รศ.ดร. นครินทร์ เมฆไตรรัตน์ (ที่มาของภาพ : สารคดี)
รศ.ดร.
รศ.ดร.นครินทร์ กล่าวว่า เท่าที่ตนสังเกตกลุ่ม นปก. มีเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน คลุมเครือ อย่างน้อย 5 ประเด็นที่เห็นอยู่คือ 1.ไล่ คมช. 2.คว่ำรัฐธรรมนูญ 3.เรียกร้องให้พ.ต.ท.ทักษิณกลับมา 4. ประท้วงการยุบพรรค 5.ประท้วงการตัดสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยทั้ง 111 คน ทำให้มวลชนลังเล บางคนอยากไล่ คมช. แต่ก็เห็นความจำเป็นต้องคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ หรือต้องเอาพ.ต.ท.ทักษิณกลับมา
รศ.ดร.นครินทร์ กล่าวว่า ปัญหาที่เป้าหมายการเคลื่อนไหวแตกแยกกันแบบนี้ เป็นเพราะแกนนำมีวาระที่ไม่เหมือนกัน บางคนต่อสู้เพื่อต้องการประชาธิปไตย แต่บางคนต่อสู้เพื่อนาย เมื่อผนึกกำลังในระดับแกนนำไม่สำเร็จ ก็ไม่สามารถสร้างการนำที่มีพลัง จะระดมมวลชนจำนวนมากเข้ามาได้ เต็มที่ก็จะมีคน 1-2 หมื่นเข้ามาเรื่อย ๆ และคนจะเหนื่อยล้าไปเอง ไม่สามารถทนทานต่อค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทุกวันได้
"ปัญหาของ นปก. คือแกนนำไม่สามารถเคลียร์ประเด็นที่ทับซ้อนกันอยู่ให้เป็นหนึ่งเดียวได้ เพราะแต่ละคนมีวาระเป็นของตัวเอง ผมคิดว่าการจัดชุมนุม ผู้นำมีความสำคัญ ต้องมีความบริสุทธิ์ใจ และมีต้นทุนทางสังคมพอสมควร ซึ่งผมเห็นอย่างมากแค่ 3 คน ที่ยังพอไหว แต่ทีเหลือหมดสภาพ ไม่สามารถสร้างพลังได้ แต่ไม่เชื่อว่าจะไปสู่ความรุนแรงได้ คนที่หวังจะไปเผาสถานที่ราชการให้เกิดความปั่นป่วน จนเป็นเงื่อนไขให้เกิดการปราบปราม ต้องพร้อมที่จะเป็นผู้ก่อการร้าย เพราะโลกสมัยนี้ไม่ใช่ทำกันง่าย ๆ แค่มีการถ่ายรูปในโทรศัพท์ คุณก็เป็นผู้ร้ายแล้ว" รศ.ดร.นครินทร์กล่าวและว่า นปก. จะมีเวลาชุมนุมอีกไม่นาน เพราะถ้าประชาชนผ่านประชามติรัฐธรรมนูญ จะหมดความชอบธรรมในการชุมนุมทันทีเพราะทุกอย่างจะเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง
"การนำรูปปั้นของมหาตมะ คานธี ผู้นำทางจิตวิญญาณ และผู้นำทางการเมืองที่ต่อสู้ด้วยวิธีอหิงสาของอินเดีย มาเป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู้นั้น ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ถ้าจะใช้มหาตมคานธีเป็นสัญลักษณ์ ก็ต้องปฏิบัติให้ได้เช่นนั้นจริง เพราะมหาตมะคานธี นั่งชุมนุมสร้างบารมีอย่างยาวนานถึง 2 ปี จนเกิดพลัง และความศรัทธาจากประชาชนอินเดียออกมาร่วมต่อสู้กับอังกฤษด้วยความสงบ อหิงสา ถามว่า นปก. อยู่แบบนี้ได้หรือไม่ ตอนมีคนมาลอบสังหารท่านมหาตมะคานธี ท่านก็ไม่ได้ต่อสู้อะไร และยืนให้เขายิงด้วยซ้ำ ซึ่งผมไม่เชื่อว่า นปก. จะทำอย่างนี้ได้ " นักวิชาการ ม.ธรรมศาสตร์ และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญกล่าว
นอกจากนี้ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ยังรายงานความเห็นของ รศ.ดร.
ที่มา : เรียบเรียงจากเว็บไซต์คมชัดลึกและไทยรัฐ