Skip to main content
sharethis

ประมวลภาพ กลุ่มรณรงค์เพื่อสันติภาพ


หน้ากงสุลจีน ประจำจังหวัดเชียงใหม่


21 มีนาคม 2551


 



 


 


วันนี้ (21 มี..51) กลุ่มรณรงค์เพื่อสันติภาพ จำนวนกว่า 40 คน ร่วมกันเดินรณรงค์เคลื่อนไหวจากสวนสาธารณะหนองบวกหาด ไปยังหน้าสถานกงสุลสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำ จ.เชียงใหม่ เพื่อชุมนุมประท้วงกรณีสังหารและจับกุมพระและประชาชนทิเบต พร้อมเรียกร้องจีนปล่อยผู้ถูกจับกุมระหว่างประท้วง และให้สื่อต่างประเทศที่เป็นกลางเข้าไปรายงานเหตุการณ์ที่แท้จริง


 


โดยในแถลงการณ์ ระบุว่า ขอประณามการสังหารและจับกุมของทางการจีนต่อผู้ประท้วงชาวทิเบตในกรุงลาซา และส่วนอื่นๆ ของทิเบต ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2551 เป็นต้นมา ที่การชุมนุมประท้วงอย่างกว้างขวางเป็นผลมาจากระบอบปกครองที่กดขี่หลายทศวรรษของรัฐบาลจีนที่กระทำต่อประชาชนชาวทิเบต การแก้ปัญหาความทุกข์ยากและข้อเรียกร้องเพื่อปกครองตนเองของชาวทิเบตจะต้องดำเนินไปผ่าน


การเจรจาทางการเมือง ไม่ใช่การใช้กำลังและการกดขี่ข่มเหง                                                         


 


ในแถลงการณ์ระบุอีกว่า การปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงในทิเบตเตือนให้ระลึกถึงการปราบปรามกลุ่มพระสงฆ์และประชาชนชาวพม่าเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ซึ่งเราได้เห็นภาพของทหารที่ถูกส่งเข้าไปปราบพระภิกษุซึ่งปราศจากอาวุธ และภาพของศพพระภิกษุชาวพม่า รัฐบาลจีนมีส่วนสนับสนุนการปราบปรามในพม่าเพราะเป็นผู้สนับสนุนด้านการเงิน การทหาร และการทูตต่อรัฐบาลทหารพม่า


 


ทั้งนี้ ในท้ายแถลงการณ์ ยังได้เรียกร้องรัฐบาลจีนให้ยุติการใช้ความรุนแรงต่อผู้ประท้วงชาวทิเบตโดยทันที ให้ปล่อยผู้ที่ถูกจับกุมระหว่างการประท้วง และให้สื่อจากต่างประเทศที่เป็นกลางเข้าไปรายงานเหตุการณ์ที่แท้จริง


 


นายวง อ่อง ผู้ประสานงานสากลจากขบวนการต่อต้านก๊าซฉ่วย (Shwe) หนึ่งในกลุ่มรณรงค์เพื่อสันติภาพ กล่าวว่า การชุมนุมในวันนี้เพื่อแสดงความสมานฉันท์กับชาวทิเบตที่เรียกร้องเสรีภาพจากรัฐบาลจีน เพราะว่า ชะตากรรมของพวกเขาก็เหมือนกับชาวพม่า


 


"ดังนั้น เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลจีนหยุดฆ่าพระสงฆ์ เราเรียกร้องให้รัฐบาลจีนแก้ปัญหาโดยใช้การเมือง ใช้การเจรจาด้วยความนุ่มนวล ไม่ใช่ความรุนแรง เรากังวลอย่างยิ่งที่มีคนในทิเบตเสียชีวิต นอกจากนี้ ขอประท้วงที่รัฐบาลจีนมีส่วนสนับสนุนเผด็จการพม่าให้เข่นฆ่าประชาชนในพม่าที่ผ่านมาด้วย"


 


ในขณะที่ นางแสงเงิน ตัวแทนองค์กรสันนิบาตสตรีแห่งพม่า ก็ออกมากล่าวต่อเรื่องนี้ว่า หลังจากได้ดูข่าวและเห็นภาพการเสียชีวิตของพระและประชาชนชาวทิเบตแล้ว มีความรู้สึกว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มันโหดร้าย รุนแรงเหมือนกรณีการฆ่าพระและประชาชนพม่า เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่พระ ชาวบ้านเขาก็ออกมาประท้วงโดยสันติ แต่ทหาร กองกำลังของจีนก็ออกมาปราบปราม ทั้งๆ ที่ที่ผ่านมา องค์ดาไลลามะก็พยายามมีการเจรจากับจีนมาโดยตลอด แต่ก็คงเป็นการยากที่รัฐบาลจีนจะคืนเอกราชให้กับชาวทิเบต


 


"รับรู้ถึงความรู้สึกของประชาชนชาวทิเบตที่ต้องเจอกับปัญหาหนักอย่างนี้ แต่ว่าในเวลาเดียวกัน รัฐบาลจีนก็คงจะไม่ปล่อยให้จบง่ายๆ เพราะไม่เช่นนั้น พวกเขาก็คงไม่ออกมาเข่นฆ่าพระ ฆ่าคนทิเบตรุนแรงขนาดนี้หรอก"


 


ด้านนายพิภพ อุดมอิทธิพงศ์ หนึ่งในกลุ่มรณรงค์เพื่อสันติภาพ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงในทิเบต ว่า ที่น่าสนใจก็คือ คนทิเบตในเมืองอื่นเขาก็ลุกฮือออกมาต่อต้านจีนในครั้งนี้ด้วย เช่นที่เมืองเฉสวน กังซู เป็นต้น ดังนั้น การประท้วงครั้งนี้มันจึงดูพิเศษที่มีการกระจายไปหลายพื้นที่ ซึ่งจากแต่ก่อนมีการประท้วงเพียงแค่เมืองลาซาเท่านั้นเอง


 


เมื่อถามว่าการประท้วงของทิเบตครั้งนี้มีความเหมือนหรือแตกต่างกับกรณีประชาชนชาวพม่าลุกฮือประท้วงรัฐบาลทหารเผด็จการของพม่าอย่างไร นายพิภพบอกว่า ไม่เหมือนกัน ต่างกันเพราะว่ากรณีประท้วงในพม่านั้นเป็นการประท้วงของกลุ่มคนพม่าประเทศเดียวกัน แต่กรณีที่ทิเบต ถือว่าประเทศจีนเข้าไปรุกรานทิเบต


 


"เพราะทิเบตแต่เดิมนั้นเขามีอาณาจักรของเขาเองมานานนับตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 เป็นต้นมาแล้ว เขามีอารยธรรม มีศาสนาเป็นของตนเอง ซึ่งเป็นศาสนาพุทธสายวัชระยานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และทางเนปาล อินเดีย เพิ่งมารับเอาหลักสอนแนววัชระยานไปทีหลัง และประเทศจีนก็เข้าไปรุกรานยึดครองทิเบต"


 


นายพิภพ ยังได้พูดถึงการปิดกั้นข้อมูลข่าวสารในทิเบตของรัฐบาลจีนด้วยว่า มีการปิดกั้นข้อมูลข่าวสารมาโดยตลอด เพราะทางการจีนเขาถือว่าในทิเบตเป็นเขตต้องห้าม และคนที่จะเข้าไปได้จริงๆ นั้น ก็จะต้องตรวจสอบอย่างเข้มงวดว่าต้องเป็นนักท่องเที่ยวจริงๆ ไม่ใช่เป็นคนที่จะเข้าไปสอดแนม เพราะฉะนั้น จะเห็นว่าการปฏิบัติระหว่างคนจีนกับคนทิเบตนั้นจะแตกต่างกันมาก     


 


"จริงๆ แล้ว การเคลื่อนไหวประท้วงของคนทิเบตนั้นมีมานานแล้ว เขามีมวลชนอยู่ในหลายๆ ประเทศ เช่น อเมริกา ออสเตรเลีย อังกฤษ หรืออย่างในประเทศไทยเรา ก็มีศูนย์ไทยในทิเบต ซึ่งมีการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้มานานแล้ว หรือกรณีที่ ริชาร์ด เกียร์ นักแสดงระดับโลกที่หันมานับถือศาสนาพุทธแบบทิเบต และประกาศอยู่ร่วมกับทิเบต เป็นสปอนเซอร์ สนับสนุนกิจกรรมการเคลื่อนไหวเรื่องทิเบตในอเมริกา ก็ถือว่าเป็นมวลชนด้วยเหมือนกัน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่หันมานับถือศาสนาพุทธแบบทิเบตทั่วโลกมีนับล้านๆ คน ที่ให้ความสำคัญในการเรียกร้องอิสรภาพ เอกราชของทิเบต เพียงแต่ที่ผ่านมา เราไม่ค่อยเห็นเท่านั้นเอง"


 


ทั้งนี้ นายพิภพ ยังได้วิเคราะห์ว่า ที่จีนกล้าใช้ความรุนแรงกับพระและประชาชนในทิเบตครั้งนี้ ก็เพราะว่ารัฐบาลจีน นั้นมีอิทธิพลสูง และที่ผ่านมา จีนก็ประกาศย้ำนโยบาย One China มาโดยตลอดว่า จะต้องเป็นจีนเดี่ยว ดังนั้น ดูตัวอย่างกรณีถ้าประเทศไหนที่มีการรับรองกับไต้หวัน จีนก็จะออกมาประกาศไม่ค้าขายด้วย ก็จะได้รับผลกระทบตรงนี้เยอะ นอกจากนั้น ยังไม่ใช่เฉพาะการกีดกันระหว่างรัฐเท่านั้น ยังมีการกีดกันทางด้านวัฒนธรรม หรือด้านการศึกษาด้วย ยกตัวอย่าง มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งจัดงานออกร้าน โดยให้กลุ่มนักศึกษามาออกงานด้วย ก็ถูกทางการจีนประท้วง ว่าไต้หวันไม่มีในโลก มีแต่จีนแผ่นดินใหญ่ เท่านั้น เพราะฉะนั้น ที่เป็นปัญหาในตอนนี้ ก็คือ ปัญหาเรื่องอคติของจีนที่มีการกีดกันคนกลุ่มอื่นๆ มาก


 


"เพียงแต่ว่าการเคลื่อนไหวประท้วงครั้งนี้ มีการหยิบเอาประเด็นเรื่องโอลิมปิก ที่สามารถหยิบนำมาใช้ได้ แต่ว่าท่านองค์ดะไลลามะ ท่านก็ไม่ได้บอยคอตโอลิมปิก ซึ่งดูแล้วแนวทางของท่านจะเป็นสายกลางมากกว่า ที่ผ่านมา ท่านก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์เยอะ โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา กลุ่มคนรุ่นใหม่จะไม่ค่อยชอบแนวทางของท่าน เพราะคิดว่าเป็นแนวทางที่อ่อนไป แต่จริงๆ แล้ว ที่ผ่านมา ก็มีการเปิดเจรจากับทางการจีน เคยมีตัวแทนขององค์ดาไลลามะ ก็เคยเข้าไปนั่งโต๊ะเจรจากับทางการจีนถึงในเมืองปักกิ่งมาหลายครั้งแล้ว ก็มีความคืบหน้าไปได้ระดับหนึ่ง"


 


 


 


 


 


 






 


แถลงการณ์


กลุ่มรณรงค์เพื่อสันติภาพ


21 มีนาคม 2551


 


            หยุดการสังหารและจับกุมในทิเบต!


            หยุดสนับสนุนเผด็จการพม่า!


            ในนามกลุ่มรณรงค์เพื่อสันติภาพ เราขอประณามการสังหารและจับกุมของทางการจีนต่อผู้ประท้วงชาวทิเบตในกรุงลาสา และส่วนอื่น ๆ ของทิเบต ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2551 เป็นต้นมา


            การชุมนุมประท้วงอย่างกว้างขวางเป็นผลมาจากระบอบปกครองที่กดขี่หลายทศวรรษของรัฐบาลจีนที่กระทำต่อประชาชนชาวทิเบต การแก้ปัญหาความทุกข์ยากและข้อเรียกร้องเพื่อปกครองตนเองของชาวทิเบตจะต้องดำเนินไปผ่านการเจรจาทางการเมือง ไม่ใช่การใช้กำลังและการกดขี่ข่มเหง


            การปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงในทิเบตเตือนให้ระลึกถึงการปราบปรามกลุ่มพระสงฆ์และประชาชนชาวพม่าเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ซึ่งเราได้เห็นภาพของทหารที่ถูกส่งเข้าไปปราบพระภิกษุซึ่งปราศจากอาวุธ และภาพของศพพระภิกษุชาวพม่า รัฐบาลจีนมีส่วนสนับสนุนการปราบปรามในพม่าเพราะเป็นผู้สนับสนุนด้านการเงิน การทหาร และการทูตต่อรัฐบาลทหารพม่า


            เราขอส่งกำลังใจให้กับผู้ประท้วงในทิเบต และผู้ที่ยังต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในพม่า ความทุกข์ยากของพวกเขาเป็นสัญญาณร้ายสำหรับการแข่งขันโอลิมปิกที่กำลังจะเกิดขึ้น


            เราขอเรียกร้องรัฐบาลจีนให้ยุติการใช้ความรุนแรงต่อผู้ประท้วงชาวทิเบตโดยทันที ให้ปล่อยผู้ที่ถูกจับกุมระหว่างการประท้วง และให้สื่อจากต่างประเทศที่เป็นกลางเข้าไปรายงานเหตุการณ์ที่แท้จริง


            เรายังเรียกร้องรัฐบาลจีนให้ยุติการสนับสนุนทุกรูปแบบต่อรัฐบาลทหารพม่า


 


กลุ่มรณรงค์เพื่อสันติภาพ


actiongroupforpeace@gmail.com


 


 


 


 


 


 


 







Press release


By Action Group for Peace


March 21, 2008


 


Stop the killings and arrests in Tibet!


Stop supporting Burma"s dictators!


 


We, the Action Group for Peace, strongly condemn the killings and arrests of Tibetan demonstrators by the Chinese authorities in Lhasa and other parts of Tibet since March 10, 2008.


 


The widespread demonstrations are the result of decades of systematic oppression by the Chinese government of the Tibetan people. The Tibetans" grievances and demands for self-determination must be addressed through political dialogue, not by force and further oppression.


 


The current crackdown in Tibet is chillingly reminiscent of the crackdown on the Saffron Revolution in Burma last September, as once again we are seeing images of armed troops being deployed against unarmed monks, and bloodstained bodies in Buddhist robes. China, by providing financial, military and diplomatic support to the Burmese military regime, was also complicit in the crackdown in Burma.


 


We stand in solidarity with protestors in Tibet and with those continuing to struggle for democracy in Burma. Their plight is casting a dark shadow on the upcoming Olympic Games.


 


We call on the Chinese government to immediately stop their use of violence against the Tibetan demonstrators, to release all those arrested during the protests and allow international and independent media to cover the situation.


 


We also call on the Chinese government to stop all forms of support to the Burmese military regime.


 


 


Contact: Action Group for Peace actiongroupforpeace@gmail.com


 


 


 


 


 


ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net