"ท่ามกลางความขัดแย้ง ความรุนแรง และควันไฟแห่งสงครามที่คุกรุ่นอยู่ทั่วผืนพิภพในยุคสมัยนี้ ดูเหมือนว่าสิ่งหนึ่งที่มนุษย์ชาติยังขาดอยู่เป็นอันมาก คือ ความเข้าใจและความรู้สึกชื่นชมในเพื่อนมนุษย์ที่มีวิถีชีวิต ความเชื่อ และความรู้สึกนึกคิดที่แตกต่างไปจากเรา..."
(ยศ สันตสมบัติ : คำนำจากการพิมพ์ครั้งแรก)
ภายใต้บริบทของสังคมโลกที่มีความหลากหลายทั้งกลุ่มคน วิถีชีวิตและความเชื่อ เราในฐานะของคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่ภายใต้ความหลากหลายนั้นมีความรับรู้ หรือเข้าใจคนกลุ่มอื่นมากน้อยเพียงใด? และเราจะสามารถอยู่อย่างโดดเดี่ยวโดยปราศจากความเข้าใจคนอืนได้หรือไม่?
ความขัดแย้งครั้งใหญ่หลายครั้งที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติดูเหมือนจะเป็นผลที่เกิดขึ้นมาจากการไม่เข้าใจคนกลุ่มอื่นและลดทอนคนกลุ่มอื่นให้เหลือเป็นเพียง "คนที่ไม่เหมือน ไม่ใช่พวกเรา"
การล่าอาณานิคมของชาวยุโรปผิวขาวที่กระทำกับชนพื้นเมืองเฉกเช่นสิ่งที่มิใช่มนุษย์
ชาวยิวนับล้านที่ถูกฆ่าโดยนาซีด้วยข้ออ้างของความบริสุทธิ์ในเผ่าพันธุ์
การชำเราชาวจีนของทหารญี่ปุ่นจนกลายเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่
รวมถึงความรุนแรงที่ปะทุอย่างต่อเนื่อง ทำลายผู้บริสุทธิ์ไปจำนวนมากในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะมีต้นตอมาจากความไม่เข้าใจและไม่ยอมรับการดำรงอยู่ของคนอื่นที่แตกต่างออกไปจากตน จนกลายเป็นปัญหาที่ขยายใหญ่อันยากต่อการแก้ไขและประสานความสัมพันธ์ของกลุ่มคนให้กลับมาเหมือนเดิม
รวมเรื่องสั้น "เมียซามูไร" ผลงานแปลของ ศ.ดร.ยศ สันตสมบัติ ถึงแม้จะถูกตีพิมพ์มาเป็นครั้งที่สาม (สองครั้งแรกใช้ชื่อว่า "สืบสายเลือด") และเนื้อหาบางส่วนเกี่ยวกับกลุ่มคนที่ปรากฏอยู่จะล้าสมัยไปบ้าง
แต่ความสำคัญและพลังของรวมเรื่องสั้นชุดนี้ดูเหมือนจะมิได้จางหายไปตามกาลเวลาที่ผ่านเลยไป
เรื่องสั้นที่รวมอยู่ในหนังสือเล่มนี้ได้รับการแปลมาจากงานเขียนของนักมานุษยวิทยาหลายท่าน ในวาระที่แตกต่างกัน หากแต่มีความเหมือนในแง่ของการนำเสนอที่มิใช่เป็นงานทางวิชาการที่เข้าถึงคนหมู่มากได้ยาก
บทประพันธ์เกือบทั้งหมดถูกเขียนขึ้นจากประสบการณ์และทัศนคติของผู้เขียนในฐานะของนักมานุษยวิทยาที่เข้าไปศึกษา คลุกคลี กับคนกลุ่มต่างๆ บนโลก ซึ่งบางครั้งเราอาจไม่เคยได้ยินชื่อของพวกเขามาก่อน อาทิ เรื่องราวของชาวอิคและชาวปิกมี่ในเรื่อง "คนภูเขา" หรือ วิถีชีวิตของชาวอินเดียเผ่า "ยาโนมาโม" ที่ถูกคนภายนอกมองว่าเป็นชนเผ่าที่โหดร้าย
เมื่อพลิกหน้าอ่านเรื่องสั้นเรื่องแรกจนถึงเรื่องสุดท้ายผู้อ่านจะได้ลิ้มรสกับวิถีชีวิต ความคิด ความเชื่อ ของคนกลุ่มต่างๆ ที่มีความแตกต่างกันออกไป และในบางครั้งก็ฝืนกับความรู้สึกและการรับรู้ที่ผ่านมาของเรา
นอกจากนี้ผู้อ่านจะได้รับรู้ทางออกของปัญหาที่เกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ของคนในสังคม ดังจะเห็นได้จากเรื่อง "เมียซามูไร" ที่จารีตและประเพณีบางอย่างได้ส่งผลให้ผู้หญิงญี่ปุ่นต้องตกอยู่ในสถานะที่ต่ำกว่าผู้ชาย แต่ถึงอย่างไรก็ตามสังคมก็ได้เปิดพื้นที่และโอกาสผู้หญิงได้มีช่องทางหลีกหนีจากความสัมพันธ์ที่ไม่เท่าเทียมนั้น
เรื่องสั้นทั้งหมดได้เปิดโลกทัศน์ให้ผู้อ่านได้เข้าใจความหลากหลายที่ดำรงอยู่บนโลก อันส่งผลให้ทัศนคติการมองโลก สังคม และกลุ่มคน หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง
ทุกคนล้วนไปมนุษย์ที่มีความแตกต่าง เป็นความแตกต่างที่ตั้งอยู่บนฐานของความเสมอภาคและเท่าเทียมกัน ไม่มีใครเหนือกว่าหรือต่ำต้อยกว่าใคร และเรามิได้อยู่บนโลกนี้อย่างโดดเดี่ยว โลกมิได้มีเพียงเรากลุ่มเดียวเท่านั้น
ความหลากหลายทางชาติพันธุ์ที่หนังสือเล่มนี้ได้นำเสนอทำให้สามารถคิดต่อไปได้ว่า ความหลากหลายในรูปแบบอื่น ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายของความคิด ความเชื่อหรืออุดมการณ์ จะเป็นสิ่งที่มนุษย์จะสามารถยอมรับและอยู่ร่วมกับมันได้หรือไม่?
เป็นคำถามที่ยังรอคำตอบ หรือ อาจไม่มีคำตอบให้กับคำถาม...