11 ก.ย. 50 เวลา 12.00 น. ที่ประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนชาวจังหวัดระยองจากเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกประมาณ 3,000 คน มาชุมนุมเพื่อยื่นหนังสือ ต่อรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้พิจารณาไม่อนุญาตให้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในจังหวัดระยอง ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ กลุ่มชาวบ้านกว่า 10,000 คนได้รวมตัวกันชุมนุมคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 3-5 ก.ย. ที่ผ่านมา
ระหว่างการรอคอยอันยาวนาน และยังไม่มีเจ้าหน้าที่ออกมารับหนังสือ กลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งเป็นผู้หญิง ผู้สูงวัย ได้รวมตัวกันนั่งหน้าประตู และพนมมือขอร้องให้ตัวแทนระดับสูงมารับทราบความเดือดร้อนและรับรายชื่อคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าไออาร์พีซี
สำหรับโรงไฟฟ้าถ่านหินดังกล่าว เป็นของบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ซึ่งเตรียมจะยื่นซองประมูล ไอพีพี (IPP-Independent Power Producer หมายถึง ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่-ประชาไท) แต่ภายหลังผู้บริหารของบริษัทได้ออกมาแถลงข่าวแล้วว่าจะไม่สร้างในพื้นที่ซึ่งมีการต่อต้านสูงมาก
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านยังคงไม่ไว้วางใจและได้รวบรวมรายชื่อ พร้อมสำเนาบัตรประชาชนของประชาชนในพื้นที่ที่ไม่เห็นด้วยจากหลายตำบล ได้ประมาณ 15,000 รายชื่อ โดยต้องการยื่นให้กับเลขาคณะรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง แต่จนถึงขณะนี้ (เวลา 13.00น.) ยังไม่มีผู้ใดออกมารับหนังสือ
อนึ่ง หนังสือของเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกนั้น ระบุคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งเดิมบริษัทที่ลงทุนมีแผนจะยื่นซอง เพื่อขอสร้างโรงผลิตไฟฟ้าขนาดประมาณ 800-1600 เมกกะวัตต์ และเรียกร้องต่อรัฐบาลให้ดำเนินการกำหนดนโยบายการพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (พีดีพี) แบบมีส่วนร่วมจากประชาชนทุกภาคส่วน เนื่องจากที่ผ่านมา มีเสียงเรียกร้องว่าขาดการมีส่วนร่วมจากประชาชนอย่างยิ่ง
ต่อมาเวลาประมาณ 15.00 น. นาย
นอกจากนี้ปลัดกระทรวงพลังงานยังรับปากผู้ชุมนุมว่าในวันอาทิตย์ที่ 16 ก.ย.นี้เขาและรองปลัดฯ จะเดินทางลงไปยังพื้นที่ก่อสร้างเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งนี้ เมื่อยื่นหนังสือเสร็จเรียบร้อย ทางกลุ่มผู้ชุมนุมจึงได้สลายการชุมนุมทันทีอย่างสงบ
ลังรวบรวมรายชื่อ-สำเนาบัตรประชาชนของชาวระยองหลายตำบล ที่คัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินไออาร์พีซี
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านจังหวัดระยองที่มาชุมนุมคนหนึ่งกล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้เต็มไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกันไม่ให้ชาวบ้านที่เหมารถบัสราว 40 คันเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ต้องส่งแกนนำไปเจรจาเป็นระยะ โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ซึ่งเป็นชาวสวนผลไม้ เริ่มว่างจากงานเพราะหมดฤดูผลไม้ ได้เรี่ยไรค่ารถกันเองเพื่อมาเรียกร้องปัญหาการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่กำลังจะเกิดใกล้กับชุมชนและหากโครงการสำเร็จชาวบ้านเชื่อว่าจะเกิดผลกระทบอย่างมากต่อชุมชน
นาย
นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นตัวแทนรับหนังสือ และชี้แจงกับชาวบ้าน พร้อมรับปากจะลงพื้นที่ก่อสร้างโครงการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงวันอาทิตย์นี้
ทั้งนี้ มาตรา 67 ระบุว่า สิทธิของบุคคลที่จะมีส่วนร่วมกับรัฐและชุมชนในการอนุรักษ์ บำรุงรักษา และการได้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ และในการคุ้มครอง ส่งเสริม และรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ดำรงชีพอยู่ได้อย่างปกติและต่อเนื่องในสิ่งแวดล้อมที่จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัย สวัสดิภาพ หรือคุณภาพชีวิตของตน ย่อมได้รับการคุ้มครองตามความเหมาะสม
การดำเนินโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ จะกระทำมิได้ เว้นแต่จะได้ศึกษาและประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชนในชุมชน และจัดให้มีกระบวนรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียก่อน รวมทั้งได้ให้องค์การอิสระ ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนองค์การเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และผู้แทนสถาบันอุดมศึกษาที่จัดการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมหรือทรัพยากรธรรมชาติหรือด้านสุขภาพ ให้ความเห็นประกอบก่อนมีการดำเนินการดังกล่าว
สิทธิของชุมชนที่จะฟ้องหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ราชการส่วนท้องถิ่น หรือองค์กรอื่นของรัฐที่เป็นนิติบุคคล เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัตินี้ ย่อมได้รับความคุ้มครอง