ข่าวมอนิเตอร์ประจำวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2551

"สมชาย" ฟันธงนโยบายเร่งด่วน ต้องเห็นผลไม่เกิน 6 เดือน

เว็บไซต์แนวหน้า : นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกฯ และรมว.ศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่างนโยบายรัฐบาล โดยมีรัฐมนตรีหลายคนเข้าร่วมประชุมอาทิ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกฯ และรมว.อุตสาหกรรม นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รมว.ทรัพยากรฯ นายนพดล ปัทมะ รมว.การต่างประเทศ นายอุไรวรรณ เทียนทอง รมว.แรงงาน นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรฯ พ.ต.ท.บรรณยิน ตั้งภากรณ์ รมช.พาณิชย์ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง โดยมีข้าราชการระดับสูงในส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมด้วย โดยนายสมชาย ให้สัมภาษณ์ภายหลังแล้วเสร็จการประชุมในเย็นวันเดียวกันว่า ในการประชุมให้ทุกคนมาแสดงความเห็นเพิ่มเติม เพื่อให้ทุกฝ่ายร่วมกันเห็นชอบทั้งหมด และในวันที่ 10 กุมภาพันธ์สภาพัฒน์ฯ จะประสานกับเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อจัดทำร่างทั้งหมด จากนั้นก็จะแจก ครม.ในวันจันทร์ และนำเข้าการประชุม ครม.ในวันอังคาร หลังจากนั้นก็จะประสานกับสภาเพื่อบรรจุในวาระ ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็นวันไหน แต่ในส่วนของรัฐบาลนั้นพร้อมในวันที่ 18 ก.พ.

 

นายสมชาย กล่าวว่า นโยบายเร่งด่วนมี 8-9 ข้อ เช่น เรื่องเช่นเรื่องปากท้อง การศึกษา เรื่องที่อยู่อาศัย คมนาคม ซึ่งนโยบายเร่งด่วนนี้ต้องเห็นผลไม่เกิน 6 เดือน

 

ด้าน นายนพดล ปัทมะ รมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า ร่างนโยบายทุกอย่างเรียบร้อยดี ทั้งนี้ทางสภาพัฒน์จะส่งให้ทางสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปจัดพิมพ์ และจะมีการประสานกับกระทรวงการต่างประเทศเพื่อแปลเป็นเป็นภาษาอังกฤษต่อไปให้พร้อมภายในวันที่ 18 ก.พ. เนื่องจาการแปลเป็นภาษาอังกฤษเราต้องการที่จะให้สื่อต่างประเทศได้เข้าใจแนวนโยบายที่รัฐบาลแถลง แล้วนโยบายของเราสื่อมวลชนก็จะนำเสนอไปทั่วโลก ทำให้นักลงทุนและมหามิตรต่างๆ ที่คบค้ากับไทยรู้ว่านโยบายใหม่เป็นอย่างไร

 

"รวมทั้งวันนี้ได้เห็นความสำคัญของเสรีภาพของสื่อมวลชน เราจึงเขียนเจาะจงในนโยบาย เพราะเราเห็นถึงเสรีภาพของสื่อมวลชนที่จะเสนอข่าวอย่างเป็นธรรม รวดเร็วและเที่ยงตรง" นายนพดล กล่าว

 

"พาณิชย์" แปลงร่างโบ้ยไม่รู้เรื่องทำ CL

เว็บไซต์แนวหน้า : นางพวงรัตน์ อัศวพิศิษฐ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้ความเห็นถึงกรณี นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข ประกาศจะทบทวนมาตรการใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร (ซีแอล) ในยามะเร็ง 4 รายการที่ นพ.มงคล ณ สงขลา อดีต รมว.สาธารณสุข ลงนามคำสั่งให้ดำเนินการไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดย นายไชยา ได้อ้างถึงหนังสือเตือนจาก นายเกริกไกร จีระแพทย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ที่แสดงความเป็นห่วงการดำเนินการเรื่องดังกล่าว โดยเฉพาะมาตรการตอบโต้จากสหรัฐที่ขู่จะจัดสถานะประเทศไทยจากประเทศที่ถูกจับตามองพิเศษ (PWL) ให้เป็นประเทศที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาขั้นรุนแรง (PFC) โดยนางพวงรัตน์ เห็นว่า จะเป็นเรื่องที่ดีมาก หากมีการนำเรื่องนี้มาทบทวนใหม่ เพราะเป็นประโยชน์กับประเทศไทย

 

"การประกาศซีแอลในยารักษาโรคมะเร็ง 4 รายการ ได้แก่ ยามะเร็งเต้านม มะเร็งปอด มะเร็งทางเดินอาหาร และมะเร็งเม็ดเลือดขาวของทางกระทรวงสาธารณาสุขนั้น ทางกรมทรัพย์สินทางปัญญา ไม่ขอรับรู้ เนื่องจากไม่มีการแจ้งให้ทราบก่อนที่จะประกาศใช้"

 

ส่วนความคืบหน้ากรณีที่สมาคมผู้ผลิตยาสหรัฐ จะเสนอรายงานต่อสำนักงานผู้แทนทางการค้าของสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) ให้ขึ้นบัญชีการจัดสถานะประเทศไทยไปอยู่ในกลุ่มประเทศที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญามากที่สุดนั้น ขณะนี้ยังไม่เห็นรายงานดังกล่าวอย่างเป็นทางการ แต่ก็ได้ทำเรื่องขอหนังสือต่อสมาคมยาไปแล้ว เพื่อดูว่าให้เหตุผลอย่างไร

 

ทางด้าน นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ อดีตประธานชมรมแพทย์ชนบท ได้ออกมาคัดค้านการดำเนินการทบทวนเรื่องดังกล่าวว่า รู้สึกแปลกใจที่มีเรื่องดีๆ อีกหลายเรื่องที่ควรทำ แต่ทำไม่ รมว.สาธารณสุข ไม่ยอมทำ กลับไปเลือกทำเรื่องการทบทวนการประกาศใช้ซีแอล ทั้งนี้จากข่าวที่ออกมา นายไชยา เองก็ยอมรับว่า ไม่รู้ข้อมูลว่า มีคนเป็นมะเร็งกี่คน ต้องขอดูข้อมูลก่อน แต่กลับรู้ว่า บริษัทยาต้องสูญเงินไปหลายหมื่นล้านบาท แถมยังบอกอีกว่า การดำเนินการเรื่องซีแอลของไทยไม่ถูกต้องตามเงื่อนไขขององค์กรการค้าระหว่างประเทศ (WTO) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า น่าจะได้รับข้อมูลเพียงด้านเดียวมาจากบริษัทยา จากนั้นก็ประกาศจะทบทวนเสียแล้ว โดยยังไม่ทันดูข้อมูลทางด้านการแพทย์และความทุกข์ยากของผู้ป่วยเลย ทั้งที่การเป็น รมว.สาธารณสุข มีหน้าที่จะต้องทำเพื่อให้คนไทยทุกคนที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินไทยมากกว่า โดยไม่ต้องมานั่งห่วงบริษัทยาว่า จะกำไรหรือขาดทุน

 

 

"สพรั่ง" เตรียมลาออกจาก ประธานบอร์ด ทอท.และ ทีโอที สัปดาห์หน้า

เว็บไซต์แนวหน้า : พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้า จะลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) และประธานกรรมการ บมจ. ทีโอที อย่างเป็นทางการ และจะไม่กลับมารับตำแหน่งอีก

 

 

"สมัคร" ยืนยัน "แม้ว" ไม่ได้โกง ยอมรับเป็นกุนซือทีมเศรษฐกิจ

เว็บไซต์คมชัดลึก : นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์รายการ "ทอล์ค เอเชีย" ที่มีนายแดน ริเวอร์ส ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ดำเนินรายการ โดยซักถามข้อสงสัยเรื่องพรรคพลังประชาชนถูกมองว่าเป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทย และบทบาทของอดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะมีต่อรัฐบาลชุดปัจจุบันว่า ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้ตั้งคำถามเขาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่ และรับตัวเขาเข้าร่วมพรรค ซึ่งนายสมัคร ตอบว่าเป็นไปได้ โดยตัวเขาเองซึ่งก่อนหน้านี้ดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิก ก็ตกอยู่ในฐานะผู้เสียโอกาสเช่นกัน หลังจากหลุดจากตำแหน่งดังกล่าวในช่วงที่เกิดรัฐประหาร

 

ทั้งนี้ นายสมัคร ยอมรับว่าบทบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่อการทำงานของเขา คือเป็นอดีตหัวหน้าพรรคคนเก่า ดังนั้น อดีตนายกรัฐมนตรีจึงมีสิทธิเสนอความคิดสนับสนุนในเรื่องต่างๆ ได้ เนื่องจากมีประสบการณ์การบริหารประเทศอย่างประสบความสำเร็จมานานถึง 5 ปี พร้อมระบุว่าตนจะไม่เป็นผู้รับคำปรึกษาจากอดีตนายกรัฐมนตรีโดยตรง แต่การที่คณะรัฐบาลโดยเฉพาะคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ จะขอคำปรึกษาจากอดีตนายกรัฐมนตรีเป็นเรื่องที่ทำได้และไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร

 

นอกจากนี้ นายสมัครยังยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ตนไม่ใช่หุ่นเชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ซึ่งมีหน้าที่บริหารประเทศและมีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง

 

ต่อข้อซักถามที่ว่าอดีตนายกรัฐมนตรีมีความผิดหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า สำหรับเขาแล้วผู้ที่กระทำผิดจะต้องมีหลักฐานพิสูจน์ได้ ทั้งนี้ ไม่ได้ตอบคำถามนี้ทั้งในฐานะของเพื่อนหรือคนสนิท เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติการณ์ทุจริตหรือไม่ นายสมัคร ย้อนถามว่า อดีตนายกรัฐมนตรีจะทำเช่นนั้นไปเพื่ออะไร และคำถามที่ว่าทุจริตหรือไม่นั้น กลายเป็นเรื่องโบราณไปแล้ว

 

"เมื่ออดีตนายกรัฐมนตรีตัดสินใจเปลี่ยนกฎเกณฑ์สัดส่วนการถือครองหุ้นของต่างชาติเพิ่มขึ้น ก่อนขายหุ้นในราคา 7.3 หมื่นล้านบาท ดังนั้น ไม่ต้องจ่ายภาษีเพราะกฎหมายกำหนดไว้เช่นนั้น จึงไม่คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติกรรมทุจริต เมื่อว่ากันตามกฎหมาย แต่ถือเป็นความเฉลียวฉลาดในการทำการค้าเมื่อมีโอกาสของ พ.ต.ท.ทักษิณมากกว่า" นายกรัฐมนตรี กล่าว

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกถามถึงบทลงโทษหัวหน้าคณะผู้ก่อรัฐประหาร หากประเทศได้รับความเสียหายจากเหตุรัฐประหารนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะไม่มีการลงโทษ เนื่องจากการแก้แค้นเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น เพราะเขาเชื่อว่า บรรดาผู้นำรัฐประหารจะอับอายไปเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่มากพอแล้ว

 


ซีเอ็นเอ็นเปิดแผล 6 ตุลา สมัคร 
มติชน : นายสมัครให้สัมภาษณ์ทางรายการทอล์ค เอเชีย ที่มีแดน ริเวอร์ส ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็น โดยมีคำถามหนึ่งถามถึงบทบาทรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยในอดีต เมื่อครั้งเกิดเหตุนองเลือดในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(วันที่ 6 ตุลาคม)ในปี 2519 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตถึง 46 คน นายสมัครระบุว่า "ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องนี้ สำหรับผม ไม่เห็นมีใครตาย เว้นแต่คนโชคร้ายคนหนึ่งที่ถูกเผาแล้วเผาอีกที่สนามหลวง ผมไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นเลย ผมไม่ได้ทำอะไรที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนั้นแม้แต่น้อย"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเว็บไซต์ 6 ตุลาคม 2519(www.2519.net) ซึ่งเป็นบันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ปรากฏว่า ภาพคนถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมหลายศพบริเวณท้องสนามหลวงและหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และ 

 


ปชป.หวั่นยุบพรรคลดกก.บห.
คมชัดลึก : ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า หลังจากการประชุม ส.ส.และกรรมการบริหารพรรค ที่พัทยา จ.ชลบุรี มีมติปรับโครงสร้างพรรคให้เล้วเสร็จภายใน 2 เดือน เพื่อให้การบริหารจัดการภายในพรรครวดเร็วทันต่อสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไป โดยมอบหมายให้ นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรค เป็นประธานยกร่างข้อบังคับพรรคและองค์กรบริหารจัดการพรรค ซึ่งขณะนี้ได้ยกร่างเสร็จแล้ว โดยมีสาระสำคัญคือ จะลดขนาดคณะกรรมการบริหารพรรคลงจากเดิมที่มี 49 คน เหลือ 15-19 คนเท่านั้น เพื่อพรรคจะได้ควบคุมดูแลกรรมการบริหารพรรคได้ง่ายขึ้น ไม่ให้มีพฤติการณ์ทำผิดกฎหมาย พ.ร.บ.พรรคการเมือง และ พ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. ที่มีโทษรุนแรงถึงขั้นยุบพรรค

ส่วนโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรคใหม่ จะประกอบไปด้วย 1.หัวหน้าพรรค 2.รองหัวหน้าพรรคฝ่ายการเมือง 3.รองหัวหน้าพรรคฝ่ายบริหาร 4.รองหัวหน้าพรรคคุมโซน 8 คน 5.รองเลขาธิการพรรคฝ่ายบริหาร 6.รองเลขาธิการพรรคฝ่ายการเมือง 7.เหรัญญิก 8.นายทะเบียนพรรค 9.โฆษกพรรค

นายถาวร กล่าวว่า การลดขนาดคณะกรรมการบริหารพรรคลงเหลือ 15-19 คน มีคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครการเลือกตั้งทุกระดับ ที่จะนำไปสู่ระบบไพรมารีโหวต เพราะตามข้อบังคับพรรคใหม่ ผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งทุกระดับ จะถูกเสนอโดยสมาชิกพรรคในเขต หรือพื้นที่เลือกตั้งนั้นๆ เพื่อให้กรรมการสาขาพรรคพิจารณา และนำเสนอต่อคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครฯ ก่อนที่จะส่งให้คณะกรรมการบริหารพิจารณา ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างบริหารใหม่จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้ชนะการเลือกตั้งครั้งต่อไป เพราะตัวแทนของพรรคที่สมัคร ส.ส.มาจากการเลือกตั้งของประชาชนในพื้นที่จริง และจะทำให้พรรคเป็นสถาบันการเมืองที่เข้มแข็ง


 

 

โฆษกทีพีบีเอสมั่นใจ รบ.ไม่แก้ ก.ม.ทีวีสาธารณะ

เว็บไซต์คมชัดลึก : นายอภิชาติ ทองอยู่ โฆษกกรรมการนโยบายชั่วคราวองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย กล่าวถึงแนวทางการจัดระเบียบสื่อของรัฐบาล ว่า ไม่เป็นห่วงว่าการจัดระเบียบสื่อของรัฐบาลจะกระทบต่อการดำเนินการของโทรทัศน์สาธารณะเนื่องจากพ.ร.บ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ.2550 ไม่เปิดช่องให้รัฐบาลเข้ามาใช้อำนาจแทรกแซงหรือควบคุมโทรทัศน์ช่องนี้ได้ นอกเสียจากว่ารัฐบาลจะใช้เสียงในรัฐสภาแก้กฎหมาย

 

ส่วนตัวเห็นว่ารัฐบาลคงไม่ทำเพราะโทรทัศน์สาธารณะเป็นความต้องการของสังคม เป็นไปเพื่อความสุขของประชาชน ดังนั้นรัฐบาลคงอยากเห็นประชาชนมีความสุข ส่วนแนวคิดจะทวงไอทีวีคืนนั้นรัฐบาลต้องไปหาทางเอาเองจะเปลี่ยนจากโทรทัศน์สาธารณะนั้นไม่ได้เพราะเราดำเนินการตามพ.ร.บ.ฉบับใหม่ ไม่มีข้อผูกพันกับอดีตไอทีวีใดๆทั้งสิ้น

 

สำหรับความพร้อมในการออกอากาศในวันที่ 15 ก.พ.นี้ นายอภิชาติ กล่าวว่า ขณะนี้รายการรอที่จะออกอากาศแล้วรวมทั้งรายการข่าว ซึ่งในวันที่ 15 ก.พ.นี้ประชาชนจะได้เห็นหน้าตาของโทรทัศน์สาธารณะประมาณ 60-70 เปอร์เซนต์

 

 

ชาวบ้านนับพันบุกจวนผู้ว่าแปดริ้วค้านโรงไฟฟ้า

เว็บไซต์สยามรัฐ : บริเวณศาลาการเปรียญ วัดสนามช้าง พื้นที่ ม.4 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ชาวบ้านกลุ่มคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานจากก๊าซธรรมชาติ ของ บริษัทสยามเอนเนอร์ยี่ (ในกลุ่มเจเพาเวอร์) ที่จะมีโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาด 1,600 เมกะวัตต์ ขึ้นในพื้นที่รอยต่อ ม.4 ต.เสม็ดใต้ และหมู่ 5 ต.เสม็ดเหนือ ได้รวมตัวชุมนุมคัดค้านพร้อมขึ้นป้ายผ้าข้อความต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซที่จะเกิดขึ้นดังกล่าว

 

โดยในการชุมนุมได้มีแกนนำสลับกันพูดไฮปาร์ค ปุกระดมชาวบ้านให้ร่วมมือกันต่อต้าน นอกจากนี้ยังได้มีแกนนำจากกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าแก่งคอย จ.สระบุรี และกลุ่มอนุรักษ์ลุ่มน้ำบางปะกง เดินทางมาร่วมชุมนุม และฟังการปราศรัยด้วย

 

ในการชุมนุมครั้งนี้ได้มีการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อชาวบ้าน เพื่อเตรียมนำไปยื่นคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าต่อนายอานนท์ พรหมนารท ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ในช่วงบ่ายวันนี้ด้วย ซึ่งล่าสุดได้มีชาวบ้านมาร่วมลงชื่อคัดค้านแล้วกว่า 4,000 คน โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้เตรียมพร้อมที่จะเคลื่อนขบวนไปชุมนุมยังบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อขอพบผู้ว่า และยื่นหนังสือคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราต่อไป

 

 

ยาฮูสู้ตาย ไม่ยอมถูกฮุบง่ายๆ

เว็บไซต์ไทยรัฐ : เจอรี่ หยาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของยาฮูอิงค์ ชี้แจงพนักงานยืนยัน ทีมผู้บริหารและบอร์ดกำลังพิจารณาทางเลือกอื่น เพื่อหลีกเลี่ยงข้อเสนอซื้อกิจการ จากไมโครซอฟท์ เผยยาฮูได้รับข้อเสนอที่น่าสนใจเป็นจำนวนมาก จากทั่วทุกสารทิศ ย้ำยังอยากได้ความเป็นอิสระ และยาฮูต้องอยู่เป็นตำนานไปถึง 100 ปี

 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของยาฮูในฐานะผู้ก่อตั้งยาฮู (Yahoo) ส่งอีเมล์เวียน ให้กำลังใจพนักงาน ว่าทีมผู้บริหารและบอร์ดกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาทางเลือกอื่นๆ เพื่อ กอบกู้สถานะทางการเงิน ของบริษัท โดยยังไม่มี การตอบรับข้อเสนอของบริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ป ที่จะเข้าซื้อกิจการ ของยาฮู มูลค่ารวม 44,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่ง หากทำสำเร็จ การเข้าซื้อกิจการยาฮูของไมโครซอฟท์ ก็จะกลายเป็นเทกโอเวอร์ครั้งมโหฬา และมีนัยสำคัญยิ่งครั้งหนึ่ง ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา

 

หยางเขียนในอีเมล์ด้วยว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมายาฮูได้รับแรงใจและความห่วงใย จากพันธมิตรเพื่อนผองจากทั่วทุกมุมโลก และส่วนใหญ่อยากเห็น การตัดสินใจที่ดีที่สุดต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น

ไมโครซอฟท์ทำคำเสนอซื้อหุ้นยาฮูในอัตราหุ้นละ 31 เหรียญสหรัฐฯ โดยระบุว่าข้อเสนอ ดังกล่าวเป็นข้อเสนอที่เป็นมิตร และต้องการควบรวมความแข็งแกร่ง ของไมโครซอฟท์ และยาฮูเข้าด้วยกัน เพื่อจะสามารถแข่งขันกับคู่แข่งอย่างกูเกิล (Google) ได้อย่างเต็มภาคภูมิ

 

ซึ่งก็เป็นไปตามความคาดหมาย กูเกิลออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของไมโครซอฟท์ และบอกว่าเป็นความพยายามที่จะลิดรอนเสรีภาพบนอินเตอร์เน็ตด้วยการผูกขาดทางการค้า

ขณะที่ยาฮูชี้แจงว่า บอร์ดกำลังพิจารณาทางเลือกต่างๆอย่างระมัดระวัง และหนึ่งในทางเลือกนั้นๆ คือการรักษาไว้ซึ่งความอิสระของยาฮู

 

ด้านสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า แหล่งข่าวใกล้ชิดกับยาฮูระบุว่าขณะนี้ยาฮูได้รับข้อเสนอ จากนักลงทุนหลายรายที่สนใจและยื่นข้อเสนอที่แตกต่าง

 

ข้อเสนอที่ว่ารวมถึงการโอนงานด้านโฆษณาออนไลน์ไปให้กูเกิลดูแล เพราะดูเหมือนว่ากูเกิลจะ มีความชำนาญในการหารายได้จากโฆษณามากกว่า

 

อย่างไรก็ตาม หาก ยาฮูปฏิเสธข้อเสนอของไมโครซอฟท์ บอร์ดก็จำเป็นต้องหาทางออกอื่นเพื่อทำให้ผู้ถือหุ้นพึงพอใจ เนื่องจากเหล่าผู้ถือหุ้นกำลังผิดหวังกับการบริหารบริษัทและผลตอบแทนที่ลดน้อยลง

ทั้งนี้ ห้วงเวลาที่ผ่านมา นับเป็นเวลาแห่งความยากลำบากของยาฮู ที่ต้องดิ้นรนท่ามกลางความเจริญรุ่งเรืองของคู่แข่งอย่างกูเกิล ซึ่งทำรายได้เป็นกอบเป็นกำจากโฆษณาออนไลน์ จนที่สุดเมื่อสัปดาห์ก่อน ยาฮูเพิ่งประกาศปลดพนักงานกว่าพันคน หรือคิดเป็น7% ของพนักงานทั้งหมดที่ 14,300 ราย

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท