ศูนย์ประสานงานชุมชนบ้านในไร่

           หมู่ที่  7  ต.นาเตย  อ.ท้ายเหมือง  จ.พังงา

วันที่  5  กันยายน  2550

เรื่อง      การบุกรุกทำลายสภาพป่าชายเลน

เรียน      อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ

สิ่งที่แนบมาด้วย   1.     หนังสือการละเมิดสิทธิในที่อยู่อาศัยและในที่ดินทำกิน

2.       ภาพถ่าย

3.       สำเนาการบุกรุกที่ดินบริเวณบ้านในไร่

            ชาวบ้านชุมชนบ้านในไร่  หมู่ที่  7  ต.นาเตย  อ.ท้ายเหมือง  จ.พังงา  ได้รวมตัวกันคัดค้านการบุกรุกทำลายสภาพป่าชายเลนในจำนวน  59.2  ไร่  เมื่อต้นเดือนสิงหาคม  2550  ได้มีนายทุนอ้างเอกสารสิทธิ์  นส.3ก.ในที่ดินป่าชายเลน  ร่วมมือกับผู้นำในท้องถิ่นและข้าราชการบางคน  ได้นำรถแบ็คโฮเข้ามาไถทำลายสภาพป่าชายเลนแปลงดังกล่าว  เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ไม่ให้เห็นร่องรอยของป่าชายเลนและกำลังจะล้อมรั้วลวดหนามกั้นอาณาเขตเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล  ซึ่งป่าชายเลนแปลงดังกล่าวนี้เป็นแปลงที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  ได้มีการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์  นส.3ก.  ของนายสมเกียรติ  ลีธีระ  ตามคำร้องที่  65/2548  เมื่อวันที่  8  กุมภาพันธ์  2548  จากนั้นได้มีข้อสรุปและเสนอมาตรการณ์แก้ไขปัญหาให้รัฐบาลเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์  ( นส.3ก.  )  ที่ทับพื้นที่ป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติ  ซึ่งในขณะนี้ผ่านมากว่า  2  ปีแล้ว  หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง  เช่น  กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง  กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  สำนักงานที่ดิน  สาขาอำเภอท้ายเหมือง  ยังมิได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด

            ในขณะเดียวกันชาวบ้านชุมชนในไร่  ได้รับผลกระทบจากการบุกรุกทำลายสภาพป่าชายเลนแปลงดังกล่าว  ทางด้านลมมรสุมฝั่งตะวันตกที่พัดมาอย่างรุนแรง  ที่ผ่านมาป่าชายเลนแปลงดังกล่าวช่วยป้องกันไม่ให้บ้านเรือนเสียหาย  อีกทั้งชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน  รายได้มาจากการจับสัตว์น้ำในพื้นที่ป่าชายเลนซึ่งเป็นแหล่งที่มีสัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์มาก  ใช้หล่อเลี้ยงชาวบ้านชุมชนในไร่มาเป็นเวลาช้านาน  อีกประการหนึ่งชาวบ้านที่คัดค้านการบุกรุกทำลายสภาพป่าชายเลนถูกคุกคามและข่มขู่จากพวกอิทธิพลในท้องถิ่น  จนชาวบ้านหวาดระแวงอย่างมากในขณะนี้  และอีกอย่างที่ทำให้ชาวบ้านที่คัดค้านกังวลใจเป็นอย่างมาก คือ มีข้าราชการจากทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง  อำเภอคุระบุรี  ได้นำรายชื่อที่คัดค้านไปให้ผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นดู  ซึ่งทางชุมชนบ้านในไร่ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าข้าราชการเหล่านี้มีส่วนได้เสียหรือไม่

ดังนั้น  เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาการทำลายสภาพป่าชายเลนอย่างแท้จริงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการบุกรุกป่าชายเลนแปลงอื่นๆอีกต่อไป  จึงมีข้อเสนอดังนี้

1. ให้ตรวจสอบการทำงานของสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  และสำนักงานที่ดิน  สาขาอำเภอท้ายเหมือง  ในการละเลยการปฏิบัติหน้าที่


2. ให้ตรวจสอบการบุกรุกทำลายสภาพป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติ ในจำนวน   59.2  ไร่


3. ให้รีบดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์  นส.3ก.  ที่ออกทับพื้นที่ป่าชายเลนจำนวน  59.2  ไร่


4. ให้ตรวจสอบกลุ่มอิทธิพลที่คุกคามและข่มขู่ชาวบ้าน ที่คัดค้านการบุกรุกป่าชายเลน


5. ให้มีการตรวจสอบอย่างเร่งด่วนภายใน  15 วัน

ขอแสดงความนับถือ

(  นายสาธิต  สาระวงศ์  )

แกนนำชุมชนบ้านในไร่