วันที่ 17 เม.ย.2551 เมื่อ เวลา 19.00 น.กลุ่มเครือข่ายทิเบตเสรี ซึ่งประกอบด้วย องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน โครงการรณรงค์เพื่อแรงงานไทย กลุ่มสังคมวิจารณ์จุฬากลุ่มประชาธิปไตยแรงงาน กลุ่มศึกษาสังคมประชาธิปไตย ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อประชาธิปไตย รวมทั้งกลุ่มนักศึกษาและประชาชนรักความยุติธรรม ได้ร่วมประชุมวางแผนการประท้วงคบเพลิงโอลิมปิก ที่จะผ่านกรุงเทพฯ ในวันเสาร์ที่ 19 เม.ย.51

อนึ่ง ทางกลุ่มเครือข่ายทิเบตเสรีได้แสดงจุดยืน ไม่สนับสนุนให้รัฐบาลจีนจัดให้มีการวิ่งคบเพลิงผ่านทิเบต และให้รัฐบาลจีนเคารพในการชุมนุมอย่างสงบของชาวทิเบต นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้มีการส่งคณะทำงานเข้าไปตรวจสอบสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในทิเบต เนื่องจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่มีขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รวมทั้งคัดค้านการละเมิดสิทธิและใช้ความกำลังปราบปรามผู้ชุมนุมในทิเบตของรัฐบาลจีน

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในกลุ่มผู้ร่วมประชุมกล่าวว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นไปเพื่อการเรียกร้องสันติภาพ จึงจะชุมนุมกันโดยสันติ นอกจากนี้ตามคำขวัญ "One World One Dream" ของการแข่งโอลิมปิก2008 ทางกลุ่มก็จะใช้คำขวัญเดียวกันเพื่อเสรีภาพของชาวทิเบต

ทั้งนี้ ในวันเดียวกัน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ได้แถลงข่าวการจัดวิ่งคบเพลิงโอลิมปิก 2008 ที่ห้องประชุมศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติว่า การวิ่งคบเพลิงโอลิมปิก ได้ผ่านไปแล้ว 11 เมืองจาก 11 ประเทศทั่วโลก โดยล่าสุดได้มีที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ในวันที่ 17 เม.ย. จากนั้นคบเพลิงจะเดินทางถึงประเทศไทย ที่ท่าอากาศยาน กองบิน 6 ในเวลา 02.45 น. ของวันที่ 18 เม.ย. นำโดยนายจาง เชียง หยู รองประธานคณะกรรมการจัดกีฬาโอลิมปิก 2008 รวมเจ้าหน้าที่ 130 คน จากนั้น เวลา 18.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเสด็จพระราชดำเนินเป็นประธานในงานเลี้ยงต้อนรับคณะวิ่งคบเพลิง ที่ธ.กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่

ส่วนพิธีการวิ่งคบเพลิงนั้น จะมีขึ้นในวันที่ 19 เม.ย. ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เริ่มพิธีเปิดที่ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา บริเวณวงเวียนโอเดียน โดยพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี ขณะที่ผู้วิ่งคบเพลิงมี 80 คน มีผู้วิ่งคนแรกคือ นายอนันต์ ศิริภัสราภรณ์ และน.ส.ปวีณา ทองสุก เป็นคนสุดท้าย มีจุดสิ้นสุดอยู่ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า รวมระยะทาง 10.5 กม.ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 45 นาที

ด้านการรักษาความปลอดภัยนั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ได้มีการประเมินสถานการณ์มาโดยตลอด และมีการปรับแผนการรับมือทุกครั้ง ที่มีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดวิ่งคบเพลิงโอลิมปิก 2008 ในไทย เพื่อใช้ข้อมูลล่าสุด รวมทั้งนำข้อมูลจากเหตุการณ์วุ่นวายที่เมืองต่างๆ อาทิ ลอนดอน ปารีส ซานฟรานซิสโก มาปรับให้เข้ากับแผนในไทย โดยในช่วงเช้าวันวิ่งคบเพลิง คณะกรรมการอำนวยการจัดฯ โดย พล.ต.สนั่น ที่เป็นประธาน ก็จะประชุมสรุปข้อมูลขั้นสุดท้าย เพื่อเตรียมแผนการ ขณะที่การปรับเส้นทางวิ่ง และตัดเส้นทาง ได้มีอยู่ในแผนแล้ว โดย พล.ต.สนั่น เป็นผู้ตัดสินใจ

"เท่าที่สืบทราบมา ยังไม่มีรายงานว่าจะมีการประท้วงรุนแรง ทราบเพียงมีกลุ่มเอ็นจีโอ ประท้วงโดยการสวมเสื้อเหลือง สกรีนข้อความ ฟรีทิเบต จุดเสี่ยงที่สุดอยู่ที่บริเวณ ย่านเยาวราช ราชวงศ์ เพราะมีตรอกซอกซอยเยอะ อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าจะไม่มีเรื่องรุนแรง และได้ระดมกำลังตำรวจ 1,000-2,000 คน รอรับมือ รวมทั้งเตรียมรถขนนักกีฬาและคนสำคัญ หากมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน นอกจากนี้ยังมีเฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ บินสำรวจตลอดการวิ่ง"

พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวด้วยว่าสำหรับมาตรการลงโทษของผู้ที่ประท้วงโดยก่อความไม่สงบ ตามกฎหมาย ไม่มีการลงโทษรุนแรง มีเพียงปรับเงิน เพราะฉะนั้นก็ขอความร่วมมือให้คนไทยทุกคน ร่วมกันสอดส่องดูแล ให้การวิ่งคบเพลิงครั้งนี้ ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวก ด้านการจราจรในการวิ่งคบเพลิงโอลิมปิกว่า ได้มีการสั่งให้ตำรวจนครบาลเป็นกำลังหลักในการรักษาความสงบเรียบร้อย  กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นฝ่ายสนับสนุนและมอบหมายให้ตำรวจสันติบาลติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ที่อาจขัดขวางการวิ่งคบเพลิงในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด เช่น กลุ่มฝ่าหลุนกง กลุ่มเครือข่ายทิเบตเสรี กลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยในจีน ทั้งนี้หากพบมีกลุ่มก่อความวุ่นวายจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันที และหากเป็นบุคคลต่างด้าวจะถูกเพิกถอนสิทธิ์ในการอยู่ในประเทศไทย ส่วนคนต่างด้าวที่ได้รับสัญชาติไทยแล้ว ก็จะถูกเพิกถอนสัญชาติเช่นกัน