Skip to main content
sharethis

จากคอลัมน์ดื่มชา โดย "หลานน้องหมู"  นิตยสารเพื่อนไร้พรมแดน  ฉบับเหนือโค้งรุ้ง


 


เอาเข้าจริงแล้ว ความมุ่งหวังของคน ๆหนึ่งก็อาจเป็นเพียงเรื่องเล็กๆธรรมดาๆ แต่อาจจะไม่ใช่เรื่องเล็กและธรรมดาที่คนเราจะมีความมุ่งหวังที่แท้ โดยก้าวไปให้ถึงฝั่งฝัน


ฝันของแรงงามข้ามชาติหลายคนไม่มีขอบแดนและข้ามไปไกลถึงแผ่นดินบ้านเกิด  บางคนก็ฝันไปกว้างถึงขอบโลก แต่อีกไม่น้อยก็หวังเพียงว่า "วันนี้ขอให้ไม่โดนตำรวจจับ" " สักวันจะมีคนรักผมจริงจังเสียที" บทสนทนาเหล่านี้เป็นการสัมภาษณ์บุคคลที่มีตัวตนจริง พวกเขาเป็นตัวละครเอกบนเวทีของเขา ... เหมือนกับคุณทุก ๆคน



ตัวละคร
   ลาทวย
           หนุ่มพม่าวัย 36 ปี ลูกจ้างร้านซ่อมมอเตอร์ไซด์ย่านลาดพร้าว อยู่เมืองไทยมาเกือบ 20 ปี
   โย                 สาวน้อยชาวกะเหรี่ยงวัย 18 ลูกจ้างร้านตัดผมแถวบางบัวทอง อยู่เมืองไทยมากว่า 4 ปี
   เจ                  พ่อครัวชาวกะเหรี่ยงวัยใกล้สามสิบ อยู่ร้านอาหารย่านอนุสาวรีย์ชัย อยู่เมืองไทยมา 13 ปี
   ปู                   สาวมอญวัย 21 ปี พี่เลี้ยงเด็ก 7 ขวบ เพิ่งมาเมืองไทยได้ปีกว่า
   ซูมิ                หนุ่มปะโอวัย 26 ปี กรรมกรก่อสร้างแถวๆวัดเสมียนนารี อยู่เมืองไทยมา 5 ปีกว่าๆ
   อ่องเมียะ        หนุ่มพม่าอายุ 24 ปี พนักงานเชียร์เบียร์ที่สวนลุมไนท์พลาซ่า เพิ่งมาเมืองไทยได้ 2 ปีกว่า
   เมย์                สาวปะโอวัยยี่สิบ ลูกจ้างร้านขายเสื้อผ้าที่ตลาดโบ๊เบ๊ อยู่เมืองไทยมาเกือบ 3 ปี
   หนุ่ย              แม่บ้านสาวชาวกะเหรี่ยงวัยยี่สิบ ทำงานแถวสาทรมาได้กว่า 3 ปีแล้ว


 


"พวกเรามี ความฝัน ความหวังอะไรกันบ้างนะ?"
ลาทวย
: อยากมีครอบครัว มีคนรัก มีลูกครับ ฝันอื่นผมเป็นจริงละ เหลืออย่างเดียว (ยิ้มแป้น) แต่ผมอยากให้พม่ามีประชาธิปไตยด้วยครับ ประชาชนจะได้มีสิทธิซักที


โย : ตอนเด็กๆหนูก็อยากมีครอบครัวที่อบอุ่น อยากมีพ่อแม่ที่ไม่ทะเลาะกัน พอโตขึ้นเข้ามาทำงานในเมืองไทย ก็รู้แต่ว่าอยากได้เงินส่งให้พ่อแม่เหมือน ๆคนอื่นเค้า คิดแค่นั้นจริง ๆค่ะ แต่ตอนนี้หนูรู้แล้วหละ อย่าหัวเราะหนูนะ (เจ้าตัวชิงหัวเราะก่อน) หนูอยากเป็นนักธุรกิจ ธุรกิจเล็ก ๆไม่ต้องใหญ่โต พอมีพอใช้ พอช่วยคนอื่นได้ หนูอยากให้ประเทศพม่ามีประชาธิปไตยเร็วๆค่ะ อยากเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงสังคมด้วยมือของหนูเอง หวังว่าซักวันหนูจะได้เห็นบ้านดี ๆค่ะ


เจ : ไม่รู้จะฝันอะไรดี ตอนนี้อกหัก สับสนครับ (หัวเราะแหะ ๆ) วันๆเอาแต่ทำงาน สิ้นเดือนก็รับเงิน อายุยังน้อยก็อยากมีแฟนน่ะครับ แล้วผมก็อยากไปปลูกบ้านให้พี่สาวที่เมืองพะอันด้วย


ปู : อยากให้ที่บ้านเจริญเหมือนย่างกุ้ง ที่ย่างกุ้งหากินง่ายค้าขายดีไม่ลำบาก ตอนนี้คนหมู่บ้านหนูมาทำงานเมืองไทยกันหมดแล้ว หนูคิดถึงพม่านะ ตอนเกิดเรื่องประท้วงหนูร้องไห้ทุกวัน สงสารพระที่ถูกตี หัวแตก บาดเจ็บ หนูอยากเก็บตังค์ได้เยอะ ๆค่ะ จะกลับไปเปิดร้านเฟอร์นิเจอร์ที่เมาะลำไย


ซูมิ : อยากมีเมียครับ อยากรวย (หัวเราะ) อยากไปต่างประเทศ จะได้ไม่โดนตำรวจจับ อยู่เมืองไทยไม่มีสิทธิ อยู่เมืองพม่าก็ไม่มีสิทธิ ผมอยากให้พม่าได้ประชาธิปไตยเร็ว ๆ คนจนคนรวยจะได้มีสิทธิเท่ากัน ถ้าอยู่เมืองไทยตำรวจไม่จับ ผมก็ไม่ไปต่างประเทศหรอกครับ ผมไม่ได้อยากได้สัญชาติไทย ไม่ได้อยากได้เท่าคนไทย แค่อยากเป็นคนถูกต้องเหมือนคนอื่นๆเท่านั้นเอง


อ่องเมียะ : ฝันเพื่อตัวเองไม่มีครับ ไม่สำคัญ ประเทศสำคัญกว่า ! ผมอยากให้พม่าได้ประชาธิปไตย แบบนี้คนไม่มีโอกาส ไม่มีอนาคต ตอนนี้ที่พม่ามีแต่คนจนครับ เราทำอะไรไม่ได้ ต่อต้านก็ติดคุกอย่างเดียว


เมย์ : ตอนเด็กๆหนูอยากเป็นหมอนะ แต่เรียนแค่ม.ปลาย ที่บ้านไม่มีเงินแล้ว เห็นเพื่อนมาเมืองไทยเลยตามมา หนูอยากให้พม่าเจริญเหมือนที่นี่ เจริญ..ก็หมายถึงมีอิสระน่ะค่ะ คนพูดคุยกันได้ไม่ต้องกลัวอะไรแบบเนี้ย ตอนนี้หนูอยากอ่านหนังสือไทยออก ไปไหนมาไหนจะได้รู้ หนูพูดได้ แต่อ่านไม่ออก


หนุ่ย : อยากให้.. คนในโลกนี้พูดภาษาเดียวกัน กินอาหารก็แบบเดียวกัน ไม่มีคนจนคนรวย อยู่แบบเท่า ๆกันหมด มีอะไรช่วยเหลือกัน รักกัน ห่วงใยกัน ไม่เห็นแก่ตัว เจอกันยิ้มให้กัน มีความสุข ไม่เจ็บไข้ ไม่มีความกลัว ตายก็ไม่ต้องทุกข์ทรมาน ล้มตายแล้วไปอย่างสบายเลย แบบนี้โลกทั้งโลกมีแต่กลิ่นดอกไม้หอม มีต้นไม้เขียว นี่คือโลกที่อยากได้มากที่สุดค่ะ เพราะในความจริงมันไม่มี


แล้วตอนนี้พวกเราทำอะไรเพื่อให้ความฝัน ความหวังเหล่านั้นเป็นจริงบ้าง?
ลาทวย : ผมก็ ก็เวลาใครมาปรึกษาอะไร ถามอะไร ก็บอกก็ช่วย ใครหางานไม่ได้ ก็ช่วยหา ใครพูดไทยไม่ได้ ก็เป็นล่ามให้ พาไปจดทะเบียน ไปหาคนมาช่วยเวลาเพื่อน ๆมีปัญหา


โย : หนูเก็บเงินให้ครอบครัวได้แล้ว ส่วนแต่ความฝันเพื่อคนอื่น ทุกวันนี้ถ้ามีโอกาสทำอะไรที่เป็นประโยชน์ก็จะลงมือเลยทำค่ะ เพราะถ้ามัวแต่รอให้คนอื่นทำ คนที่แย่อยู่แล้วก็จะแย่ลงไปเรื่อย ๆ


เจ : ทุกวันนี้ผมเก็บเงินครับ แล้วก็เลิกคิดถึงน้องน้ำ (แฟนเก่า) กลับตัวกลับใจใหม่ครับ (หัวเราะ)


ปู : ตอนนี้เหรอ ได้เงินมาก็ไปซื้อทองเก็บไว้เป็นทุนเปิดร้านค่ะ เก็บสตางค์กลัวหาย ได้ 4 บาทแล้วนะ


ซูมิ : ผมช่วยเค้ารณรงค์เรื่องสิทธิครับ วันนี้เราไม่มี วันหน้าลูกหลานจะได้มีอนาคต ช่วยกันคนละไม้ละมือ ผมไปประท้วงหน้า UN ให้เขาเข้าไปในพม่า คนจะได้มีงานทำ เราต้องสามัคคีกัน สู้ไม่ถอยหลังครับ


อ่องเมียะ : ใครให้ผมช่วยอะไร ผมทำหมด เมื่อตอนประท้วงผมเอาแหวนไปจำนำได้มาห้าพันแล้ว ไปซื้อผ้ามาสกรีนไว้โพกหัว ไปซื้อเสื้อสีแดงแจกเพื่อน ๆที่ประท้วง ใจผมมันชอบอย่างงี้มาตั้งแต่เด็กแล้วละ


เมย์ : ก็ขยันทำมาหากิน ไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนไทยค่ะ ขยันเรียนภาษาไทย ทำการบ้านที่ครูสั่งค่ะ


หนุ่ย : หนุ่ยคุยกับเพื่อน ๆถึงความฝันของหนุ่ยค่ะ ให้เพื่อนได้รู้ แล้วหนุ่ยก็ช่วยเพื่อนๆ เราอยู่แบบรักกัน ไม่โกรธกัน ยิ้มให้กันทุกวัน แบบที่เราฝันน่ะค่ะ


แรงงานข้ามชาติจากพม่าในเมืองไทย อาจถูกมองเป็นคนเล็ก ๆธรรมดา ๆ แต่พวกเขาเป็นคนที่ยิ่งใหญ่และไม่ธรรมดาเสมอ หากได้พยายามก้าวเดินไปสู่ฝั่งฝัน ตัวละครเหล่านี้ยังโลดแล่นตามบทบาทที่ตนกำหนดอยู่ต่อไปในสังคมโลก ม่านของละครบทนี้ไม่มีวันปิด


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net