Skip to main content
sharethis

กกต.ตั้งอนุฯสอบ "คำนูณ" ขาดคุณสมบัติส.ว.


เว็บไซต์สยามรัฐ- เมื่อวันที่ 22 ก.พ.51 นายสุเมธ อุปนิสากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านการมีส่วนร่วม เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกต.มีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีที่มีการร้องคัดค้านนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.แบบสรรหา ภาควิชาการ เนื่องจากถูก น.ส.รุ่งกานต์ อนาศาสตร์ หุ้นส่วนบริษัท กรุงเทพฟิลม์ โพรเสส ร้องคัดค้าน และอ้างว่าถูกนายคำนูณโกง นอกจากนี้ ยังให้สอบสวนตามกรณีที่นายธีรพันธ์ นาทีกาญจนลาภ ผู้ถูกเสนอเข้ารับสรรหา ส.ว. แต่ไม่ได้รับการประกาศรับรอง ได้ร้องว่าคณะกรรมการสรรหา ส.ว.ทำไม่ถูกต้อง เพราะการสรรหา ส.ว.ในภาควิชาชีพไม่เป็นไปตามกฎหมาย เนื่องจากปล่อยให้องค์กรวิชาชีพตามนิยามของกฎหมายเสนอบุคคลเข้ารับการสรรหา โดย กกต.มีมติให้ตั้งนายประสงค์ศักดิ์ บุญเดช เป็นประธานคณะอนุกรรมการฯ


 


 


"ไชยา" ย้ำทบทวนซีแอลยามะเร็งไม่เกี่ยวยาโรคหัวใจ


เว็บไซต์คมชัดลึก - นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีกลุ่มเครือข่ายผู้ป่วยเรื้อรัง ระบุว่า การทบทวนซีแอลยามะเร็งส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยโรคหัวใจที่ทำซีแอลไปแล้ว เนื่องจากบริษัทยาอินเดียได้ระงับไม่ส่งยาหัวใจที่ทำซีแอลไปแล้ว เพราะไม่มั่นใจนโยบายว่า เรื่องนี้จะนำมาเป็นข้ออ้างให้มีผลอะไรหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่ยาเอดส์และยารักษาหัวใจยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยสั่งให้ดำเนินการใดๆ แต่กลับมีความพยายามดึงให้เป็นเรื่องเดียวกัน อย่างไรก็ตามในการพิจารณาทบทวนซีแอลร่วมกัน 3 กระทรวง แต่ละกระทรวงต้องรักษาผลโยชน์ของกระทรวงตนเองเป็นหลัก โดยนำข้อมูลผลกระทบออกมายืนยันกัน


 



"ที่ผ่านมาผมยังไม่มีคำไหนบอกยกเลิกซีแอล เมื่อไม่ยืนยันยกเลิก ก็ให้ผมทบทวนให้รอบครอบก่อน เพราะเวลาใครถามผมมาจะตอบได้ โดยเฉพาะในที่ประชุม ครม. ซึ่งผมได้ให้ธงกับปลัดในเรื่องนี้แล้ว คือ จะต้องทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงยา และยาที่ให้นั้นต้องเป็นยาที่มีคุณภาพ หากผลสรุปดูแล้วจำเป็นต้องคงซีแอลไว้เพื่อช่วยผู้ป่วยก็ทำ และถ้ามีผลกระทบอะไรจากนี้ ก็เป็นเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์ต้องดำเนินการต่อ" รมว.สาธารณสุข กล่าว และว่า สำหรับการประชุมรัฐมนตรี 3 กระทรวง ทั้ง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงสาธารณสุขนั้น อยากให้ใจเย็น ต้องให้เวลาตน 1 เดือนก่อน เพราะตนต้องรอข้อมูลจำนวนผู้ป่วยมะเร็ง และการเข้าถึงยา จากปลัดกระทรวงสาธารณสุขก่อน ซึ่งขอเวลา 2 สัปดาห์



         


นายไชยา กล่าวว่า ยืนยันว่าตนไม่เคยสั่งองค์การเภสัชกรรมให้ระงับการนำเข้ายาที่ทำซีแอล ทั้งยารักษาโรคหัวใจ และยามะเร็ง ซึ่งเป็นหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการตรงนี้ ส่วนที่บริษัทยาไม่วางใจนโยบายจนไม่ส่งยามะเร็งนั้น เป็นหน้าที่องค์การเภสัชกรรมต้องทำหนังสือยืนยันไป ว่าการทบทวนซีแอลไม่มีผลต่อการซีแอลยาโรคหัวใจ



         


นายไชยา กล่าวว่าส่วนกรณีที่ทางกลุ่มเอ็นจีโอด้านสาธารณสุขต่างประเทศได้ยื่นจดหมายถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อยืนยันว่าการทำซีแอลของไทยถูกต้องนั้น เห็นว่าการที่เอ็นจีโอต่างประเทศทำหนังสือมายังไทยก็ถือเป็นเรื่องดี เพราะเป็นหลักประกันว่าเอ็นจีโอระดับโลกเห็นอย่างไร และให้ความสำคัญกับประเทศไทย ทั้งนี้ยอมรับว่าผู้ป่วยเป็นบุคคลที่น่าส่งสาร และกลัวว่าจะถูกทอดทิ้ง ซึ่งหากมีการการันตรีว่าการทำซีแอลไม่ส่งผลกระทบต่อด้านพาณิชย์ ก็พร้อมสรุปทันที เพราะการบริหารจะต้องทำงานและขับเคลื่อนทั้ง 20 กระทรวง อย่างไรก็ตามยืนยันว่าตนไม่ทอดทิ้ง



         


 


สปส.ล้ม"นโยบายแจกดะ"


โพสต์ ทูเดย์- แหล่งข่าวจากคณะกรรมการประกันสังคมเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการประกันสังคมได้สั่งการให้สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ยุติโครงการสวัสดิการต่างๆ ที่เคยให้ผู้ประกันตนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครอง 7 กรณี เช่น โครงการ บ้าน สปส. 1506 โครงการจัดทำบัตรส่วนลดซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้า ซื้อจักรยานยนต์ และโทรศัพท์  เครื่องใช้ไฟฟ้า การสนับสนุนเงินกู้เอสเอ็มอี 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ วงเงิน 400 ล้านบาท เป็นต้น


         


ทั้งนี้ หลังจากที่สำนักงานกฤษฎีกาได้ตีความเกี่ยวกับเงินที่ไปจัดทำโครงการต่างๆ จะต้องทำ เพื่อเป็นสวัสดิการของผู้ประกันตน จึงกลัวผิด และที่ผ่านมาก็มีหลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยในการริเริ่มการดำเนินโครงการต่างๆ ของประกันสังคมว่าจะมีความไม่ชอบมาพากล ดังนั้นบอร์ดได้สั่งให้ประกันสังคม ทำผลการดำเนินงานโครงการต่างๆ และกำชับว่าหากโครงการใดอยู่ระหว่างการดำเนินงาน ก็ให้ทำให้ครบตามสัญญาให้จบก่อน


         


แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ที่ประชุมเห็นว่าประกันสังคมควรเน้นการเพิ่มสิทธิประโยชน์ความคุ้มครอง 7 กรณี ตามกฎหมายประกันสังคม และการให้ผู้ประกันตนได้รับการ บริการจากการพยาบาลที่ดี


 


 


สตาร์บัคส์โละพนง.600 เหตุยอดขายดิ่งต่อเนื่อง


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ -ซีแอตเติล-สตาร์บัคส์ โละพนักงาน 600 ตำแหน่งประจำสำนักงานใหญ่ หลังยอดขายในสหรัฐตกต่ำต่อเนื่องหลายไตรมาส เหตุเศรษฐกิจชะลอตัว ซีอีโอ ยอมรับต้องปรับตัวครั้งใหญ่รับมือความท้าทายในตลาดโลก



         


สตาร์บัคส์ คอร์ป เครือข่ายค้าปลีกกาแฟชื่อดังของสหรัฐ ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และการแข่งขันจากคู่แข่งที่จำหน่ายกาแฟในราคาถูกกว่า จนทำให้ยอดขายตกลงติดต่อกันหลายไตรมาส ประกาศลดพนักงานรวมทั้งสิ้นประมาณ 600 ตำแหน่งที่ประจำอยู่ในสำนักงานใหญ่



         


ทั้งนี้ นายโฮเวิร์ด ชูลทซ์ ประธานและหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) สตาร์บัคส์ ได้ประกาศลดพนักงานผ่านทางอีเมลที่ส่งถึงพนักงานทั้งหมดจำนวนกว่า 170,000 คนของบริษัท โดยระบุว่าเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากที่มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการลูกค้าของเครือข่ายค้าปลีกกาแฟชื่อก้องโลก



         
"เราตระหนักดีว่ากำลังดำเนินธุรกิจในบรรยากาศที่ท้าทายอย่างยิ่ง ลูกค้าและพนักงานของเราต่างคาดหวังกับสตาร์บัคส์สูง เราจึงต้องปรับตัวรับความท้าทายที่เกิดขึ้น" อีเมลของผู้บริหารระดับสูงสตาร์บัคส์ระบุ



         


การปลดพนักงานครั้งนี้ของสตาร์บัคส์ ครอบคลุมพนักงานในส่วนการเงิน และการตลาดจำนวน 220 คน ซึ่งประจำอยู่ที่สำนักงานใหญ่ในซีแอตเติล พร้อมกันนี้ บริษัทได้ยกเลิกการรับพนักงานเพิ่มในตำแหน่งต่างๆ จำนวน 380 คน แต่การปลดพนักงานครั้งนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อพนักงานที่ประจำตามสาขาต่างๆ ของสตาร์บัคส์



         


การตัดสินใจครั้งนี้ของเครือข่ายค้าปลีกกาแฟชื่อดัง มีขึ้นหลังจากบริษัทเผชิญหน้ายอดขายในสหรัฐตกต่ำติดต่อกันหลายไตรมาส เพราะผู้บริโภคลดการใช้จ่าย ประกอบกับต้นทุนผลิตภัณฑ์นมและค่าจ้างแรงงานสูงขึ้น นอกจากนี้ สตาร์บัคส์ ยังเผชิญหน้ากับการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้นจากเครือข่ายร้านค้าปลีกกาแฟที่จำหน่ายสินค้าราคาถูกกว่า ส่งผลให้มูลค่าหุ้นของบริษัทลดลงกว่าครึ่งหนึ่งจากที่เคยทะยานถึงหุ้นละ 40 ดอลลาร์ในช่วงปลายปี 2549



         


ที่ผ่านมา สตาร์บัคส์ ได้ประกาศลดจำนวนเครือข่ายร้านที่วางแผนจะเปิดทั่วสหรัฐในปีนี้หลายร้อยแห่ง พร้อมทั้งปิดร้านที่ไม่ทำกำไรให้เกือบ 100 แห่งในสหรัฐ ขณะเดียวกันก็เน้นขยายสาขาในต่างประเทศมากขึ้น


 


 


จีนออกมาตราการให้ประชาชนฟ้องทางการหากสิงห์อมควันเผาปอดในบ้าน


เว็บไซต์แนวหน้า - เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเทศบาลนครฉงชิ่ง ของจีน ออกมาตรการให้ประชาชนแจ้งต่อทางการหากคนในครอบครัวละเมิดคำสั่งห้ามสูบบุหรี่ในบ้าน โดยผู้ที่ละเมิดคำสั่งห้ามสูบบุหรี่จะถูกนำชื่อไปประจานไว้ในรายชื่อผู้ถูกตักเตือนบนกระดานข่าวของชุมชน ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนำร่องใน 2 เขตของเทศบาลนครฉงชิ่ง เพื่อแก้ปัญหาประชาชนไม่สูบบุหรี่ได้รับผลกระทบจากการสูบบุหรี่



         


นอกจากนี้ ยังมีโครงการห้ามสูบบุหรี่ตามสถานที่ทำงานสาธารณะ เจ้าของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่เข้าร่วมโครงการนำร่องเผยว่า จะลดโบนัสของเจ้าหน้าที่ทั้งแผนก หากพบว่าเจ้าหน้าที่คนใดคนหนึ่งในแผนกสูบบุหรี่ในที่ทำงาน



         


ทั้งนี้ จีนมีผู้สูบบุหรี่กว่า 350 ล้านคน แต่ละวันมีชาวจีนเสียชีวิตเพราะบุหรี่ทั้งทางตรงและทางอ้อมประมาณ 3,000 คน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net