Skip to main content
sharethis

เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 51 ที่สภาทนายความ นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ ร่วมกับอุปนายกฝ่ายต่างๆ ออกแถลงการณ์ของสภาทนายความ เรื่อง "การทำร้ายร่างกายทนายความในศาลยุติธรรม"


จากกรณีที่นายอนันตชัย ไชยเดช ทนายความซึ่งรับว่าความให้กับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร. ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายหลังเดินทางไปศาลอาญาเพื่อตรวจพยานหลักฐานในคดีที่รับว่าความ เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บถูกฟันที่ศีรษะด้านซ้าย 1 แผล และที่นิ้วก้อยข้างซ้าย 1 แผล โดยที่เกิดเหตุอยู่บริเวณข้างป้อมยามรักษาความปลอดภัย ทางเข้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร


นายเสงี่ยม บุญจันทร์ เลขาธิการสภาทนายความ และรองโฆษกสภาทนายความ เป็นผู้อ่านแถลงการณ์ ซึ่งมีข้อเรียกร้องสามข้อ คือ หนึ่ง ให้ศาลยุติธรรมวางมาตรการรักษาความปลอดภัยในการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนในบริเวณศาล สอง ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการสอบสวนนำตัวผู้กระทำผิดและผู้เกี่ยวข้องมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว เนื่องจากเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย เกิดเหตุในตอนกลางวัน ในสถานที่ของศาลยุติธรรม และมีพยานรู้เห็นเหตุการณ์หลายคน


ข้อสุดท้ายให้รัฐบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงยุติธรรมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ได้ดำเนินการตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 ที่ได้กำหนดไว้อย่างสมบูรณ์


นายอนันตชัย ทนายความซึ่งถูกทำร้ายร่างกาย กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ช่วงเช้าได้ไปที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยรับมอบอำนาจจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผบ.ตร.ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ยื่นหนังสือฟ้องร้อง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาการ ผบ.ตร. ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จากนั้นช่วงบ่าย เดินทางไปที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อนัดฟ้องคดี ป.ประตูน้ำ หรือนายไพจิตร ธรรมโรจน์พินิจ ในข้อหาหมิ่น ประมาทโดยการโฆษณา หลังนัดฟ้องเสร็จแล้ว เตรียมตัวไปพบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เพื่อรายงานผลให้ทราบ แต่กลับถูกทำร้ายระหว่างไขกุญแจรถที่จอดอยู่ในลานจอดรถ


นายอนันตชัยกล่าวถึงสาเหตุที่ถูกทำร้ายครั้งนี้ว่า ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร มาจากเรื่องอะไร แต่ตนระวังตัว และเก็บตัวมาโดยตลอด เนื่องจากทำคดีดังๆ หลายคดี เช่น คดี เสธ.แดง คดี ป.ประตูน้ำ และคดีสุดท้ายคือคดีฟ้องร้อง พล.ต.อ.พัชรวาท ในส่วนตัวไม่เคยมีศัตรูหรือมีปัญหากับใคร แต่หลังจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถูกย้ายไปช่วยราชการ มีคนโทรศัพท์มาข่มขู่ตลอด ให้ย้ายสำนักงาน แต่ตนไม่สนใจ ทำงานไปตามปกติ และไม่คิดว่าคนร้ายจะกล้าบุกทำร้ายถึงในศาล อย่างไรก็ตาม ตนไม่คิดถอนตัวจากคดีต่างๆที่ทำไว้ เพราะทั้งหมดทำด้วยใจ ไม่มีผลประโยชน์แต่อย่างใด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net