องค์กรสิทธิฯจี้รัฐหาหลักประกันคุ้มครองนักต่อสู้สิทธิผู้บริโภคหลังเหยื่อศัลยกรรมถูกยิง

เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 50 คณะทำงานปกป้องนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน คณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน(ครส.) ออกแถลงการณ์เรียกร้องรัฐบาลต้องเร่งจัดการผู้มีอิทธิพลคุกคามนักต่อสู้เรียกร้องสิทธิผู้บริโภคกรณีการร้องเรียนและฟ้องร้องผลกระทบจากการทำศัลยกรรม จี้รัฐบาลให้หลักประกันและคุ้มครองสวัสดิภาพของทีมทนายความหวั่นอันตรายจากอันตรายจากผู้มีอิทธิพล

 

0 0 0

 

แถลงการณ์คณะทำงานปกป้องนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน

รัฐบาลต้องเร่งจัดการผู้มีอิทธิพลคุกคามนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน

 

จากกรณีการลอบสังหารนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนอย่างอุกอาจ ด้วยการบุกเข้าไปยิง นางรวิวรรณ เสตะรัต หรือนางอภัสนันท์ ธิติโชติ อายุ 53 ปี เสียชีวิตที่หน้าบ้านย่านแฮปปี้แลนด์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ นักต่อสู้เรียกร้องสิทธิผู้บริโภคกรณีการร้องเรียนและฟ้องร้องผลกระทบจากการทำศัลยกรรม เมื่อคืนวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมานั้น

 

คณะทำงานปกป้องนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งมีคณะทำงานจากความร่วมมือขององค์กรสิทธิมนุษยชนหลายองค์กร ร่วมกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ และคณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน(ครส.) ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด มีความเห็น ข้อห่วงใย และข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้

 

1.นางรวิวรรณ เสตะรัต เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการศัลยกรรม มีคดีฟ้องร้องกับ นพ.กวีวัธน์ หรือไพศาล

เฮงสวัสดิ์ เจ้าของไบโอคลีนิค หรือไพศาลคลีนิค ในข้อหาทำศัลยกรรมจนเสียโฉม รวมทั้งหมด 6 คดี เป็นคดีที่นางรวิวรรณและสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) ฟ้องร้อง 1 คดี อีก 5 คดีเป็นคดีที่อีกฝ่ายฟ้องกลับนางรวิวรรณ ข้อพิพาทดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง โดยเฉพาะคดีที่ สคบ.ร่วมเป็นโจทย์ยื่นฟ้อง นพ.ไพศาล ให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่นางรวิวรรณเรื่องละเมิดจำนวน 12.3 ล้านบาท จะมีการนัดพร้อมคู่ความในวันที่ 17 ธันวาคมนี้ ทั้งนี้ ข้อพิพาทหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับมูลเหตุดังกล่าวยังอยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงานรัฐหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา แพทยสภา รวมถึงหน่วยงานอื่นที่นางรวิวรรณได้ร้องเรียน ซึ่งถือได้ว่านางรวิวรรณ เสตะรัต เป็นนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนคนสำคัญในด้านสิทธิผู้บริโภค ซึ่งการลอบสังหารนางรวิวรรณ อย่างอุกอาจนี้นั้น ได้ทำลายโอกาสในการสร้างบรรทัดฐานด้านสิทธิมนุษยชนของสังคมไทยอย่างสำคัญยิ่งและสะท้อนสังคมแห่งอิทธิพลที่รัฐบาลยังไม่สามารถให้หลักประกันคุ้มครองพลเมืองที่ออกมาต่อสู้และเรียกร้องความเป็นธรรมได้

 

คณะทำงานปกป้องนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน และคณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน(ครส.) ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสีย และขอเรียกร้องให้รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบ เร่งหาตัวผู้กระทำความผิดและจ้างวานฆ่ามาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมโดยเร็วที่สุด เพื่อสร้างบรรทัดฐานของกระบวนการยุติธรรมไม่ให้วัฒนธรรมการใช้อำนาจอิทธิพลนอกระบบมาคุกคามนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนอีกต่อไป โดยเฉพาะการลอบสังหารโดยการจ้างวาน "มือปืนอาชีพ"

 

2.สาเหตุสำคัญของการลอบสังหารนางรวิวรรณ เสตะรัต นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน คือการออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมต่อสังคม จากหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเป็นการสร้างบรรทัดฐานทางสังคม แต่กลับถูกลอบสังหารจนถึงแก่ชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินหารหาสาเหตุการลอบสังหารอยู่ เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สร้างหลักประกัน กลไกและเครื่องมือในการปกป้องคุ้มครองนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนที่ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรม จากความเสี่ยงที่ออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะหรือความขัดแย้งที่ผู้มีอิทธิพลอาจสูญเสียประโยชน์ เพื่อใช้เครื่องมือและกลไกดังกล่าว ปกป้องคุ้มครองพลเมืองอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้เกิด "เหยื่อ" ที่รัฐละเลยรายต่อไป

 

3.คดีดังกล่าว อาจเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารนายวรรธนะ หรือนายบุญลือ รุ่งเรือง อายุ 42 ปี คนขับรถแท๊กซี่เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งนายวรรธนะ เป็นพยานปากสำคัญในคดีนางรวิวรรณ ยื่นฟ้องไบโอคลีนิค และทั้งสองคนถูกข่มขู่คุกคามจากบุคคลไม่ทราบฝ่าย ด้วยการตามหาที่อยู่จากรูปถ่ายเพื่อติดตามทวงหนี้ ก่อนการถูกลอบสังหารจนถึงแก่ชีวิต ดังนั้น มีความเป็นไปได้ว่าจะมาจากกลุ่มที่เสียผลประโยชน์กลุ่มเดียวกัน ทั้งนี้ คดีที่มีการฟ้องร้องนั้น เป็นเรื่องสิทธิผู้บริโภค ที่มีการร้องเรียนสภาทนายความด้วย และคดีดังกล่าวอยู่ในความดูแลของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ โดยมีนายนคร ชมพูชาติ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ ช่วยดูแลคดีดังกล่าว ดังนั้น การคุกคามซึ่งเกิดขึ้นกับพยาน และผู้เสียหายโดยตรง หากไม่มีการเร่งคลี่คลายคดีดังกล่าว อาจจะมีการขยายความรุนแรงมาถึงทนายความที่ช่วยเหลือต่อสู้คดีเพื่อความเป็นธรรมดังกล่าวด้วย

 

คณะทำงานปกป้องนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน และคณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน(ครส.) จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล กระทรวงยุติธรรม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้หลักประกันและคุ้มครองสวัสดิภาพของทีมทนายความอย่างเต็มที่ ซึ่งหลายครั้งสุ่มเสี่ยงต่ออันตรายจากผู้มีอิทธิพล ดังเช่นที่เกิดขึ้นกับนายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความนักสิทธิมนุษยชนมาแล้ว

 

ทั้งนี้ เพื่อเป็นบรรทัดฐานด้านสิทธิมนุษยชน และสร้างหลักประกันทางด้านความปลอดภัยแก่พลเมืองที่รัฐบาลสมควรจะต้องให้การคุ้มครองความปลอดภัยและสวัสดิภาพของประชาชนอย่างเต็มที่ต่อไป

 

 

 

15 กันยายน 2550

 

คณะทำงานปกป้องนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน  

คณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน(ครส.)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท