ชื่อบทความเดิม : วันสตรีแห่งสหภาพพม่า
เสียงจากนักโทษการเมืองหญิง...จากบ้านริมทะเลสาบ ถึงคุกอินเซน
รายงานโดย : สุภัตรา ภูมิประภาส
62 ปี ดอว์ซู
วันที่19 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันที่ผู้หญิงจากประเทศพม่าจะร่วมกันจัดงานฉลอง "วันสตรีแห่งสหภาพพม่า" ไปพร้อมๆ กับการฉลองวาระครบรอบวันเกิดของนางออง ซาน ซูจี หรือ "ดอว์ซู" ของชาวพม่า
19 มิถุนายนปีนี้ (2550) เป็นวาระครบรอบวันเกิดปีที่ 62 ของออง ซาน ซูจี
แต่เธอยังคงถูกกักบริเวณอยู่ภายในบ้านพักของริมทะเลสาบอินยา
เป็นปีที่ 5 ของการถูกจองจำครั้งล่าสุด
เสียงเรียกร้องที่ก้องมาจากทุกมุมโลกให้คณะเผด็จการทหารพม่าปล่อยเธอเป็นอิสระนั้น ไม่บังเกิดผลใด
เกือบสองทศวรรษที่ผ่านมา ออง ซาน ซูจีต้องตกเป็นนักโทษการเมืองของรัฐบาลเผด็จการทหารพม่านับรวมได้ยาวนานกว่า 11 ปี
เธอถูกกักบริเวณครั้งแล้วครั้งเล่าโดยปราศจากข้อหา
ครั้งหลังสุดนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2546 ภายหลังเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างฝูงชนที่มาฟังปราศรัยของนางออง ซาน ซูจี กับมวลชนจัดตั้งของรัฐบาลเผด็จการทหารพม่า เหตุเกิดที่เมืองเดพายิน ทางตอนเหนือของพม่า
ตลอด 4 ปีของการถูกกักบริเวณครั้งหลังสุดนี้ นอกจากคนใกล้ชิดเพียง 2 คนที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ร่วมบ้านกับซูจีแล้ว รัฐบาลฯ อนุญาตแพทย์ไปตรวจสุขภาพเธอได้เดือนละ 2 ครั้ง
นอกจากนี้แล้ว มีเพียงนายอิบราฮิม กัมบารี รองเลขาธิการฝ่ายการเมืองขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลทหารพม่าให้เข้าพบกับนางอองซาน ซูจี ที่เกสต์เฮาส์หลังหนึ่งของกองทัพพม่าในกรุงย่างกุ้ง เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนปีที่แล้ว
ภาพล่าสุดของดอว์ซูที่ปรากฏต่อสาธารณชน คือภาพที่เธอถ่ายคู่กับนายกัมบารีในวันนั้น
นักโทษการเมืองในพม่า
ออง ซาน ซูจีกลายเป็นนักโทษการเมืองที่ทำให้ประชาคมโลกได้รู้จักประเทศพม่าในมุมของการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะสิทธิทางการเมืองและสิทธิพลเมือง
ประเทศพม่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีนักโทษการเมืองมากที่สุดในโลก ปัจจุบันรัฐบาลทหารพม่าคุมขังนักโทษการเมืองไว้ทั้งหมดจำนวน 1,114 คน (ตัวเลข ณ วันที่ 6 เมษายน 2550 รวบรวมโดยสมาคมความช่วยเหลือเพื่อนักโทษการเมือง (พม่า) -AAPP)
นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ที่คณะเผด็จการทหารทำการรัฐประหารและปราบปรามผู้เรียกร้องประชาธิปไตยในเมืองร่างกุ้งเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2531 (เหตุการณ์ 8888) เป็นต้นมา ได้มีการจับกุมคุมขังนักการเมืองและ สมาชิกพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม นักกิจกรรมทางสังคม นักข่าว นักเขียนตลอดจนประชาชนจำนวนหลายพันคนที่เรียกร้องประชาธิปไตยหรือดำเนินกิจกรรมทางการเมืองที่ต่อต้านรัฐบาลทหารฯ
จากรายงานของสมาคมความช่วยเหลือเพื่อนักโทษการเมือง ตั้งแต่ปี 2531 เป็นต้นมา มีนักโทษการเมือง 127 คนเสียชีวิตในคุกเพราะสภาพการจองจำและการถูกทรมาน (ตัวเลขจากรายงานของ AAPP ณวันที่ 23 พฤษภาคม 2549) นักโทษการเมืองอีกจำนวนมากเสียชีวิตภายหลังที่ได้รับการปล่อยตัวไม่นาน
นักโทษหญิง
นางออง ซาน ซูจี เป็นหนึ่งในจำนวนนักโทษการเมืองหญิงของพม่า แต่นอกจากเรื่องราวของเธอแล้ว แทบไม่มีใครรู้ว่า มีผู้หญิงอีกจำนวนมากที่ต้องเผชิญกับเพทภัยทางการเมืองอยู่ในคุกต่างๆ ในประเทศพม่า
ดอว์ ออง ซาน ซูจี เขียนบันทึกไว้ในหนังสือ "จดหมายจากพม่า" ว่า "ดิฉันมิได้เป็นนักโทษการเมืองสตรีเพียงคนเดียวในประเทศพม่า ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันยังคงมีสตรีจำนวนมากที่ถูกจับขังเนื่องจากความเชื่อทางการเมืองของพวกเธอ..."
บางคนถูกจับเพียงเพราะใส่เสื้อที่มีรูปนางออง ซาน ซูจี
บางคนถูกจับเพราะมีหนังสือของนางออง ซาน ซูจี อยู่ในครอบครอง
ผู้หญิงหลายคนถูกจับเพราะสามีเป็นสมาชิกพรรคเอ็นแอลดีของนางออง ซาน ซูจี
ในจำนวนนักโทษการเมืองที่ถูกคุมขัง ทรมานจนเสียชีวิตในคุกนั้น มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหญิง 4 คนรวมอยู่ด้วย คือ
ดอว์ ติน ซอว์ อู สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐมอญ
ดอว์ ซาน ซาน วิน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากเขตเมืองร่างกุ้ง
ดอว์ เส่ง ติน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐคะฉิ่น
ดอว์ เม เพียว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐฉาน
สำหรับนางออง ซาน ซูจี นั้น แม้จะถูกกักขังอยู่ในบริเวณบ้านพักริมทะเลสาบอินยาของตัวเองก็ตาม แต่เธอก็อยู่ในสภาพขัดสนเช่นกัน ดอว์ซูเคยเล่าสภาพของตัวเองในระหว่างที่ถูกกักบริเวณไว้ว่า
"บางครั้งดิฉันแทบไม่มีเงินพอที่จะซื้ออาหารรับประทาน ร่างกายของดิฉันอ่อนแอมาก ผมร่วงดิฉันอ่อนแอจนไม่สามารถลุกจากเตียงได้ ทุกครั้งที่เคลื่อนไหว หัวใจดิฉันเต้นแรง แทบหายใจไม่ออก น้ำหนักของดิฉันลดลงจาก 106 ปอนด์ เหลือเพียง 90 ปอนด์"
ปัจจุบันยังมีนักโทษการเมืองหญิงอีก 56 คนที่ถูกจองจำอยู่ตามคุกต่างๆ ในประเทศพม่า
ต่อไปนี้คือบางส่วนของชีวิตในคุกหญิงของพม่าที่เล่าโดยอดีตนักโทษการเมืองหญิงคนอื่นๆ
ข้อมูลจากสมาคมความช่วยเหลือเพื่อนักโทษการเมือง (พม่า)
Assistance Association for Political Prisoners (
การถูกคุกคามทางเพศ
ดอว์ ซูซู มอ สมาชิกองค์การนักศึกษาเขียนเล่าประสบการณ์ในระหว่างที่ถูกจับและคุมขังเมื่อปี 2534 ไว้ว่า
"ระหว่างที่ถูกสอบสวน ฉันถูกบังคับให้นั่งยองๆ แล้วลุกขึ้นยืนสลับกันไปโดยชูมือทั้งสองไว้ด้วย เมื่อใดก็ตามที่ฉันหยุดเพราะความอ่อนล้า ฉันจะถูกไม้หวายฟาดที่สะโพกและหัวนม ฉันถูกทรมานแบบนี้ตลอดคืน เวลาที่ฉันพยายามที่จะกระชับผ้าโสร่งที่ใส่อยู่ให้แน่นขึ้น พวกเขาจะฟาดที่แขนฉัน แล้วขู่ว่าถ้าฉันไม่พูดความจริง เขาจะช่วยกันถอดผ้าสโร่งของฉัน"
ดอว์ ติน ติน มอ นักศึกษามหาวิทยาลัย เล่าว่า ระหว่างถูกสอบสวน เจ้าหน้าที่เอาผ้าคลุมหน้าเธอไว้ พวกเขาตบตีเธอ และขู่เธอว่า "เธอคงไม่ลืมนะว่า เธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่" ตินตินมอบอกว่า คำขู่นั้นทำให้เธอหวาดกลัวยิ่งกว่าการถูกตบตีเสียอีก
การทรมาน
ดอว์ ทัน จ่วย สมาชิกพรรคเอ็นแอลดี ถูกจับกุมและคุมขังระหว่างปี 2534-2539 เล่าประสบการณ์ในคุกว่า
"รัฐบาลทหารฯ ประกาศกับชาวโลกว่า ไม่มีการทรมานนักโทษการเมืองในพม่า แต่สิ่งที่ดิฉันเห็นในคุกที่ดิฉันอยู่คือ นักโทษการเมืองหญิง 2 คนถูกผู้คุมสั่งให้หันหน้าแนบกำแพงคุก แล้วก็เฆี่ยนพวกเธอด้วยหวาย การกระทำแบบนี้ไม่ได้เรียกว่าการทรมานหรือ?"
สภาพในคุก
แพทย์หญิง ขิ่น มาจี ถูกจับกุมเพราะมีหนังสือ "เสรีภาพที่ปราศจากความกลัว" (Freedom from Fear) และหนังสือ "จากเผด็จการสู่ประชาธิปไตย" (From Dictatorship to Democracy) ไว้ในครอบครอง เธอถูกจองจำอยู่ที่คุกเมืองมันดาเลย์เป็นเวลา 6 ปี ระหว่างปี 2539-2545
แพทย์หญิง ขิ่น มาจี เล่าว่าเวลาที่มีการอนุญาตให้ตัวแทนจากองค์กรต่างประเทศมาเยี่ยมชมสภาพคุกนั้น นักโทษก็จะได้กินข้าวสีขาวและแกงที่อยู่ในสภาพปกติที่สามารถรับประทานได้
"แต่เมื่อพวกเขากลับไป ทุกอย่างก็กลับคืนสู่สภาพเดิม บางครั้งข้าวที่เอามาให้นักโทษมีกลิ่นเหมือนขี้หมู ฉันต้องอุดจมูกตัวเองแล้วพยายามไม่มองมันตอนที่ตักเข้าปาก"
ซาน ซาน น๋วย นักเขียนสตรีชาวพม่าถูกจับพร้อมกับบุตรสาวด้วยข้อหา "ผลิตและส่งรายงานต่อต้านรัฐบาลให้สถานีวิทยุต่างประเทศและสำนักข่าวต่างประเทศ" ถูกพิพากษาจำคุก 10 ปี เธอได้รับการปล่อยตัวหลังถูกจำขังอยู่ 7 ปี ซาน ซาน น๋วยได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่านักโทษการเมืองหญิงคนอื่นๆ เพราะเธอเป็นที่รู้จักในสังคมพม่าและให้องค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศติดตามคดีของเธออย่างใกล้ชิด เธอได้รับการปล่อยตัวเมื่อเดือนกรกฏาคม 2544
"ฉันกับลูกสาวถูกขังอยู่ในห้องขังเดียวกันเป็นเวลา 5 ปี 7 เดือน หลังจากที่ลูกสาวฉันได้รับการปล่อยตัวไป ฉันต้องถูกขังเดี่ยวในห้องแคบๆ อยู่กว่าปี ตามกฎของเรือนจำ ฉันต้องอยู่แต่ในห้องขังทั้งวัน นอกจากเวลาวันละ 35 นาทีช่วงเช้า และ 25 นาทีช่วงบ่ายที่ฉันได้รับอนุญาตให้ใช้เวลาช่วงนี้อาบน้ำ ซักผ้า หรือเดินออกกำลังได้"
ดอว์ เอเอ วิน ถูกจับกุมด้วยข้อหาเผยแพร่ภาพและวีดีทัศน์การปราศรัยของนางออง ซาน ซูจี เธอถูกพิพากษาจำคุก 7 ปี
"ฉันถูกขังรวมกับนักโทษหญิงคดีอาชญากรรม คดียาเสพติด คดีลักทรัพย์ประมาณ 300 คน และผู้คุมหญิงก็ปฏิบัติกับฉันราวกับว่า ฉันเป็นอาชญากร ผู้คุมจะใช้หวายฟาดเวลาที่พวกนักโทษส่งเสียงดัง"
ยี ยี ทุน ถูกจับกุมในข้อหาร่วมกิจกรรมทางการเมือง เธอถูกจองจำในคุกระหว่างปี 2540 - 2545
"หลังจากถูกขังอยู่ 11 เดือนที่คุกอินเซน ฉันถูกย้ายไปขังที่คุกเมืองทราวดี ที่คุกอินเซนตอนนั้นมีแออัดไปด้วยนักโทษการเมืองประมาณ 400 คน ในจำนวนนี้มีนักโทษการเมืองหญิงอยู่ 10 คนที่ถูกย้ายไปอยู่คุกนอกเมืองแห่งอื่นๆ ตอนที่ถูกขนย้ายนั้น ฉันคิดไปถึงภาพการขนย้ายนักโทษชาวยิวไปยังค่ายกักกันในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่รู้ว่าจะถูกพาไปไหน"
0 0 0
ข้อมูลจากศูนย์กลางนานาชาติว่าด้วยเรือนจำศึกษา (ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2548)
International for Prison Studies, King"s College,
ประเทศพม่ามีเรือนจำกลาง 2 แห่ง คือคุกอินเซน และคุกมันดาเลย์ และคุกอื่นๆอีก 39 แห่งทั่วประเทศ
นอกจากนี้มีค่ายคุมขังนักโทษสำหรับการใช้แรงงานหนักอีก ดังนี้
ค่ายแรงงานเหมืองหิน 17 แห่ง
ค่ายแรงงานเกษตรกรรม 18 แห่ง
ค่ายแรงงานปศุสัตว์ 2 แห่ง
ค่ายแรงงานก่อสร้างถนน 8 แห่ง
ค่ายแรงงานก่อสร้างทางรถไฟ 1 แห่ง
ค่ายแรงงานไร่ยางพารา 1 แห่ง
ศูนย์นักโทษหญิง 1 แห่ง
ค่ายฟื้นฟูผู้ติดสารเสพติด 2 แห่ง
จำนวนนักโทษหญิงเป็น 17.8 % ของจำนวนนักโทษทั้งหมดประมาณ 60,000 คน (ตัวเลขปี 2548) ซึ่งเป็นจำนวนที่เกินกว่าความสามารถในการรองรับของเรือนจำและเจ้าหน้าที่ คิดเป็น 144.3%