Skip to main content
sharethis

พ.อ.ประชาสัณห์ ชนะสงคราม ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธาน มีมติให้ยกเลิกการดำเนินโครงการเขื่อนรับร่อ จ.ชุมพร และโครงการเขื่อนคลองกลาย จ.นครศรีธรรมราช ตามข้อเสนอของกลุ่มสมัชชาคนจนแล้ว



 


เนื่องจากทั้ง 2 โครงการ เป็นโครงการที่มีความขัดแย้งกับราษฎรในพื้นที่อย่างมาก และราษฎรส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินโครงการ ประกอบกับกรมชลประทานยังมิได้ดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับเขื่อนรับร่อและเขื่อนคลองกลาย ตั้งแต่มีมติให้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค. 2549



 


พร้อมกันนี้ที่ประชุมยังมีมติแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับและติดตามการดำเนินการตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2550 กรณีเขื่อนที่ยังไม่ได้ก่อสร้างอีก 2 เขื่อน ได้แก่ โครงการเขื่อนแม่ขาน จ.เชียงใหม่ และโครงการเขื่อนท่าแซะ จ.ชุมพร เพื่อศึกษาว่าการดำเนินการก่อสร้างจะมีความเหมาะสมหรือไม่ ส่วนการศึกษาความเหมาะสมโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้นนั้น ให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการวางกรอบแนวทางการศึกษา วิเคราะห์ระบบการจัดการน้ำลุ่มน้ำยม



 


การยกเลิกการดำเนินการและศึกษาความเหมาะสมโครงการเขื่อนที่ยังไม่ได้สร้างทั้ง 4 โครงการดังกล่าว เป็นผลมาจากการเจรจาเพื่อยุติปัญหาของกลุ่มสมัชชาคนจน (กรณีปัญหาเขื่อนที่ยังไม่ได้ก่อสร้าง) ซึ่งได้มีการประชุมกันในวันที่ 21 พ.ย.2550 ระหว่างกรมชลประทานกับตัวแทนสมัชชาคนจน โดยมีนายธีระ วงศ์สมุทร อธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานการประชุม



 


รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลระบุว่า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เห็นด้วยที่ให้ยกเลิกการดำเนินการโครงการเขื่อนรับร่อและโครงการเขื่อนคลองกลาย เนื่องจากมีการต่อต้านอย่างรุนแรงของราษฎรในพื้นที่ ทำให้ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ ส่วนการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับและติดตามการดำเนินโครงการเขื่อนแม่ขานและโครงการเขื่อนท่าแซะนั้น ควรเน้นการมีส่วนร่วมของราษฎรที่ได้รับผลกระทบ



 


ด้านนายบารมี ชัยรัตน์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน กล่าวว่า การสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ที่ใช้เงินลงทุนหลายพันล้านบาท ทั้งโครงการเขื่อนรับร่อและเขื่อนคลองกลายนั้น เป็นสิ่งที่ไม่มีความคุ้มค่าเลยทั้งในเชิงสิ่งแวดล้อม สังคมและเศรษฐกิจ เพราะทำให้ต้องสูญเสียพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์และพื้นที่ป่าต้นน้ำบางส่วนไป ขณะที่การจัดการน้ำในบริเวณดังกล่าวยังมีทางเลือกอีกมากมาย เช่น การขุดลอกคูคลอง การทำคลองลัด และแก้มลิง เป็นต้น



 


นายบารมี ยังระบุว่า ต้องขอบคุณรัฐบาลชุดนี้ที่ยกเลิกการก่อสร้างทั้ง 2 แห่ง แต่ทั้งนี้ ต้องรอผลการอนุมัติจากที่ประชุม ครม.อีกครั้งว่าจะเห็นด้วยตามมติที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองฯ หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าเรื่องนี้ยังไม่มีหลักประกันอะไร เพราะกรมชลประทานอาจรื้อโครงการขึ้นมาสร้างเมื่อใดก็ได้ ซึ่งหากมีการรื้อโครงการขึ้นมาอีก ทางสมัชชาคนจนพร้อมรวมกลุ่มต่อต้านการก่อสร้างต่อไป



ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net