เมื่อวันที่ 23 ม.ค.51 คณะกรรมการนโยบายชั่วคราว องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ทีพีบีเอส) ได้แก่ นาย
นายธนา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 มกราคม กรมประชาสัมพันธ์ออกประกาศ เรื่อง การจ้างเหมาหน้าที่เพื่อปฏิบัติงานสถานีวิทยุโทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟ ตามประกาศกรมประชาสัมพันธ์ ลงวันที่ 19 ธันวาคม 2550 เรื่องการจ้างเหมาบริการเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การปฏิบัติงานสถานีวิทยุโทรทัศน์ ระบบยูเอชเอฟ (ทีไอทีวี) ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อยและพร้อมที่จะเปลี่ยนผ่านไปเป็นองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยต่อไป โดยกรมประชาสัมพันธ์จะพิจารณาต่อสัญญาจ้างเหมาบริการเจ้าหน้าที่ เพื่อปฏิบัติงานตามความเหมาะสมนั้น ซึ่งเรื่องนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน (ทีไอทีวี) แจ้งความประสงค์ขอต่อสัญญาจ้างเหมาบริการ ภายในกำหนดระยะเวลา ซึ่งยอมรับเงื่อนไขว่า หากสถานีมีการเปลี่ยนแปลงเป็นรูปแบบอื่น โดยมีการปรับปรุง แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อกำหนด หรือยกเลิกการจ้างก็ยินดีจะปฏิบัติตามทุกประการ
ทั้งนี้ เงื่อนไขการจ้างเหมาบริการดังกล่าวได้กำหนดไว้ในข้อ 12 ว่า การสั่งจ้างตามหนังสือนี้มีระยะเวลา 3 เดือน หรือสิ้นสุดลงเมื่อสถานีเปลี่ยนสภาพเป็นองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยตาม พ.ร.บ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ.2551 มีผลใช้บังคับในระหว่างการจัดทำสัญญา ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานบางส่วน ซึ่งแจ้งความประสงค์ขอต่อสัญญาจ้างเหมาไว้แล้ว ปฏิเสธเงื่อนไขการจ้างเหมาข้อ 12 ดังกล่าว กรมประชาสัมพันธ์ ขอประกาศว่า พ.ร.บ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ.2551 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2551 เป็นต้นไป ดังนั้นสัญญาจ้างเหมาที่ได้ลงนามเรียบร้อยแล้วจึงสิ้นสุดลงในวันที่ 14 มกราคม 2551
ส่วนสัญญาที่ยังมิได้ลงนามหรือลงนามไม่ครบถ้วนถือว่าสัญญาจ้างเหมาบริการดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่แจ้งความประสงค์และได้มาปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 1-14 มกราคม 2551 กรมประชาสัมพันธ์ จะจ่ายค่าตอบแทนตามระยะเวลาที่ได้ปฏิบัติงานตามความเป็นจริง
นายธนา กล่าวต่อว่า มีพนักงานทีไอทีวีแจ้งความประสงค์ขอต่อสัญญาใหม่ ก่อนที่สัญญาจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2550 จำนวน 835 คน โดยมีพนักงานไม่ต่อสัญญาประมาณ 10 คน ซึ่งกรมส่งหนังสือเซ็นสัญญาตามไปภายหลัง แม้จะยังไม่ได้รับหนังสือเซ็นสัญญากลับมา และกฎหมายสื่อสาธารณะประกาศใช้ในวันที่ 14 มกราคม 2551 แต่กรมยึดตามหนังสือที่แจ้งความประสงค์ต่อสัญญาตามประกาศกรม วันที่ 19 ธันวาคม 2550 ซึ่งกรมจะจ่ายค่าชดเชยรายได้ตั้งแต่วันที่ 1-14 มกราคม 2551 จำนวน 14 วัน คิดตามอัตราการจ้างเดิมให้พนักงานทีไอทีวีทั้งหมด 835 คน โดยใช้เงินจากทีไอทีวีเดิมที่ได้โอนให้ทีพีบีเอสเป็นทุนประเดิม
ด้านนายณรงค์ กล่าวว่า ตามประกาศกรม วันที่ 19 ธันวาคม 2550 ดังกล่าว ถือว่าทีพีบีเอสไม่ต้องรับโอนพนักงานทีไอทีวี จำนวน 835 คน เข้าสู่ทีพีบีเอส เพราะสัญญากรมกับพนักงานทีไอทีวีได้สิ้นสุดลงในวันที่กฎหมายสื่อสาธารณะประกาศใช้ อย่างไรก็ตาม หลังการเปิดรับสมัครพนักงานไปเมื่อวันที่ 16-19 มกราคม 2551 และมีผู้สนใจมาสมัครงาน 3,322 คน การคัดเลือกพนักงานทีพีบีเอส จะแบ่งออกเป็น 2 เฟส คือ เฟสแรก จะมีสัญญาจ้างชั่วคราว 3 เดือน ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์-30 เมษายน 2551 เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจเร่งด่วน การกำหนดวันออกอากาศทีพีบีเอส วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 ส่วนเฟส 2 จะเข้าเป็นพนักงานประจำตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2551 เป็นต้นไป โดยจะมีการประเมินการทำงานเมื่อครบ 6 เดือน
"กลุ่มพนักงานเฟสแรก สัญญาจ้าง 3 เดือน จะคัดเลือกจากผู้มีประสบการณ์ด้านการทำงานทีวี โดยในจำนวนนี้ สำหรับกลุ่มพนักงานทีไอทีวีที่อยู่ในเฟสแรก และได้สมัครงานไว้ด้วย จะเข้าสู่กระบวนการสรรหาบุคลากรโดยบริษัทภายนอกควบคู่ไปด้วย ซึ่งอาจจะได้รับเลือกเข้าทำงานในเฟส 2 ทันที เมื่อสัญญาเฟสแรกจบลง" นายณรงค์ กล่าว
ด้านนายเทพชัย กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการกำหนดโครงสร้างทีพีบีเอสไว้ 6 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายวิศวกร ฝ่ายรายการ ฝ่ายผลิต ฝ่ายบุคลากร ฝ่ายการเงิน และฝ่ายข่าว โดยจะว่าจ้างให้ผู้บริหารเดิมในทีไอทีวีระดับผู้อำนวยการฝ่ายทั้ง 5 ฝ่าย เป็นพนักงานชั่วคราว 3 เดือนด้วย ยกเว้นฝ่ายข่าว เนื่องจากนาย
"ทีพีบีเอสมีภารกิจต้องออกอากาศผังรายการและข่าววันละ 6 ชั่วโมงในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ จึงจำเป็นต้องใช้บุคลากรที่มีประสบการณ์ แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นสัดส่วนจากทีไอทีวีเท่าไร แต่บอกว่าเป็นบุคคลที่มีภาษีดีกว่าที่อื่นๆ แต่การคัดเลือกจะดูทัศนคติ เรื่องการทำสื่อสาธารณะประกอบด้วย" นายเทพชัย กล่าว
นายเทพชัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีผู้ผลิตรายการติดต่อเสนอรายการมายังคณะกรรมการแล้ว โดยเร็วๆ นี้จะตั้งคณะกรรมการผังรายการขึ้นมากำหนดรูปแบบรายการ เพื่อเปิดรับพิจารณาผู้ผลิตรายการ โดยผังรายการเดือนเมษายนที่จะมีพนักงานเฟส 2 เข้ามาทำงาน จะเป็นผังรายการทีวีสาธารณะที่มีความหลากหลาย อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการจะพิจารณารายการเดิมของทีไอทีวีที่มีสาระเข้ากับทีวีสาธารณะ ซึ่งกรมประชาสัมพันธ์ได้ว่าจ้างผลิตและจ่ายค่าจ้างเรียบร้อยแล้ว แต่ยังออกอากาศไม่จบ มาออกอากาศในทีพีบีเอสด้วย
นางนวลน้อย กล่าวว่า เงินทุนประเดิมจำนวน 340 ล้านบาท จากรายได้ทีไอทีวีเดิม ที่โอนมาตามกฎหมายสื่อสาธารณะ จะนำมาใช้ดำเนินงานในช่วงนี้ ส่วนเงินภาษีสุรา ยาสูบ ที่ต้องเข้าทีพีบีเอส ในอัตรา 1.5% คาดว่าจะเข้ามาใช้ช่วงสิ้นเดือน
ส่วนบรรยากาศที่สถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 23 มกราคม อดีตผู้บริหารทีไอทีวีเรียกประชุมพนักงาน และแจ้งเรื่องการได้รับเงินชดเชยจากกรมประชาสัมพันธ์ ระหว่างวันที่ 1-14 มกราคม 2551 ที่มาทำงาน และแนวทางการคัดเลือกพนักงานทีพีบีเอสออกเป็น 2 เฟส หลังจากนั้น นายอัฌชา อดีตผู้อำนวยการฝ่ายข่าว กล่าวอำลาพนักงานทีไอทีวี เพราะจะไม่เข้ามาทำงานที่ตึกทีไอทีวีเดิมอีก หลังจากนี้จะตั้งชมรมเพื่อนไอทีวี เพื่อเป็นศูนย์กลางช่วยเหลืออดีตพนักงานทีไอทีวี ที่ไม่ได้รับการจ้างงาน
------------------------------
ที่มา: http://www.komchadluek.net
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)