้กฎหมายองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ โดยให้มีองค์กรกำกับด้านโทรคมนาคม และกิจการวิทยุโทรทัศน์ เพียงองค์กรเดียว โดยให้รวม กทช. และ กสช.เข้าเป็นองค์กรเดียวโดยอาจใช้ชื่อ "คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ" (กสทช.) จำนวน 9 คนโดยมีวาระดำรงตำแหน่งครั้งละ 5 ปี และควรมีการตั้ง"คณะกรรมการกำกับดูแลเนื้อหา"ควบคุม


 


2. ควรตัดการกำหนดนโยบายออกจากอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการกำกับดูแล ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐบาล 3. ควรปรับปรุงกระบวนการได้มา การประเมินผลและกระบวนการถอดถอนคณะกรรมการของหน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงการวางกลไกในการเปิดเผยข้อมูลในการดำเนินงาน โดยเสนอให้วุฒิสภาหรือรัฐสภาเป็นผู้ทำหน้าที่ประเมินผล และมีอำนาจถอดถอนคณะกรรมการ


 


4. ควรปรับปรุงแก้ไขหมวดที่ 2 ของกฎหมายโดยกำหนดอย่างชัดเจนให้ผู้รับสัมปทานที่โอนกรรมสิทธิ์ในโครงข่ายของตนให้แก่รัฐ มีสิทธิและหน้าที่ในการเชื่อมต่อโครงข่ายและควรกำหนดให้การคิดค่าเชื่อมต่อโครงข่ายต้องอ้างอิงจากต้นทุน ทั้งนี้การแก้ไขบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวจะทำให้รัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะ ทศท.เสียผลประโยชน์ ในขณะที่รัฐวิสาหกิจอีกแห่งคือ กสท.โทรคมนาคม และเอกชนจะได้ประโยชน์ก็ตาม


 


5.ควรโอนอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลผู้รับสัมปทานจากหน่วยงานรัฐให้แก่ กทช.อย่างชัดเจน โดยให้หน่วยงานผู้ให้สัมปทานยังคงมีอำนาจหน้าที่เฉพาะการตรวจสอบ การปฏิบัติสัญญาของผู้รับสัมปทาน เพื่อรักษาผลประโยชน์ตามสัญญาสัมปทานเท่านั้น พร้อมกันนี้ยังเสนอให้แก้ไข การกำหนดราคาค่าบริการ โดยให้โอนอำนาจการกำกับดูแลด้านราคาจากหน่วยงานรัฐที่ให้สัมปทานมายัง กทช. หรือ กสทช. และ


 


6. ควรกำหนดให้มีย่านความถี่ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้โดยไม่ต้องขออนุญาต และให้แก้ไขกฎหมายเพื่อขอให้ย่านความถี่ใดเป็นย่านความถี่ที่สามารถใช้ได้โดยไม่ต้องขออนุญาต โดยกำหนดทั้งหลักเกณฑ์ในการยื่นคำร้อง และกรอบเวลาที่กทช.จะใช้ในการพิจารณาอนุมัติ


 


 


นายกฯ แก้กฎหมาย ป.วิอาญา เพราะทำให้ตำรวจทำงานลำบาก


กรมประชาสัมพันธ์ - พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า จะปรับเพิ่มตำแหน่งที่มีความจำเป็น ที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องการปรับปรุงการบริหารงานบุคคลให้มากขึ้น ในส่วนของผู้ปฏิบัติจะมีการปรับปรุงโรงพักด้วย เพราะถือเป็นส่วนสำคัญที่สุด


 


 


สำหรับกฎหมาย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หรือ ป.วิอาญา ที่ทำให้ตำรวจทำงานด้านการจับกุมลำบากขึ้นนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะหารือกันในส่วนของกระทรวงยุติธรรม และผู้ใช้กฎหมายในส่วนต่างๆ เพื่อประมวลว่า ควรมีการปรับปรุงแก้ไขอย่างไร


 


 


 


นักวิชาการย้ำ ให้สำนักงานประกันสังคมเป็นองค์กรอิสระ ป้องกันการเมืองแทรก


กรมประชาสัมพันธ์ - นิพนธ์ พัวพงศกร คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงการยกร่างแก้ไขพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ.2533 โดยให้สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เป็นองค์กรมหาชน ว่า สาเหตุที่ต้องสนับสนุนมีการแก้กฎหมายประกันสังคม เพื่อตีกรอบบทบาทและอิทธิพลทางการเมืองไม่ให้แทรกแซงเข้าไปในระบบประกันสังคมได้ รวมทั้ง ต้องการให้ระบบยั่งยืน เมื่อเกิดวิกฤตในระบบเศรษฐกิจก็จะไม่เกิดปัญหา เนื่องจากขณะนี้ประกันสังคมยังถูกครอบงำจากนักการเมืองและข้าราชการประจำ ทั้งนี้ เห็นว่าขณะนี้ลูกจ้างและนายจ้างมีความรู้มากขึ้น ดังนั้นราชการควรคืนกรรมสิทธิ์ในกองทุนประกันสังคมให้อยู่ในอำนาจของลูกจ้างและนายจ้าง


 


นิพนธ์ กล่าวว่า การแก้ไขกฎหมายประกันสังคมควรยึดหลัก 2 ประการ คือ ต้องทำให้ลูกจ้างและนายจ้างรู้สึกเป็นเจ้าของเงินกองทุน เพื่อดูแลผลประโยชน์ในระยะยาว และต้องลดการครอบงำจากระบบราชการและการเมือง โดยผู้ที่เข้ามาบริหารต้องไม่ใช่นักการเมือง


 


 


ด้านอภัย จันทนจุลกะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งมีการหารือกับนายจุฑาธวัช อินทรสุขศรี ปลัดกระทรวงแรงงานในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด) สปส. และทราบว่า สปส. ได้ให้นักวิชาการไปศึกษาแนวทางการดำเนินการ โดยผลสรุปออกมา 2 แนวทาง คือ แยก สปส.ออกเป็นองค์กรมหาชนทั้งหมด และแยกเฉพาะสำนักบริหารการลงทุน (สบร.) ออกมาเป็นหน่วยงานพิเศษ


 


 


เกียรติชัย เชื่อ รธน.ใหม่ให้เสรีภาพสื่อ


ไอ.เอ็น.เอ็น. - นายเกียรติชัย พงษ์พานิชย์ สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร.กล่าวในระหว่างการเสนาเรื่องสื่อมวลชนกับรัฐธรรมนูญว่า รัฐธรรมนูญ 2550 สร้างจากความคิดเห็นของภาคส่วนต่างๆ ที่ต้องการให้สิทธิเสรีภาพแก่สื่อมวลชน ส่วนในร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ในมาตราที่ 35 เพิ่มข้อความว่า การเปิดเผยข้อมูลบุคคลจะกระทำไม่ได้หากไม่ได้รับการยอมรับนั้น เห็นว่าเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของหนังสือพิมพ์มาก และเชาได้ขอแปรญัตติและได้รับการยอมรับจากคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญแล้ว อย่างไรก็ตามได้เสนอขอให้บัญญัติคำว่าภาพยนตร์เป็นสื่อสารมวลชนไว้ในรัฐธรรมนูญด้วย


 


 


กทม. เปิดอบรม"จิตวิทยาด้านการข่าว"ดึงรัฐ-ปชช.ร่วมป้องกันภัย


ไอ.เอ็น.เอ็น. - นายรัฐพล มีธนาถาวร รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการฝึกอบรมการปฏิบัติการจิตวิทยา ประชาสัมพันธ์และการข่าวให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบบัติงานความมั่นคงของสำนักงานเขตทั่วพื้นที่ จำนวน 110 คน เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจให้กับบุคลากรผู้ปฏิบัติงานและประสานงานด้านความมั่นคงระหว่างกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ กอ.รมน.กทม. สำนักงานเขตและประชาชนในพื้นที่รวมทั้งการประสานงานด้านการข่าวกับหน่วยงานความมั่นคงและรายงานความผิดปกติในพื้นที่ให้ กอ.รมน.กทม.รับทราบสร้างความร่วมมือร่วมใจกับทางราชการในการระมัดระวังป้องกันภัยคุกคามที่เกิดขึ้น เพื่อให้การดำเนินงานของกรุงเทพมหานครเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ


 


 


 


เศรษฐกิจ


 


 


เกริกไกร รับส่งออกเกิน!ปมสหรัฐจ่อตัด GSP ไทย


ไอ.เอ็น.เอ็น. - นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่าไม่อยากให้ทุกฝ่ายวิตกกังวลต่อการตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร หรือ จีเอสพี ของสหรัฐที่เคยให้กับประเทศไทยมากนักเพราะการให้สิทธิจีเอสพีมีหลักเกณฑ์กำหนดวงเงินและเพดานการนำเข้าอย่างชัดเจน และเมื่อถึงรอบการพิจารณาหากประเทศไทยส่งออกเกินเพดานการจะถูกตัดสิทธิจีเอสพีเป็นเรื่องปกติโดยการทบทวนจีเอสพีรอบปี 2551 นี้มีสินค้า 3 รายการของประเทศไทยประกอบด้วยอัญมณีที่ทำจากทองคำ ยางรถยนต์และทีวี ซึ่งเข้าเกณฑ์จะถูกตัดจีเอสพีเพราะส่งออกเกินเพดานมาก


 


นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ยังกล่าวอีกว่าปัจจุบันจีเอสพีมีความสำคัญร้อยละ 20 ของการส่งออกของประเทศไทยไปสหรัฐอเมริกาทั้งหมดหรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2-3 พันล้านเหรียญสหรัฐ


 


 


กรมบัญชีกลาง ยันไม่มีปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ


กรมประชาสัมพันธ์ - นายมนัส แจ่มเวหา รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยถึงการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในปัจจุบัน โดยผ่านระบบการบริหารการเงินการคลังภาครัฐสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ GFMIS ว่า มีความคล่องตัวมากขึ้น โดยใช้เวลารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 3 วันทำการ ดังนั้น จึงไม่มีปัญหาเรื่องเงินตกค้างที่คลังจังหวัดอย่างแน่นอน หรือหากพบว่ามีปัญหาไม่สามารถโอนเงินเข้าบัญชีผู้ประกอบการได้ ก็จะดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุของปัญหาและดำเนินการเพื่อแก้ไขต่อไปทันที


 


สำหรับการช่วยเหลือในการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น นอกจากการเบิกจ่ายเงินให้แก่ผู้รับเหมาผ่านระบบ GFMIS ที่ดำเนินการได้ภายใน 3 วันทำการแล้ว ยังได้เสนอมาตรการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู และพัฒนาเศรษฐกิจในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจในเบื้องต้น เพื่อให้คณะรัฐมนตรีพิจารณากระตุ้นเศรษฐกิจให้แก่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 2 แนวทาง เกี่ยวกับการผ่อนผันการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้ส่วนราชการสามารถดำเนินการได้สะดวกคล่องตัว รวดเร็ว และเร่งรัดให้เบิกจ่ายเงินให้แก่ผู้รับจ้างเร็วขึ้น


 


 


 


ธปท.เผยหนี้เน่าแบงก์ 2.4 แสนล. ชี้เพิ่มตามภาวะเศรษฐกิจขาลง


เว็บไซต์แนวหน้า - ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานข้อมูลยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ล่าสุดเดือนเมษายน 2550 พบว่า สถาบันการเงินทั้งระบบมีเอ็นพีแอลรวม 240,318.57 ล้านบาท หรือคิดเป็น 4.18% ของสินเชื่อรวม เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนเพิ่มขึ้น 399.83 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.16% โดยเป็นเอ็นพีแอลที่เกิดจากธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบ 238,171.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 398.18 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.16% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนมี 237,773.65 ล้านบาท คิดเป็นสินเชื่อ รวม 4.16% แยกเป็นเอ็นพีแอลที่เกิดจากธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในประเทศ 235,209.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 411.42 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.17% คิดเป็นสินเชื่อรวม 4.57%


 


นอกจากนี้ยังมีเอ็นพีแอลที่เกิดจากบริษัทเงินทุน (บง.) 1,851.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น1.48 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.08% คิดเป็นสินเชื่อรวม 5.18% และเป็นเอ็นพีแอลจากบริษัทเครดิตฟองซิเอร์(บค.) 295.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.17 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น0.05% คิดเป็นสินเชื่อรวม 67.65%ขณะที่เอ็นพีแอลของสาขาธนาคารต่างประเทศมี 2,962.80 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 13.24 ล้านบาท หรือลดลง 0.44% คิดเป็นสินเชื่อรวม 0.52%


 


นายเกริก วณิกกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ภาวะการเกิดเอ็นพีแอลถือว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจขาลง ซึ่งเอ็นพีแอลในเดือนนี้เพิ่มขึ้นเพียง 399.83 ล้านบาทเท่านั้น ถือว่าเพิ่มขึ้นน้อยมาก ยังไม่น่ากังวล อย่างไรก็ตามธปท.ยังคงเป้าการลดเอ็นพีแอลให้เหลือ 2 % ในปี 2550 นี้เช่นเดิม


 


 


 


ต่างประเทศ


 


 


"เดอเจนเนอส์" ไอแซคนิวตันแห่งยุค ผู้ให้กำเนิด "แอลซีดี" ลาโลกแล้ว


ผู้จัดการออนไลน์ - "เดอ เจนเนอส์" นักฟิสิกส์รางวัลโนเบลชาวฝรั่งเศส ผู้นำการศึกษาเทคนิคผลึกเหลว เสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 18 พ.ค.ผ่านมา ผลงานของเขาเป็นรากฐานการพัฒนาใช้จอ "แอลซีดี" อย่างแพร่หลาย และด้วยความสามารถที่หลากหลายทั้งฟิสิกส์ โพลิเมอร์ ชีววิทยา ศิลปะ นอกจากเขาได้รับขนานนามให้เป็น "บิดาแห่งแอลซีดี" แล้ว ยังได้รับการยกย่องให้เป็น "ไอแซคนิวตันแห่งยุค" อีกด้วย


 


ปิแยร์-จิลเลส์ เดอ เจนเนอส์ (Pierre-Gilles de Gennes) นักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศส ผู้ค้นพบเทคนิคที่นำไปสู่การพัฒนาจอภาพแบบผนึกเหลว (liquid crystal display : LCD) ที่กลายเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานสำคัญตามอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ในปัจจุบันทั้งจอโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบที่บ้านเมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมาด้วยวัย 74 ปี โดยมีภรรยาและลูก 3 คนคอยดูแล


 


"เดอ เจนเนอส์" ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี 2534 จากผลงานการค้นคว้าที่ไม่เคยมีผู้ใดทำได้มาก่อนในเรื่อง "ผลึกเหลว" (liquid crystals) การทำให้สารมีคุณสมบัติเป็นทั้งของเหลวและผลึก อีกทั้งยังศึกษาในเรื่องโพลิเมอร์ โดยคณะกรรมการพิจารณารางวัลยังได้ยกย่องให้เขาเป็นเสมือน "ไอแซค นิวตันแห่งยุคสมัย"


 


ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี (Nicolas Sarkozy) แห่งฝรั่งเศส กล่าวอาลัยต่อการสูญเสียเดอ เจนเนอส์นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลก โดยให้คำจำกัดความเดอเกนส์ว่า เป็นนักฟิสิกส์ที่พิเศษและเป็นหนึ่งในสุดยอดนักวิทยาศาสตร์ ขณะที่นายกรัฐมนตรีฟรังซัวส์ ฟิยง (Francois Fillon) สรรเสริญเดอ เจนเนอส์ว่า เขาเป็นผู้ที่มีความเมตตา และเป็นเครื่องหมายแห่งความสุดยอดในวงการวิจัยของฝรั่งเศส


 


 


ยูเอ็นตั้ง "กัมบารี" เป็นผู้แทนติดตามปฏิรูปปชต.พม่า


ศูนย์ข่าวแปซิฟิค - นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ แต่งตั้งนายอิบราฮิม กัมบารี นักการทูตชาวไนจีเรีย รับหน้าที่ผู้แทนยูเอ็นในกิจการเพื่อปฏิรูปประชาธิปไตยพม่า แถลงการณ์แต่งตั้งระบุว่า ภารกิจของนายกัมบารี จะต้องทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของยูเอ็นในกระบวนการปฏิรูปประชาธิปไตยพม่า นอกจากนี้ นายกัมบารี จะต้องร่วมมือกับรัฐบาลทหารพม่าและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้กระบวนการมีความคืบหน้านำไปสู่การฟื้นฟูประชาธิปไตยและการปกป้องสิทธิมนุษยชน


 


สำหรับนายกัมบารี เป็นอดีตผู้ช่วยเลขาธิการสหประชาชาติในกิจการการเมือง และดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาพิเศษของนายบัน คี มูน ในกิจการฟื้นฟูเศรษฐกิจอิรัก รวมถึงประเด็นการเมืองระหว่างประเทศทั่ว ๆ ไปตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคม ด้านสหประชาชาติและชาติตะวันตกกล่าวหารัฐบาลทหารพม่าพยายามถ่วงเวลาการปฏิรูปประชาธิปไตยในพม่ามาโดยตลอด นอกจากนี้ ยังพยายามเรียกร้องและกดดันให้รัฐบาลทหารพม่าปล่อยตัวนักโทษการเมืองที่ประมาณการว่ามีกว่า 1,000 คน รวมทั้งนางออง ซาน ซู จี ผู้นำฝ่ายค้าน ที่ถูกทางการกักบริเวณในบ้านที่กรุงย่างกุ้งเป็นเวลานานกว่า 10 ปี


 


 


 


คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม


 


 


นายกฯ หนุนเอกชนลงทุนมาบตาพุด


เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น - พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เพื่อติดตามความคืบหน้าการลดมลพิษของโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ ว่า หลังจากรับฟังรายงานการลดมลพิษที่เป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งรัฐ เอกชน และชุมชนในพื้นที่ พบว่า สามารถลดมลพิษลงได้ระดับที่น่าพอใจและเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ส่งผลให้สามารถอนุมัติโครงการลใหม่ๆเข้าลงทุนในพื้นที่นิคมฯได้ อย่างไรก็ตามการลดมลพิษยังคงต้องดำเนินต่อไป จนครบกำหนดปี 2554 ซึ่งจะสามารถชี้วัดความสำเร็จได้ภายใน 3-4 ปี เพราะความสำเร็จไม่สามารถชี้วัดได้ในระยะเวลาเพียง 6 เดือน ดังนั้นทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน โดยชุมชนในพื้นที่ต้องเข้ามามีบทบาทตรวจสอบ ดังนั้นจึงยืนยันได้ว่าจะไม่มีการประกาศจ.ระยองเป็นเขตควบคุมมลพิษ เพราะอาจเกิดผลเสียมากกว่าผลดี ซึ่งจากการติดตามแผนการลดมลพิษของโรงงานต่างๆในนิคมฯก็ถือว่าดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนด เช่น สารระเหยที่เป็นมลพิษต่ออากาศ


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net