Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis


ภัควดี วีระภาสพงษ์


 


แปลจาก Joel Richards, "How the vinotinto attempted to capture the mood of a nation," The Guardian, July 16, 2007, http://blogs.guardian.co.uk/sport/2007/07/16/adios_copa_how_the_vinotinto_c.html.


 


ชื่อบทความเดิม  โคปาอเมริกา : เมื่อ ไวน์แดงแรงฤทธิ์ สะกดอารมณ์คนทั้งชาติ


 


 


 


ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้อูโก ชาเวซ สงบปากสงบคำ ประธานาธิบดีเวเนซุเอลาคนนี้มีอะไรพูดเยอะแยะเสมอ และเขามีเวลาออกอากาศเหลือเฟือ ทั้งทางสถานีวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติ โดยเฉพาะในรายการ พบประธานาธิบดี (Aló Presidente) ทุกสุดสัปดาห์ ทว่าในวันอาทิตย์เมื่อสองสัปดาห์ก่อน รายการ พบประธานาธิบดี งดออกอากาศ "เราขอขอบคุณท่านประธานาธิบดีที่สละพื้นที่นี้ให้เราในวันมหัศจรรย์ของทั้งประเทศ!" พิธีกรที่ออกอาการตื่นเต้นจนเกินงามแผดเสียงบาดหูทางสถานีโทรทัศน์ เตเวซ (TVes) ของรัฐบาล การแข่งขันฟุตบอลโคปาอเมริกาผ่านมาถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ และสถานีโทรทัศน์เวเนซุเอลาทุ่มความสนใจให้กับการแข่งขันกีฬาที่สำคัญที่สุดในละตินอเมริกา ฟุตบอลเบียดชาเวซกับการเมืองหลุดไปจากจุดสนใจ ถ้าไม่ทั้งหมดก็เกือบล่ะ


 


บราซิลชนะถ้วยโคปาปีนี้หลังจากถล่มอาร์เจนตินาไป 3-0 เมื่อคืนวันอาทิตย์ การแข่งขันครั้งนี้ได้รับเสียงชมจากทุกสารทิศว่าเป็นความสำเร็จของเวเนซุเอลาเจ้าภาพ แน่นอน ยิ่งทีม ไวน์แดงแรงฤทธิ์ (vinotinto) ซึ่งเป็นฉายาของทีมชาติเวเนซุเอลาที่ได้มาจากเสื้อทีมสีไวน์แดง ผ่านเข้าถึงรอบเตะตัดเชือกในรายการแข่งขันใหญ่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ด้วย แม้จะพ่ายอุรุกวัยไปอย่างยับเยินถึง 4-0 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ก็ไม่ได้ทำให้เสียกำลังใจ "เราได้รับการสอนบทเรียนถึงวิธีการเล่นในระดับนี้" โค้ชริชาร์ด ปาเอซยอมรับ "แต่ตอนนี้เรากำลังตั้งเป้าที่จะผ่านการคัดเลือกเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกสมัยหน้า" นั่นจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เช่นกัน


 


ผู้จัดการแข่งขันได้รับทั้งดอกไม้และคำชมจนตัวลอย นิโกลาส เลออซ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลละตินอเมริกากล่าวว่า "สนามฟุตบอลที่นี่เทียบชั้นได้กับสนามในเยอรมนีตอนฟุตบอลโลกครั้งที่แล้วทีเดียว" ออสการ์ นาร์วาเอซ ประธานกรรมการประสานงานโคปาอเมริกาเห็นพ้อง: "ตอนนี้เวเนซุเอลาสามารถเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกแข่งกับบราซิลได้แล้ว" นาร์วาเอซคุยฟุ้ง ไม่น่าแปลกใจที่รัฐมนตรีกีฬาของเวเนซุเอลา นายเอดัวร์โด อัลวาเรซ โม้ไกลยิ่งกว่านั้นอีก "ตอนนี้เวเนซุเอลามีความพร้อมในการจัดแข่งขันกีฬาดีที่สุดเป็นอันดับสามในโลก" เขายืนยัน "นี่ต้องขอบคุณการลงทุนของรัฐบาลชุดนี้"


 


รัฐบาลชาเวซมีบทบาทสำคัญที่ทำให้การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโคปาผ่านฉลุยมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005 สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศตลอดสามสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลย ผู้นำมากบารมีอย่างชาเวซเป็นที่ทั้งรักทั้งชัง แนวทางทางการเมืองที่มีกองทุนน้ำมันหนุนหลังของเขาสร้างการแตกขั้วขึ้นมาในเวเนซุเอลาและละตินอเมริกา คำประกาศถึง "การปฏิวัติ" และ "สังคมนิยมแห่งศตวรรษที่ 21" ของเขา ทำให้ผู้คนแตกความคิดออกเป็นสองฝักสองฝ่าย สถานการณ์ทำท่าจะเดือดพล่านหลายครั้งตลอดทัวร์นาเมนต์นี้ แต่ลงท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น


 


ประเด็นล่าสุดที่ทำให้การประท้วงเจิ่งนองทั่วท้องถนน คือกรณีที่รัฐบาลไม่ยอมต่อใบอนุญาตการแพร่ภาพให้สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งคารากัสหรือ RCTV ผู้สันทัดกรณีจำนวนมากตำหนิการขาดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นภายใต้การปกครองของชาเวซ ในขณะที่ผู้สนับสนุนรัฐบาลชี้ไปที่บทบาทของ RCTV ในความพยายามทำรัฐประหารเมื่อปี ค.ศ. 2002 นักเขียนด้านกีฬาอย่างฮูลิโอ อัวร์ดาเนตา ยึดฟุตบอลเป็นเหตุผลสนับสนุนการตัดสินใจของรัฐบาล: "RCTV เคยถือสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการถ่ายทอดเกมการแข่งขันของทีม ไวน์แดง ของเรา" เขาอธิบาย "ไม่กี่เดือนก่อน เรากำลังตามหลังอยู่ 0-3 หลังจากแข่งไปไม่ถึงชั่วโมง จู่ ๆ พวกเขาก็หยุดการถ่ายทอด! แล้วเอาละครน้ำเน่ามาฉายแทน! ทำแบบนี้ได้ที่ไหน ยุติการถ่ายทอดกลางคันแบบนี้มันใช้ไม่ได้"


 


การโต้คารมคงดำเนินต่อไป แม้เมื่อ RCTV กลับมาออกอากาศทางเครือข่ายเคเบิลในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้อุณหภูมิทางการเมืองเย็นลงบ้างแล้ว "ช่วงนี้ไม่ค่อยมีการเดินขบวน" ได้ยินเสียงรำพึงจากรูเบน คนขับแท็กซี่รายหนึ่งในคารากัส "คงเพราะฟุตบอลโคปามั้ง"


 


คนขับแท็กซี่อาจไม่แน่ใจ แต่รัฐบาลสิโยงโคปาเข้ากับการปฏิวัติโบลิวาร์ตรง ๆ เลย "มาช่วยยิงประตูชัยให้สังคมนิยมแห่งศตวรรษที่ 21!" ป้ายผ้าผืนหนึ่งเขียนไว้ คำขวัญของรัฐบาลที่ว่า "เวเนซุเอลาเป็นของทุกคน" ถูกเปลี่ยนเป็น "โคปาอเมริกาเป็นของทุกคน" ในขณะที่คำสร้อยลูกคู่ในโฆษณาทางโทรทัศน์ชิ้นหนึ่งบอกว่า "มันคือการปฏิวัติแห่งอารมณ์!"


 


ไม่ว่ารัฐบาลทุ่มเทความพยายามแค่ไหน ฝ่ายค้านก็ทำงานหนักแค่นั้นเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของชาเวซ ฝ่ายค้านโวยวายว่า บัตรเข้าชมการแข่งขันถูกพวกชาวิซตากวาดไปเรียบหลายเดือนก่อนทัวร์นาเมนต์เริ่มต้น แต่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกลับกลายเป็นตรงกันข้าม เมื่อแฟนบอลส่วนใหญ่ในสนามฟุตบอลมูนิซิปิโอสตาดิอุมที่เพิ่งสร้างใหม่เอี่ยมในเมืองบาร์กีซีเมโต ซึ่งมีความจุ 38,000 คน พร้อมใจกันส่งเสียงร้องเชียร์ว่า "va a caer, va a caer, este gobierno va a caer" ("แพ้ แพ้ รัฐบาลนี้กำลังพ่ายแพ้") ก่อนการแข่งขันนัดสุดท้ายของอาร์เจนตินาในรอบแบ่งกลุ่ม "ฝ่ายขวาจะคงอยู่ตลอดไป" ชาวเวเนซุเอลาคนหนึ่งกระซิบบอกผมตอนออกจากสนาม "แต่ไม่ต้องห่วง พวกเราทุกคนที่นี่เป็นชาวิซตา ขนาดลูกสาว 5 ขวบของผมยังชอบวาดรูปด้วยสีแดงสังคมนิยมเลย" เขาตบท้ายคำพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง


 


แน่นอน ฟุตบอลโคปาครอบงำจิตใจของชาวเวเนซุเอลาไว้ได้ ไม่ว่าจะมีภูมิหลังทางการเมืองอยู่ฟากฝ่ายไหน ในประเทศที่การแข่งขันนัดใหญ่ ๆ อย่างมากก็ดึงดูดผู้ชมได้สัก 5,000 คน การแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จในตัวมันเอง แต่ไม่มีใครแน่ใจว่า ความคึกคักเช่นนี้จะดำรงอยู่ได้ยาวนานแค่ไหน


 


ชาวเวเนซุเอลาคงยังสองจิตสองใจกับชะตากรรมของทีมชาติ และพอใจที่จะเชียร์ทีมเพื่อนบ้านอย่างรักแรงแข็งขอบราวกับเป็นทีมชาติของตัวเอง หลังจากอาร์เจนตินาเตะรอบ 8 ทีมสุดท้ายกับเปรู นักข่าวโทรทัศน์ช่องหนึ่งดักสัมภาษณ์กองเชียร์ในเสื้อฟ้าขาวของทีม albiceleste (ฉายาของทีมอาร์เจนตินา) เพื่อสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับชัยชนะของทีม "ผมเชียร์ทีม ไวน์แดง" กองเชียร์คนหนึ่งตอบด้วยสำเนียงแบบแคริบเบียนชัด ๆ "และอาร์เจนตินา!"


 


ไม่กี่วันก่อน นักข่าวขอให้ ฮูลิโอ เซซาร์ อูริเบ โค้ชของทีมเปรู สรุปการแข่งขันในทัวร์นาเมนต์นี้ "ช่องว่างระหว่างทุกทีมในละตินอเมริกากำลังหดแคบลง" เขากล่าว "ยกเว้นอาร์เจนตินากับบราซิล" หลังจากเฝ้าดูการแข่งขันครั้งนี้ทุกนัดทั้งในสนามและบนจอทีวี คำพูดของเขาฟังเข้าเค้าไม่น้อย ระหว่างนั้น ตามร้านกาแฟและบาร์เหล้าในเวเนซุเอลา ชีวิตเริ่มดำเนินไปตามปรกติ ฟุตบอลโคปายังเป็นประเด็นในการพูดคุยก็จริง แต่ตอนนี้มันเป็นแค่หัวข้อหนึ่งในหลาย ๆ เรื่อง รายการ พบประธานาธิบดี กลับมาออกอากาศแล้วในสัปดาห์นี้


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net