Skip to main content
sharethis


รูปหล่อสัมฤทธิ์ของเจริญ วัดอักษร


 


ประชาไท - 20 มิ.ย.50   ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลาตั้งแต่ 08.00 น. กลุ่มอนุรักษ์ท้องถิ่นบ่อนอก - บ้านกรูด - กรุยบุรี กลุ่มรักษ์ท้องถิ่นแม่รำพึง ประมาณ 400 คน ได้ตั้งขบวนแห่รูปหล่อสัมฤทธิ์ของนายเจริญ วัดอักษร ไปรอบตัวเมืองประจวบฯ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนในจังหวัดประจวบได้รับรู้ถึงปัญหาที่เกิดจากการพัฒนาโรงไฟฟ้าถ่านหิน การรุกที่ดินสาธารณะในจังหวัดประจวบ 


 


โดยได้แกนนำขึ้นปราศรัยระบุว่าแม้การต่อสู้ที่ผ่านมาทำให้ต้องสูญเสีย นายเจริญ วัดอักษร แต่โรงไฟฟ้าถ่านหินก็ยังมีโครงการจะสร้างต่อไป แต่ย้ายไปทำความเดือดร้อนให้ประชาชนที่อำเภอทับสะแก ในจังหวัดประจวบฯ เอง รวมทั้งที่ย้ายไปในจังหวัดอื่น นอกจากนี้ยังมีอุตสาหกรรมเหล็กที่กำลังจะเกิดขึ้นโดยชาวบ้านแม่รำพึงก็กำลังลุกขึ้นมาต่อสู้  


 


ทั้งนี้ หลังจากแห่รอบเมืองประจวบฯ แล้ว มีกำหนดการจะเคลื่อนขบวนแห่รูปหล่อ ไปยื่นหนังสือเรียกร้องให้ยกเลิกเอกสารสิทธิที่ดินสาธารณะประโยชน์คลองชายธงที่เชื่อว่าเป็นสาเหตุให้เกิดการสังหารนายเจริญ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ที่ต่อสู้คัดค้านโครงการเหมืองแร่โปแตชจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเพิ่งเดินทางมาถึงตอนเช้าตรูของวันนี้ สวมเสื้อสีเขียวเข้าร่วมเดินรณรงค์ด้วยจำนวนประมาณ 60 คน  


 


นายกัญหา คำลาภ รองประธานกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี เปิดเผยว่า เขารู้สึกถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของประชาชนที่ต่อสู้เพื่อรักษาทรัพยากรท้องถิ่นไว้


 


"ปีนี้ครบรอบปีที่ ของการจากไปของเจริญ วัดอักษร แต่เจริญไม่เคยตาย เขาอยู่ในวิญญาณการต่อสู้ของคนประจวบฯ และเขาก็เป็นตัวอย่างอุดมการณ์การต่อสู้ของคนท้องถิ่นต่างๆ ซึ่งกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานีศรัทธาในอุดมการณ์นั้นจึงได้มาร่วมงานในครั้งนี้ หลังจากตั้งรูปหล่อเสร็จก็จะกลับไปที่วัดสี่แยกบ่อนอก ซึ่งจะได้มีงานรำลึก 3 ปีการตายของเจริญ โดยกลุ่มอนุรักษ์อุดรฯ จะจัดนิทรรศการเรื่องเหมืองแร่โปแตช การต่อสู้ของประชาชนชาวอุดรฯ กับโครงการเหมืองแร่โปแตช  เพื่อเผยแพร่ข้อมูลกับประชาชนที่มาร่วมงานตลอดสองวัน" นายกัญหากล่าว


 


มีรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ แล้ว กลุ่มชาวบ้านจังหวัดประจวบฯ และผู้เข้าร่วมจะเคลื่อนขบวนกลับไปที่วัดสี่แยกบ่อนอก สถานที่จัดงานซึ่งได้มีการจัดนิทรรศการการต่อสู้ของภาคประชาชนจากกรณีปัญหาต่างๆ ทั่วประเทศ  โดยมีการจัดเวทีปาฐกถาโดยนักวิชาการ และการแสดงดนตรีโดย ศิลปินมากมาย เช่น พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ, สุรชัย จันทิมาธร, หว่อง มงคล อุทก, ปู พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์,โฮป, ซูซู, ตลอดสองวันสองคืน


 


นางกรอุมา  พงษ์น้อย  ภรรยาหม้ายของนายเจริญ วัดอักษร กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (21 มิ.ย.) จะได้มีการประกอบพิธีทางศาสนาทำบุญเลี้ยงพระเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่เจริญ และฉายวิดีโอภาพประวัติศาสตร์การคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน จากนั้นจะเคลื่อนขบวนแห่รูปหล่อจากวัดสี่แยกบ่อนอกไปประกาศเจตนารมณ์ร่วมกัน  ณ จุดที่เจริญ วัดอักษร ถูกยิง


 


"การตั้งรูปหล่อ ทรนง ณ ธรณี ของเจริญ วัดอักษร เพื่อให้เป็นอนุสาวรีย์การต่อสู้ของภาคประชาชน โดยได้เชิญพี่น้องที่ต่อสู้ปกป้องท้องถิ่นมาร่วมกัน ประกาศเจตนารมณ์ปกป้องรักท้องถิ่นด้วยพลังประชาชน เพราะงานนี้ไม่ได้ต้องการจัดเพียงพิธีรำลึกไว้อาลัยแก่การจากไปของเจริญเท่านั้น แต่เป็นการรำรึงถึงผู้ที่ต่อสู้อยู่ด้วยเจตนารมณ์เช่นกันกับที่เจริญต่อสู้จนตัวตาย" นางกรอุมากล่าว


 


มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า รูปหล่อดังกล่าวมีนามว่า "ทระนง ณ ธรณี" โดยขบวนแห่ได้เดินทางไปหยุดที่หน้าศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อยื่นหนังสือให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด ต่อมาว่าที่ร้อยตรีพงษ์ศักดิ์ พลายเวช รองผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ออกมารับหนังสือหนังสือ


 


หนังสือดังกล่าวมีใจความระบุว่า กรณีที่ดินสาธารณะคลองชายธงถูกบุกรุกทำลายมาสิบปี เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิกเฉยต่อหน้าที่  หรืออาจรู้เห็นเป็นใจต่อการกระทำของผู้บุกรุก จนกระทั่งเจริญ วัดอักษร ถูกฆ่าตายเป็นข่าวครึกโครมไปทั้งประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงถูกกดดันจากสังคมให้ต้องดำเนินคดีกับกลุ่มอันธพาลที่บุกรุกทำลายที่สาธารณะคลองชายธง ชาวบ้านในนามกลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก-กุยบุรี มีความเห็นและข้อสงสัยว่า กระบวนการดำเนินคดีเอาผิดกับผู้บุกรุกในช่วงสามปีที่ผ่านมา เป็นเพียงปาหี่หลอกลวงประชาชนหรือไม่ เพราะเป็นเวลาสามปีแล้วที่เจริญ วัดอักษร เสียชีวิตไป แต่การแก้ไขปัญหาของทางจังหวัดกลับยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร ดังนั้น จึงขอให้ผู้ว่าฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตอบ
คำถามให้เป็นที่กระจ่าง และต่อหน้ารูปปั้นของนายเจริญ วัดอักษร ณ ศาลากลาง จังหวัดประจวบฯ

นอกจากนี้หนังสือยังระบุข้อสงสัยอีก 4 ข้อคือ  1. เป็นที่รู้กันดีทั่วไปว่า ที่ดินสาธารณะคลองชายธงถูกบุกรุกทั้งแปลง 931 ไร่ จนแทบไม่เหลือพื้นที่ราบ เหตุใดจนถึงบัดนี้กลับสามารถดำเนินคดีต่อผู้บุกรุกได้ไม่ถึงครึ่งของพื้นที่ที่ถูกบุกรุกทั้งหมด  2. ที่ดิน 53 ไร่ที่นายเจริญ วัดอักษร กับพวกเราเคยคัดค้านความพยายามจะออกโฉนดโดยมิชอบ จนสุดท้ายได้ถูกเพิกถอนการออกโฉนดไปแล้วนั้น เหตุใดจนถึงวันนี้ทั้งผู้ขอออกโฉนดและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกลับไม่ถูกดำเนินคดีเอาผิดแต่อย่างใด  3.เหตุใดจนถึงบัดนี้ยังคงมีที่ดิน 16 ไร่ที่ถูกล้อมรั้วไว้ใจกลางที่สาธารณะคลองชายธง ทั้งที่เจ้าหน้าที่ของสำนักงานที่ดินจังหวัดเคยชี้แจงตอบกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติว่าที่ดินดังกล่าวมีเอกสารหนังสือสำคัญที่หลวงไม่สามารถครอบครองได้  


 


และ 4. กรณีที่ดินของนายปอง นามจัด ซึ่งที่ผ่านมาอ้างว่ามีเอกสารครอบครองสค.1 ของที่ดิน 184 ไร่ในพื้นที่สาธารณะคลองชายธง และฟ้องร้องกรมที่ดินให้เพิกถอนหนังสือสำคัญที่หลวงที่ออกทับสค. 1 และบัดนี้คดีได้ถึงที่สุดแล้ว โดยที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินสาธารณะ แต่เหตุใดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงปล่อยให้นายปอง นามจัด ครอบครองอยู่ แทนที่จะดำเนินคดีนายปองขอหาบุกรุก เจ้าหน้าที่ละเว้นการปฏิบัติหรือไม่

หลังจากนั้น ชาวบ้านได้นำ ว่าที่ร้อยตรีพงษ์ศักดิ์ พลายเวช รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ เดินทางไปดูที่ดินสาธารณคลองชายธงที่มีปัญหา โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดรับที่จะเร่งดำเนินการตามที่ชาวงบ้านได้ร้องเรียนในครั้งนี้  


 


สำหรับวันที่  21 มิถุนายน 2550 ซึ่งเป็นวันครอบรอบ 3 ปีการจากไปของเจริญ วัดอักษร จะมีการทำบุญเลี้ยงพระเพื่ออุทิศส่วนบุญ ส่วนกุศลให้กับนักต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อมในประเทศ จากนั้นจะร่วมกันแห่รูปหล่อ"ทรนง ณ ธรณี" ใบหน้าคล้ายเจริญ วัดอักษร นักต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อม ไปติดตั้งยังแท่นภายในบริเวณอนุสาวรีย์วีรกรรม ริมถนนเพชรเกษม ภายในวัดสี่แยกบ่อนอก เพื่อเชิดชูวีรกรรมการต่อสู้เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมและพิทักษ์สิทธิชุมชน นอกจากนี้ที่อนุสาวรีย์ดังกล่าวจะมีการก่อสร้างศูนย์การเรียนรู้ในการต่อสู้ภาคประชาชนเพื่อพิทักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งห้องสัมมนาให้ความรู้ และศูนย์จำหน่ายสินค้าชุมชน


ในช่วงบ่ายจะมีการปาฐกถาจากนักวิชาการในเรื่องสิ่งแวดล้อมและสิทธิชุมชน การจัดเวทีเสวนาปัญหาสิ่งแวดล้อม การจัดนิทัศน์การการต่อสู้ของประชาชนในประเทศ การแสดงดนตรีเพื่อชีวิตชั้นนำ


 


 


 



ภาพบรรยากาศขบวนแห่รูปหล่อสัมฤทธิ์ของเจริญ วัดอักษร


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net