Skip to main content
sharethis


 



 


ประชาไท - 16 ก.ค. 50 ตำรวจสภ.อ.จะนะและตำรวจตระเวนชายแดน กรมการปกครองกว่า 20 นายถืออาวุธปืนยาวคุ้มกันคนงานบริษัทปตท.ที่เข้ามาทำการขุดเจาะลอดเพื่อวางท่อก๊าซบ้านป่างาม หมู่ที่ 3 ต.ตลิ่งชัน อ.จะนะ จ.สงขลา โดยทำหน้าที่เป็นกำแพงมนุษย์ให้กับคนงานบริษัทปตท.เพื่อกันและสั่งห้ามไม่ชาวบ้านป่างามที่คัดค้านการวางแนวท่อก๊าซจากโรงแยกก๊าซไปใช้สำหรับโรงไฟฟ้าจะนะ เข้าไปในบริเวณแท่นขุดเจาะ หลังจากที่ชาวบ้านโดดเอาตัวเข้าขวางหัวเจาะเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา


 


07.00 น. ชาวบ้านกลุ่มคัดค้านท่อก๊าซบ้านป่างาม รายงานข่าวว่าทางคนงานของบริษัทปตท. และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภอ.จะนะและตำรวจตระเวนชายแดนกว่า 20 คนได้เข้ามาในบริเวณที่ตั้งแท่นขุดเจาะ โดยเข้ามาดำเนินการตั้งแต่เช้าเพื่อไม่ให้ชาวบ้านออกมาคัดค้านฯ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยืนกระจายล้อมรอบคนงาน คนงานผสมสารเบนโทรไนต์ซึ่งเป็นสารเคมีอันตรายใช้สำหรับทำให้ดินเกาะยึดไม่พังตัวลงมาขณะที่หัวเจาะทำงาน


 


ชาวบ้านได้นำหนังสือสั่งระงับโครงการของนายกอบต.ตลิ่งชัน หนังสือขอความร่วมมือระงับการวางท่อชั่วคราวของกอ.รมน.ภาคที่ 4 ส่วนหน้า และหนังสือของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติไปแสดงให้คนงาน แต่คนงานก็ไม่สนใจและฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมรับเอกสารดังกล่าว


 


จากนั้นคนงานเริ่มลงมือเจาะโดยมีคนงานแต่งชุดสีส้มเดินถือกล่องเรดาร์เพื่อเป็นเครื่องชี้นำการเจาะลอด ชาวบ้านกลุ่มคัดค้านได้เข้าไปยืนดูแต่ไม่สามารถเข้าไปบริเวณแท่นเจาะได้เนื่องจากเจ้าหน้าทีตำรวจมายืนประจันหน้ากันชาวบ้านไว้  จนกระทั่งเวลาประมาณ 11.00 น.บริษัทสามารถเจาะลอดที่ดินของนางเน๊าะ หัดยุมสาไปได้


 


กลุ่มคัดค้านฯ จึงได้ออกแถลงการณ์ประณามการปิโตรเลียมจำกัด(มหาชน)และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งร่วมกันดำเนินโครงการวางแนวท่อส่งก๊าซธรรมชาติจากโรงแยกก๊าซไทย-มาเลเซีย        ไปใช้ยังโรงไฟฟ้าจะนะ อ.จะนะ จ.สงขลา ผ่านพื้นที่บ้านป่างาม หมู่ที่ 3 ต.ตลิ่งชัน อ.จะนะ จ.สงขลา


 


และใช้คนงานของปตท.ตะโกนโห่ไล่ชาวบ้านและกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและไม่ยอมให้เข้าตรวจสอบพื้นที่ แม้นายกองค์การบริหารส่วนตำบล กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าจะขอความร่วมมือยุติและระงับโครงการ แต่ ปตท.กลับดำเนินการต่อโดยอาศัยกลุ่มอิทธิพล เจ้าหน้าที่ตำรวจและตำรวจตระเวนชายแดนคุ้มกันคนงานบริษัทเพื่อประจันหน้ากับชาวบ้าน โดยชาวบ้านเห็นว่าการกระทำเช่นนี้เป็นพฤติกรรมที่สะท้อนว่านายทุน เอกชน บริษัทข้ามชาติอยู่เหนือกฎหมายและอธิปไตย และตอกย้ำความอยุติธรรมที่เกิดกับชาวบ้านมุสลิม แถลงการณ์ระบุ


 


ด้านนายก๊บ หลำโส๊ะ ชาวบ้านป่างามกล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะรัฐบาลสุรยุทธ์ และคมช.ที่ปล่อยปละละเลยไม่สนใจปัญหาที่บริษัทปตท.ก่อขึ้นและยังปลดเกียร์ว่างให้บริษัทปตท.ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาสนับสนุนโครงการทั้งที่บริษัทปตท.แปรรูปเป็นเอกชนแล้ว รัฐบาลกับคมช.ทำตัวเหมือนว่าบ้านเมืองนี้ไม่มีกฎหมาย ไม่มีขื่อไม่มีแปจึงปล่อยให้บริษัทและนายทุนเข้ามาคุกคามย่ำยีความถูกต้องชอบธรรมกระทำย่ำยีความรู้สึกของพี่น้องมุสลิมอย่างไรก็ได้


 


นางเน๊าะ หัดยุมสาซึ่งทำกินในที่ดินที่บริษัทปตท.เจาะลอดมากว่า 50 ปี บอกว่าความรู้สึกของตนวันนี้เจ็บแค้นมากเห็นปตท.ทำผิดต่อหน้าต่อตาแต่ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนเคียงข้างช่วยเหลือบริษัทปตท. เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือบริษัทให้กระทำความผิด แต่ตนในฐานที่ถูกกระทำรังแกเจ้าหน้าที่กลับไม่ช่วยอะไรเลย วันนี้ตนรู้ซึ้งถึงการที่พี่น้องมุสลิมสามจังหวัดถูกกระทำย่ำยี เพราะตนกำลังถูกนายทุน ปตท.และตำรวจย่ำยีความรู้สึกอย่างแสนสาหัสเช่นกัน


 


15.30 น. ชาวบ้านรายงานข่าวเพิ่มว่า สารเบนโทรไนต์ที่ปตท.ใช้ฉีดพ่นหัวเจาะได้เอ่อล้นทะลักจากใต้พื้นดินขึ้นเป็นลักษณะโคลนสีดำและได้ไหลเข้ามาบริเวณใต้ถุนขนำของนางเน๊าะ หัดยุมสาและบริษัทได้ประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเสริมและมีการตั้งเต็นท์จำนวน 2 หลังบริเวณด้านหัวและด้านท้ายขนำ


 







ปตท. กฟผ. "ธรรมาภิบาลตอแหล"


 


การปิโตรเลียมจำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ร่วมกันดำเนินโครงการวางแนวท่อส่งก๊าซธรรมชาติจากโรงแยกก๊าซไทย-มาเลเซีย ไปใช้ยังโรงไฟฟ้าจะนะ อ.จะนะ จ.สงขลา ผ่านพื้นที่บ้านป่างาม หมู่ที่ 3 ต.ตลิ่งชัน อ.จะนะ จ.สงขลา


ที่ผ่านมาชาวบ้านป่างามรวมตัวกันคัดค้านด้วยเหตุผลว่าแนวท่อก๊าซเส้นนี้ผ่านเข้ากลางหมู่บ้าน ปตท.ฝังแนวท่อก๊าซอยู่ใกล้กับมัสยิด ใกล้กุโบร์ ใกล้บาลาย รวมถึงการดำเนินโครงการนี้กระทบต่อสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิต ทำให้พี่น้องมุสลิมแตกแยก ความพยายามของชาวบ้านในการคัดค้านการวางแนวท่อเส้นนี้ ได้ใช้แนวทางการคัดค้านโดยการยื่นหนังสือให้แม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งทางกอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า ได้ขอความร่วมมือไปยังปตท.ให้ระงับโครงการไว้ก่อน ซึ่งเลขาธิการกอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้าระบุว่ามีทางอื่นที่จะเลี่ยงไปได้และชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนตามที่ร้องเรียนจริง ตลอดจนยื่นหนังสือถึงอบต.ตลิ่งชัน จนนายกอบต.ตลิ่งชันนายเกษม และหีม สั่งระงับและยุติโครงการวางแนวท่อก๊าซ และล่าสุดเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2550 กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและอนุกรรมการฯเข้ามาตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการใช้ความรุนแรงในโครงการวางแนวท่อส่งก๊าซในพื้นที่บ้านป่างาม กลับถูกคนงานของปตท.ตะโกนโห่ไล่อย่างป่าเถื่อน ไม่ยอมให้กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเข้าตอบสอบพื้นที่ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบ ซึ่งเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมทางกรรมการสิทธิ์ฯได้ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงนายอำเภอจะนะและผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรอ.จะนะให้ชะลอโครงการวางแนวท่อก๊าซจนกว่ากระบวนการตรวจสอบจะเสร็จสิ้น


แต่วันนี้ (16ก.ค) บริษัทปตท.สั่งคนงานเข้ามาดำเนินการขุดเจาะวาง เพื่อวางแนวท่อผ่านบ้านป่างามต่อทันที ทั้งที่หลายฝ่ายไม่ว่านายกอบต. กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กรรมการสิทธิ์จะสั่งและขอความร่วมมือให้การยุติและระงับโครงการ บริษัทปตท.กลับใช้รูปแบบและการดำเนินโครงการในรูปแบบเดิมคือการใช้กลุ่มอิทธิพลท้องถิ่น ใช้อันธพาล ใช้นักการเมืองท้องถิ่นและใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจและตำรวจตระเวนชายแดน เข้าคุ้มกันคนงานบริษัท ใช้ตำรวจเป็นกำแพงมนุษย์เพื่อประจันหน้าและเตรียมจัดการกับชาวบ้านในชุมชนที่ออกมาคัดค้านโครงการของปตท. ทั้งที่ปตท. กฟผ. โฆษณาชวนเชื่อว่าดำเนินโครงการโดยประชาชนมีส่วนร่วมและสามารถตรวจสอบได้ และใช้เงินสร้างภาพว่าเป็นมิตรและปรารถนาดีกับชุมชน แต่ในขณะที่ดำเนินโครงการกลับทำตัวเหนือกฎหมาย ใช้อิทธิพล และที่สำคัญรวมหัวกับหน่วยงานรัฐดำเนินการข่มขู่ คุกคาม รังแกอย่างไม่อาย นี่คือระบบการดำเนินการของปตท.และกฟผ.ที่กำลังกระทำต่อพี่น้องป่างามในขณะนี้ พฤติกรรมทั้งหมดสะท้อนให้เห็นว่านายทุน เอกชน บริษัทข้ามชาติอยู่เหนือกฎหมายและอธิปไตย


พฤติกรรมดังกล่าวนี้เป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเหล่าโดยเฉพาะกับชาวบ้านมุสลิมที่อยู่ในพื้นที่ดำเนินโครงการของ ปตท. และ กฟผ. และยิ่งตอกย้ำถึงความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องกับชุมชนมุสลิม


เราชาวบ้านกลุ่มคัดค้านการวางแนวท่อก๊าซผ่านบ้านป่างามขอประณามพฤติกรรมของปตท.และกฟผ.


ด้วยสลามและดุอา


ชาวบ้านกลุ่มคัดค้านการวางแนวท่อส่งก๊าซบ้านป่างาม


16 กรกฎาคม 2550


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net