ที่มาของภาพ: ปกป้อง เลาวัณย์ศิริ

วานนี้ (9 ก.ย.) เวลาประมาณ 10.00 น. ชาวพม่า ชาวไทย และชาวต่างประเทศประมาณ 50 คน ชุมนุมกันที่หน้าสถานทูตพม่าประจำประเทศไทย ถ.สาทร กรุงเทพฯ ประณามรัฐบาลทหารพม่าที่ทำการปราบปรามผู้ประท้วงการขึ้นราคาเชื้อเพลิงในประเทศพม่าและเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษการเมือง และผู้ที่ถูกจับกุมเนื่องจากทำการประท้วง โดยการประท้วงดังกล่าว เป็นการประท้วงในประเทศไทย เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 3 สัปดาห์

ซึ่งการชุมนุมในวันนี้ มีนักศึกษา ที่เป็นผู้ปฏิบัติงานในสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) โดยมีนักศึกษาจาก 5 สถาบันคือมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยรามคำแหง และมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตจำนวนหนึ่งเข้าร่วมด้วย

โดยผู้ชุมนุมได้ตะโกนคำขวัญทั้งภาษาพม่าและภาษาอังกฤษ เรียกร้องประชาธิปไตยและเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษการเมือง นอกจากนี้ยังมีการออกแถลงการณ์ร่วมฉบับที่ 3 โดยองค์กรประชาธิปไตยพม่าและไทย 15 องค์กร โดยแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงโดยรัฐบาลทหารพม่า ในการปราบปรามฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตยและพระสงฆ์ที่ชุมนุมประท้วงการขึ้นราคาเชื้อเพลิง และเรียกร้องให้รัฐบาลทหารพม่าปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข ทั้งนี้แถลงการณ์ร่วมดังกล่าวยังเตือนรัฐบาลทหารพม่าให้ยุติการกระทำอันป่าเถื่อนที่กระทำต่อพระสงฆ์และประชาชนอีกด้วย

โดยการชุมนุมดังกล่าวดำเนินไปประมาณ 30 นาที ผู้ชุมนุมจึงได้ยุติการชุมนุมและสลายตัวไปอย่างสงบ

คุน อ่อง จากสภาแห่งชาติสหภาพพม่า (National Council of the Union of Burma) กล่าวว่าเขากังวลกับสถานการณ์ในประเทศพม่ามาก เนื่องจากมีการจับกุมพระสงฆ์ที่ออกมาประท้วงการขึ้นราคาน้ำมัน โดยเขาเกรงว่าภายใน 3 อาทิตย์นี้อาจมีการกวาดล้างประชาชนครั้งใหญ่โดยกองทัพพม่าและ USDA จนถึงขั้นนองเลือด โดยเขาหวังว่าการแสดงความสมานฉันท์ของชาวพม่าในต่างประเทศและผู้รักประชาธิปไตยทั่วโลก ที่ออกมาประท้วงจะช่วยสร้างกำลังใจให้กับประชาชนผู้รักประชาธิปไตยในพม่าอย่างแน่นอน

ขณะเดียวกันวานนี้ รัฐบาลทหารพม่ายังได้กล่าวหาแกนนำ 13 คน ที่ถูกรัฐบาลควบคุมตัวอยู่ในเวลานี้ว่า เป็นผู้ก่อการร้าย ซึ่งจะต้องถูกจำคุกเป็นเวลานานในความผิดข้อหาอยู่เบื้องหลังการประท้วงรัฐบาลขึ้นราคาน้ำมันในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ผู้ถูกควบคุมตัวทั้ง 13 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม "นักศึกษายุค 88" ซึ่งเคยเป็นแกนนำในการลุกฮือทั่วประเทศต่อต้านการปกครองของทหารในปี ค.ศ.1988 (2531) แต่ถูกปราบปรามอย่างรุนแรง ทำให้เชื่อว่ามีผู้เสียชีวิตถึง 3,000 คน ในบรรดาผู้ที่ถูกควบคุมตัวในครั้งนี้ มีนายมิ้น โก นาย แกนนำคนสำคัญรวมอยู่ด้วย

พร้อมกันนั้น รัฐบาลพม่ายังได้ขู่ที่จะใช้มาตรการจัดการขั้นเด็ดขาดต่อกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย และออกแถลงการณ์เตือนพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ว่าพยายามยุยงส่งเสริมการก่อความวุ่นวาย ทั่วประเทศ

นอกจากนี้ รัฐบาลทหารพม่ายังได้กล่าวหาสหรัฐและอังกฤษเมื่อวันอาทิตย์ว่าพยายามที่จะโค่นล้มรัฐบาลด้วยการให้การสนับสนุนคลื่นการประท้วงต่อต้านรัฐบาล และโดยกล่าวหาแกนนำจัดการชุมนุมว่าวางแผนก่อการร้ายและได้รับเงินสนับสนุนจากชาติตะวันตก รัฐบาลทหารพม่ายังกล่าวหาอีกว่า นายฮะเตย์ เคียว นักเคลื่อนไหวคนสำคัญ ซึ่งหนีรอดการจับกุมเมื่อเดือนที่แล้ว ได้รับความช่วยเหลือให้ไปหลบซ่อนตัวอยู่ในสถานทูตของชาติมหาอำนาจ

ทั้งนี้รัฐบาลทหารพม่า ได้ประกาศขึ้นราคาเชื้อเพลิงเมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยเป็นการขึ้นราคาหลายเท่าตัว เช่น ขึ้นราคาก๊าซธรรมชาติถึง 5 เท่า ทำให้เกิดการประท้วงต่อต้านคำสั่งดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค. เป็นต้นมา และหลังจากนั้นรัฐบาลทหารพม่าได้มีการจับกุมและตั้งข้อหาแกนนำผู้ประท้วง นำไปสู่การชุมนุมโดยชาวพม่าในต่างประเทศประณามการปราบปรามประชาชนของรัฐบาลทหารพม่าดังกล่าว และเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษการเมืองในประเทศ