(แฟ้มภาพ) ป้ายต่อต้านโครงการเขื่อนกั้นแม่น้ำสาละวิน ในฝั่งพม่า ด้านเขตอิทธิพลของชนกลุ่มน้อย ภาพนี้ถ่ายในเดือนกุมภาพันธ์ 2550 ที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 3 ก.ย. พ.อ.ผดุง ยิ่งไพบูลย์สุข ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 17 อ.แม่สอด จ.ตาก ในฐานะประธานคณะกรรมการชายแดนฝ่ายไทย ได้รับแจ้งจาก พ.ท.จ่อจ่อ ผู้บังคับกองพัน 24 ประธานฝ่ายพม่า ว่ามีเจ้าหน้าที่ไทยถูกระเบิดเสียชีวิต ที่เมืองมะกะหม่อง จ.ผาอัน ทางการพม่าจะนำศพมาส่งให้ที่เมืองเมียวดี ตรงข้ามบ้านริมเมย ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จึงสั่งการให้ร้อยเอกศักดิ์สิทธิ์ ขันมณี หัวหน้าหน่วยประสานงานชายแดนประจำพื้นที่ที่ 3 เดินทางข้ามไปรอรับศพที่เมืองเมียวดี กำหนดการศพจะเดินทางมาถึงเมืองเมียวดีในเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 3 ก.ย. โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นำรถตู้ 2 คัน และรถเก๋ง 1 คัน ติดฟิล์มกรองแสงหนาทึบ เดินทางข้ามสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ไปรอรับที่เมืองเมียวดี และไม่ยอมให้รายละเอียดแก่สื่อมวลชนที่รอทำข่าวที่เชิงสะพานจำนวนมาก
สำหรับผู้เสียชีวิตทราบว่าชื่อนายสมาน จันทะหมื่น อายุ 53 ปี อยู่บ้านคอกสมาน ต.คอกสมาน อ.สอง จ.แพร่ ทำงานเป็นช่างเทคนิค การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ถูกส่งตัวพร้อมกับเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯอีกหลายสิบคนเข้าไปทำงานสำรวจพื้นที่สร้างเขื่อนฮัจจี ฝั่งแม่น้ำสาละวิน จ.แลงปอย ประเทศพม่า ตามโครงการความร่วมมือของไทยและพม่า โดยนายสมานอยู่ในชุดปฏิบัติงานที่ 3 กระทั่งเมื่อเวลา 19.10 น. วันที่ 2 ก.ย. ขณะที่นายสมานซึ่งพักในบ้านพักที่เมืองกะมะหม่อง จ.ผาอัน กับพวก รวม 12 คน แต่ขณะเกิดเหตุนายสมานอยู่คนเดียว กำลังจะเข้าห้องน้ำ ได้มีคนร้ายคาดว่าเป็นชนกลุ่มน้อยลอบขว้างระเบิดเข้าไปในบ้านจำนวน 2 ลูก เสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่ว นายสมานถูกสะเก็ดระเบิดเสียชีวิตทันที
ต่อมาเจ้าหน้าที่ทางการพม่าทราบเหตุ ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่พร้อมทั้งแจ้งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยที่ทำงานอยู่ทราบ และนำศพนายสมานไปตั้งที่วัดเหมียนจิงู มีพระอูตูสะนะ ประธานฝ่ายสงฆ์ กะเหรี่ยงพุทธ เป็นเจ้าอาวาส ก่อนที่ทางกระทรวงการต่างประเทศฝ่ายพม่า จะประสานแจ้งเหตุให้กับกระทรวงการต่างประเทศของไทยทราบ ขณะเดียวกันทางรัฐบาลพม่าก็มีคำสั่งมายังประธานคณะกรรมการชายแดนพม่าที่เมียวดี ให้ประสานกับประธานฝ่ายไทยเพื่อนำศพนายสมานส่งกลับประเทศไทย
นายอภิชาต ดิลกโสภณ รองผู้ว่าการการบริหาร ในฐานะโฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์เมื่อค่ำวันที่ 3 ก.ย. ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าการที่คนร้ายปาระเบิดเข้าไปในแคมป์คนงานมีสาเหตุเกิดจากอะไร ส่วนผู้เสียชีวิตทราบชื่อนายสมาน จันทะหมื่น เป็นชาวจังหวัดแพร่ ทำงานเป็นช่างสำรวจของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ เดินทางเข้าไปสำรวจวัดระดับความสูงต่ำของพื้นที่ที่จะมีการสร้างเขื่อน โดยเดินทางไปนานประมาณ 2 เดือนครึ่งแล้วและกำลังจะเดินทางกลับ ในการเดินทางเข้าไปทำงานของเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ จะมีทหารพม่าดูแลความปลอดภัยตลอดเวลา
ส่วนคนงานที่เหลืออยู่ในอาการตกใจเสียขวัญ จึงให้ปิดแคมป์แล้วให้เดินทางกลับมายังฝั่งไทยทั้งหมด รวมทั้งนำศพผู้เสียชีวิตกลับภูมิลำเนาเดิมคือที่ จ.แพร่ และการไฟฟ้าจะให้การช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ นายอภิชาตกล่าว
วันเดียวกัน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างคำพูดของนายทหารไทยในอำเภอแม่สอด จังหวัดตากคนหนึ่ง ระบุว่า เกิดเหตุคนร้ายปาระเบิดมือ 2 ลูก เข้าใส่แคมป์คนงานไทยบริเวณสถานที่สร้างเขื่อนพลังน้ำในเขตรัฐกะเหรี่ยง ประเทศพม่า ส่งผลให้คนงานไทยซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสำรวจ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเสียชีวิต 1 ราย คนงานอีกหลายสิบชีวิตพากันหนีตายอลหม่าน
สำหรับแคมป์คนงานไทยดังกล่าว ตั้งอยู่ในเขตหมู่บ้านรัฐกะเหรี่ยง พื้นที่อิทธิพลของสหภาพกะเหรี่ยงแห่งชาติ หรือเคเอ็นยู ซึ่งต่อสู้กับรัฐบาลทหารพม่ามาตั้งแต่ปี 2492 แต่แคมป์คนงานไทยได้รับการปกป้องคุ้มครองจากทหารกองทัพรัฐบาลพม่า โดยมีคนงาน 42 คน สังกัดการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ด้านนายหม่า ซา ลา ปาห์ เลขาธิการกลุ่มกะเหรี่ยงเคเอ็นยู (KNU) แถลงปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับเหตุปาระเบิดดังกล่าว แต่อ้างว่าทหารรัฐบาลพม่า อาจอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ เพราะต้องการทำลายชื่อเสียงกลุ่มกะเหรี่ยงเคเอ็นยู นายหม่ากล่าวว่า ทหารพม่ารับผิดชอบดูแลพื้นที่ดังกล่าวอย่างเหนียวแน่น เป็นไปไม่ได้ที่กลุ่มกะเหรี่ยงจะเข้าไปก่อเหตุร้าย ทหารพม่าอาจดำเนินการดังกล่าวเอง เพื่อต้องการให้คนไทยเกลียดชังกลุ่มกะเหรี่ยงก็ได้
เหตุร้ายครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์การเสียชีวิตครั้งที่ 2 ของคนงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตของไทย นับตั้งแต่เริ่มโครงการก่อสร้างเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำขนาด 1,000 เมกะวัตต์ ตามแนวแม่น้ำสาละวิน เมื่อ 17 เดือนก่อน โครงการนี้ถูกคัดค้านอย่างมาก จากกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและบรรดาชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ โดยกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ได้พยายามเรียกร้องถึงรัฐบาลไทยให้หยุดโครงการสร้างเขื่อน 5 แห่ง ซึ่งมีเป้าหมายผลิตกระแสไฟฟ้า 14,700 เมกะวัตต์ โดยให้ศึกษาผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมให้ชัดเจนเสียก่อน จึงควรดำเนินการ นอกจากนี้ ยังถูกต่อต้านจากชนกลุ่มน้อยชาวพม่า โดยเฉพาะกลุ่มติดอาวุธที่อยู่ตามแนวพรมแดนไทย-พม่า อีกด้วย
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อต้นเดือน พ.ค. 2549 นายชนะ หม่องปลี พนักงานขุดเจาะธรณีวิทยา ระดับ 3 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้เหยียบกับระเบิดบริเวณหน้าห้องน้ำในแคมป์ พื้นที่ปฏิบัติการสร้างเขื่อนในพม่า รัฐกะเหรี่ยง ต้องสูญเสียขาซ้าย 1 ข้าง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา แต่กลุ่มกะเหรี่ยงเคเอ็นยูก็แถลงปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว
เรียบเรียงจาก : เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และกรุงเทพธุรกิจ