Skip to main content
sharethis

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 4 ม.ค. ประชาชนจากหลายอำเภอใน จ.บุรีรัมย์ ร่วม 20,000 คนมาปักหลักชุมนุมประท้วงเพื่อขับไล่นายเกษม วัฒนธรรม ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งและ พ.ต.อ.สังวร ภู่ไพจิตรกุล กรรมการการเลือกตั้งฝ่ายสืบสวนสอบสวน พร้อมมีการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อถอดถอน กกต.จังหวัดอีกกว่า 150 โต๊ะ โดยมีการเปิดเครื่องกระจายเสียงให้ว่าที่ สส.เขต 1 บุรีรัมย์ที่ได้ใบแดงพรรคพลังประชาชนจำนวน 3 คนคือนายประกิจ พลเดช, นายพรชัย ศรีสุริยโยธิน และนายรุ่งโรจน์ ทองศรี


 



โดยมีนายรังสิกร ทิมาตฤก สส.เขต 2 พรรคพลังประชาชนเข้ามาร่วมปราศรัย ทั้งนี้ การปราศรัยได้ผลัดกันขึ้นปราศรัยกล่าวโจมตีการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบุรีรัมย์ โดยเฉพาะนายเกษม วัฒนธรรม ประธาน กกต. และ พ.ต.อ.สังวร ภู่ไพจิตรกุล กกต.จังหวัด ซึ่งการปราศรัยได้พูดถึงการเลือกปฎิบัติของ กกต.ที่จ้องทำร้ายเพียงพรรคพลังประชาชนเพียงพรรคเดียว


 



ต่อมาเวลาประมาณ 15.30 น. นายประวัติ รัฐิรมย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมนายทวี ชุนเกาะ รักษาการ ผอ.กกต.บุรีรัมย์ ออกมาพบกลุ่มผู้ชุมนุมพร้อมกับให้หาตัวแทน 5 คน มาเจรจาหาข้อยุติ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลัง อส. กว่า 100 นาย ตรึงกำลังอยู่บนสำนักงาน กกต. เพราะเกรงกลุ่มผู้ชุมนุมจะบุกเข้าสำนักงาน แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้


 



ผู้ชุมนุม เสนอสอบสวนใหม่ ขอรู้ผลใน 3 วัน


โดยนอกจากจะแจ้งทุกข์กล่าวโทษแล้ว กลุ่มผู้ชุมนุมยังได้ยื่นข้อเสนอ 4 ข้อต่อทางการ ดังนี้ 1.ขอเสนอให้นายเกษม วัฒนธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ในฐานะประธาน กกต.จังหวัดบุรีรัมย์ และ พ.ต.อ.สังวรณ์ ภู่ไพจิตรกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ในฐานะ กกต.ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ ยุติบทบาทในตำแหน่งดังกล่าวเป็นการชั่วคราว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการสืบสวนสอบสวน กรณีพิจารณาให้ใบแดงแก่ว่าที่ ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 1 จังหวัดบุรีรัมย์ ทั้งสามคน 2.ให้ กกต.แต่งตั้งบุคคลจาก สนง.กกต.มาปฏิบัติหน้าที่แทนบุคคลทั้งสองเป็นการชั่วคราว เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนใหม่เกี่ยวกับสำนวนคดีที่ให้ใบแดงแก่บุคคลทั้งสาม โดยขอทราบผลภายใน 3 วัน นับแต่วันที่ 4 มกราคม ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมจะปักหลักชุมนุมต่อไป


 



เตรียม ตร.ปราบจราจล-อาสาสมัคร รักษาความสงบ


ด้าน พ.ต.อ.วิชัย สังข์ประไพ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ชุมนุมต้องการคำชี้แจงจาก กกต.บุรีรัมย์ ที่แจกใบแดงให้กับว่าที่ ส.ส.ทั้งที่ไม่มีการเรียกไปชี้แจงข้อมูล ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบธรรม สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ชุมนุม อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ในขณะนี้ยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรง เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ล่าสุด รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กกต.จังหวัด รวมทั้งกลุ่มผู้ชุมนุม อยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่ากลุ่มผู้ชุมนุมน่าจะสลายตัวภายในไม่ช้านี้



รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้เหตุการณ์จะยังไม่รุนแรงบานปลาย ในการควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามจราจล 1 กองร้อย หรือ 150 นาย ตำรวจท้องที่ 50 นาย อาสาสมัคร และส่วนอื่น รวมแล้วกว่า 200 นาย ในการรักษาความสงบเรียบร้อยในครั้งนี้


 


พปช. แจงไม่ได้อยู่เบื้องหลัง


ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน ปฏิเสธว่า พรรคไม่ได้เกี่ยวข้องหรืออยู่เบื้องหลังกลุ่มผู้ชุมนุมกดดัน กกต.บุรีรัมย์ซึ่งพรรคไม่เห็นด้วยกับการกดดันทุกรูปแบบ และเห็นว่าควรเคารพในการตัดสินของ กกต. แม้จะยอมรับว่าไม่ไว้วางใจในการทำงานของ กกต.จังหวัดพร้อมเรียกร้องให้ กกต.มีบรรทัดฐานให้เสมอภาคกันเพื่อความสบายใจแก่ทุกฝ่าย


 



ปชป. แฉหลอกชาวบ้านไปถวายความอาลัยฯ


ขณะที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ผู้สมัครส.ส.บุรีรัมย์ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเบื้องลึกของการนำม็อบมากดดัน กกต. ครั้งนี้ว่า บรรดาหัวคะแนนของผู้สมัครส.ส.พรรคพลังประชาชน ได้ไปชักชวนชาวบ้านโดยบอกว่า จะพาไปถวายความอาลัยต่อสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่หน้าศาลากลางจังหวัด โดยให้แต่งชุดดำ และนำบัตรประชาชนไปด้วย แต่เมื่อไปถึงกลับพาไปชุมนุมที่หน้าสำนักงานกกต.จังหวัด เพื่อทำการประท้วงดังกล่าว และมีรายงานว่า ผู้ที่มาร่วมประท้วงได้รับเงินคนละ 200 บาทด้วย


 


นายกฯ ยันไม่ประกาศใช้กฎอัยการศึก


พล.อ.สุรยุทธ์จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการให้ใบเหลือง ใบแดงของ กกต.ว่า เมื่อวันที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา มีโอกาสพบนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ก็ได้สอบถามว่ามีปัญหาอะไรบ้างหรือไม่ ซึ่งประธาน กกต.บอกว่า จะทำทุกอย่างด้วยความโปร่งใส และเป็นไปตามหลักการที่มีอยู่



ส่วนที่มีข่าว คมช.เตรียมเสนอออกกฎอัยการศึก หลังพบความเคลื่อนไหวชุมนุมคัดค้านการออกใบแดงที่ จ.บุรีรัมย์ นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องดูแลรักษาความปลอดภัยให้ กกต.บุรีรัมย์ เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับไปดูแลแล้ว


 



"คงไม่มีความจำเป็นต้องออกกฎอัยการศึก ผมคิดว่าเรื่องการเลือกตั้งคงไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการประกาศอัยการศึก เพราะหากเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายใดๆ ก็มีพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องใช้กฎอัยการศึก" นายกรัฐมนตรี ระบุ


 



เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่า จ.บุรีรัมย์ มีความเคลื่อนไหวที่น่าเป็นห่วงใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มี ไม่ถึงกับน่าเป็นห่วง แต่ยอมรับว่ามีข่าวการเคลื่อนไหวคัดค้าน และมีประชาชนบางส่วนเดินทางไปชุมนุมหน้าสำนักงาน กกต.จังหวัด ซึ่งเมื่อมีการชี้แจงทำความเข้าใจก็สลายตัวไป ส่วนพื้นที่อื่นก็ไม่มีข่าวความเคลื่อนไหวใดๆ



 


 


อนึ่ง นับตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เป็นต้นมา พื้นที่ในจังหวัดบุรีรัมย์ถูกประกาศเป็นเขตกฎอัยการศึก และยังไม่เคยมีการประกาศยกเลิกคำสั่งดังกล่าว


 


 


 


 


 


........................................


เรียบเรียงจาก โพสต์ทูเดย์ ไทยโพสต์ ผู้จัดการ และคมชัดลึก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net