Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ชูวัส ฤกษ์ศิริสุข


 


 


มาถึงวันนี้ ผมคิดว่า เอ็นจีโอ สื่อ และนักวิชาการที่เคยประกาศว่า ไม่เห็นด้วยกับรัฐประหารเมื่อวันที่ 19กันยายน 2549 แต่จำยอมรับไปนั้น ถึงเวลาพิสูจน์ตัวเองแล้วว่าจริงใจแค่ไหน


 


อย่าลืมว่า ท่าทีประนีประนอมกับคณะรัฐประหารที่ผ่านมานั้น ทำให้บางท่านได้เข้าไปรับใช้คณะรัฐประหาร บางท่านเป็นผู้ได้ประโยชน์โดยตรง และท่าทีแบบนั้นก็ทำให้หลายท่านมีอาการน้ำท่วมปาก ไม่กล้าวิพากษ์วิจารณ์คณะรัฐประหารและรัฐบาลที่แต่งตั้งโดยทหาร แม้ในยามที่เราเห็นอยู่เต็มตาว่า ระบอบทหารนับวันๆ จะฟื้นตื่นและหยั่งรากลึกในสังคมไทย และเชื่อเถิดว่า บางท่านถึงกับแอบเห็นดีเห็นงามไปกับโครงสร้างเหล่านี้ ซึ่งเคยเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างของสังคมไทยมาช้านาน


 


นี่ไม่ใช่ยุคแบ่งฝ่าย แต่นักวิชาการบางท่านเคยบอกว่า สังคมไทยเต็มไปด้วยคนหัวเอียงขวา อาจารย์ธงชัย วินิจจะกูล ก็เคยปาฐกถาเรื่องประชาชนนี่เองคือกลไกรัฐ พักหลังๆ ผมเองก็เชื่อเอาด้วยว่า ภาคประชาชน เอ็นจีโอ ก็ล้วนเต็มไปด้วยฝ่ายขวา คิดว่าตัวเองก้าวหน้าอยู่ดีๆ พอถึงเวลาหนึ่ง ดันโดดออกมาแสดงตนเป็นพวกอนุรักษ์นิยมเสียนี่


 


จากที่เคยเชื่อว่าปัญหาในสังคมไทยเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ก็ดันมาเชื่อเรื่องตัวบุคคล จากที่เคยร่วมกันออกแบบโครงสร้างการเมืองใหม่ด้วยการปฏิรูปการเมือง มาวันหนึ่งก็ทำลายมันเสียเพื่อไล่คนเพียงคนเดียว


 


ด้วยความเคารพกันในวิถีทางและประสบการณ์นะครับ แต่มองแบบรวมๆ แล้ว มันสะท้อนว่าคนเหล่านี้หมดหวัง หรือไม่ก็ถูกวาทกรรม "เผด็จการโดยธรรม" ที่แฝงฝังอยู่ในดีเอ็นเอกลับขึ้นมาครอบงำสิ่งที่ตัวเองเคยสรุปบทเรียนมาตลอดเกือบชีวิตว่า ปัญหาในสังคมไทยเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง และร้ายแรงที่สุดก็คือโครงสร้างอำนาจนิยมที่มากับระบอบข้าราชการ ที่พร้อมจะขับเคลื่อนการเติบโตของทุนนิยมไปแบบฉ้อฉล ปราศจากธรรมาภิบาล มีอภิสิทธิชน และเล่นพรรคเล่นพวก


 


คนเหล่านี้ลืมไปแล้วหรือไรว่า การจะเอาทหารกลับเข้ากรมกองทุกครั้งนั้นมาจากการนองเลือดทั้งสิ้น อย่างกรณี 14 ตุลาคม 2516 กรณีพฤษภาคม 2535 ไม่เคยมีสักครั้งที่ประชาชนจะเอาทหารกลับเข้ากรมกองได้อย่างสันติ


 


ใครปลุกผีขึ้นมาจากหลุม คงไม่ต้องพูดกัน เพราะประวัติศาสตร์จะจารึกในทางที่ท่านเลือก อย่างมั่นคง เป็นสัจจะ ไม่ใช่วันนี้ วันหนึ่งก็ต้องปรากฏ


 


แต่ใครจะเอาผีกลับคืนหลุม แน่นอน ไม่ใช่ด้วยการลงแรงจากเลือดเนื้อของท่านแน่ และคงจะไร้เดียงสาเกินไปที่หวังว่า วันหนึ่งผีจะเดินไปอย่างเซื่องๆ ลงหลุมไปเอง เพราะอย่างที่ท่านเห็น ท่ออำนาจได้ต่อขึ้นอย่างตรงไปตรงมาแล้วผ่านกลไกราชการจากระดับบนจนรากสุด พร้อมกับยอมรับด้วยว่า กลัวการถูก "เช็คบิล"


 


ในที่สุด นี่จะเป็นการรัฐประหารภายใต้เสื้อคลุมประชาธิปไตย เพราะหากคุณหลับไปใน 1 วันหลังการรัฐประหาร 19  กันยายน 2549 ยาวนานรวดเดียว 11 เดือน เพื่อตื่นขึ้นมาในวันที่ 19 สิงหาคม 2550 คุณอาจจะเข้าใจว่า คณะรัฐประหาร ได้มีคำสั่งฉีกรัฐธรรมนูญ 2540 ยุบพรรค ยึดทรัพย์ และประกาศรัฐธรรมนูญใหม่และตั้งรัฐบาลใหม่ของตนเอง โดยเป็นเปลือกหอยให้กับรัฐบาลพันธมิตรประชาธิปัตย์ไปเรียบร้อย


 


วิธีการรัฐประหารแบบใหม่ เนื้อหาเดิม...ใช่ มันง่ายๆ แค่นี้เอง และช่างเนียนเสียนี่กระไร 


 


ไม่ว่าอย่างไร คำถามที่สังคมไทยยังต้องตอบก็คือ "ใครจะเอาผีกลับคืนหลุม" ท่านๆ ที่เคยเอื้อนเอ่ยคำสวยหรูว่า "โครงสร้างของความรุนแรง" ต้องปฏิรูปการเมือง และปลุกคนให้ร่วมกันยกร่างรัฐธรรมนูญ 2540 ขึ้นมา เมื่อ 10 ปีที่แล้ว มาวันนี้ท่านเหล่านี้จะจัดการสิ่งที่ท่านปลุกมันขึ้นมาใหม่อย่างไร


 


บางทีเราอาจจะถอยไปไม่ได้อีกแล้ว ไม่ว่าอย่างไร


 


มีหนทางเดียวก็คือ ต้ อ ง ทำ ใ ห้ ค ณ ะ รั ฐ ป ร ะ ห า ร พ่ า ย แ พ้  


 


และเมื่อเราไม่ต้องการให้ความสุ่มเสี่ยงที่จะนองเลือดเกิดขึ้นอีก "การลงประชามติ" ด้วยการไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ก็เป็นหนทางหนึ่งที่เหลืออยู่ที่จะทำให้คณะรัฐประหารพ่ายแพ้และกลับเข้ากรมกองอย่างสันติ


 


แม้หนทางนี้จะตีบตันเหลือเกิน อันเนื่องมาจากถูกบังคับทุกวิถีทางให้ประชาชนลงประชามติ "เห็นชอบ" ร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ด้วยการโฆษณาชวนเชื่อ โกหกตัวเอง โกหกหลอกลวงคนอื่นๆ และก็โกหกหลอกลวงต่อๆ ไปจนเป็นนิสัย


 


แม้หนทางนี้จะตีบตันเหลือเกิน เพราะผู้ร่างรัฐธรรมนูญ นั่งเป็นกรรมการการเลือกตั้งจัดการประชามติเสียเอง โดยไม่ละอายต่อมารยาท จรรยาบรรณวิชาชีพ (ผมก็งงอยู่ๆ ว่า "ผู้ใหญ่" อย่างคุณสดศรี สัตยธรรม ไม่คิดจะลาออกจาก กกต.หรืออย่างไร)


 


มีข้อบกพร่องมากมายจากร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ทั้งปัญหาในเชิงหลักการในแต่ละมาตรา ความสอดร้อยต้องกัน และผลสมฤทธิ์ของมัน


 


แต่ผมจะขอเสนอให้ดูและพิจารณาก่อนลงประชามติเพียงมาตราเดียว เป็นมาตราสำคัญที่ไม่ได้ระบุไว้เป็นลายลักษณ์อักษร นั่นคือ มาตราที่ว่าด้วยการป้องกันการรัฐประหาร


 


นี่เป็นโอกาสที่เราจะช่วยกันยกร่างมาตรานี้ขึ้นมาด้วยการช่วยกันกระซิบบอกต่อ ให้เพื่อนร่วมสังคมสันติของเราไปลงประชามติเพื่อไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ทั้งนี้ก็เพื่อจะสร้างให้รัฐธรรมนูญ 2540 ที่มาจากการมีส่วนร่วมของประชาชนด้วยความชอบธรรม กลายเป็นฉบับแก้ไขเพิ่มเติมมาตราสำคัญที่สุดที่ว่าด้วย การป้องกันการรัฐประหาร ที่แม้จะไม่เป็นลายลักษณ์อักษร ทว่าสถิตมั่นคงอยู่ในใจ ในวัฒนธรรม ในประเพณี


 


เราขอเรียกร้องให้ภาคประชาชน นักวิชาการ ตื่นขึ้น หรืออย่างน้อยก็ได้ทบทวนว่า ท่านจะเลือก "ยาว" หรือเลือก "สั้น"


 


เราขอเรียกร้องให้ภาคประชาชน นักวิชาการ ออกมารับผิดชอบกับอนาคต เพราะนี่คือโอกาสที่จะเดินสู่สันติโดยไม่ยอมจำนน


 


เพราะนี่คือโอกาสที่จะหลีกเลี่ยงบาดแผลและการถูกตราหน้าว่า มีส่วนสำคัญต่อการนองเลือด ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงหากการรัฐประหารยังคงมีชอบธรรมและกลายเป็นวิธีการที่พร้อมจะถูกนำมาใช้ได้อีกในอนาคต


 


เอารัฐธรรมนูญ 2540 คืนมา เอาเผด็จการทหารและพันธมิตรคืนหลุมไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net