Skip to main content
sharethis

สืบเนื่องจากกรณีที่ชาวบ้านบ้านใหม่หนองผึ้ง หมู่ 18 ต.อินทขิล อ.แม่แตง ซึ่งตั้งชุมชนอยู่บนที่ สปก. 4-01 ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจป่าไม้ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตชด. เข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ที่ถือบัตรบุคคลบนพื้นที่สูง และผู้ไม่มีเอกสารแสดงสถานะบุคคลจำนวน 60 คน เมื่อวันที่ 3 เม.ย. นั้น


 


หลังจากนั้นในการประชุมของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมี น.ส.เรืองวรรณ บัวนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 18 เม.. ที่ผ่านมา ได้มีมติให้ผู้ครอบครองที่ดิน สปก.4-01 จำนวน 2 แปลงรวมพื้นที่กว่า 70 ไร่ ได้แก่นางอรทัย รัตนพจน์ และนางกนกรัฐ อึ้งศรีวงศ์ ที่นำที่ดิน สปก.4-01 ไปจัดสรร แบ่งขายให้กับแรงงานข้ามชาติชาวไทใหญ่กว่า 200 แปลง


 


ให้ทั้งสองรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และปรับปรุงพื้นที่ให้อยู่ในสภาพเดิมภายใน 30 วัน หากครบกำหนด ยังไม่ดำเนินการ เจ้าหน้าที่ก็จะเข้าไปรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง พร้อมทั้งเพิกถอนสิทธิ์ การครอบครองที่ดินทั้งหมด นอกจากนั้น ยังได้แจ้งความดำเนินคดีกับแรงงานข้ามชาติที่เข้าไปบุกรุกพื้นที่ ปลูกสร้างบ้านรวมทั้งหมด 177 ราย


 


ตม. เห็นเป็นภัยของชาติ


เมื่อวันที่ 25 เม.. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.กฤษฎ์ เปียแก้ว รอง.ผบก.ศตม. ภาคเหนือ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทาง พ.ต.ต.สิทธา มั่นดี สารวัตรสืบสวน ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงใหม่ นำหลักฐานเป็นภาพถ่าย และเอกสารในการสอบปากคำ พยานกว่า 10 ปาก รวมกว่า 120 หน้า เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ธงชัย ใจบุญ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ให้ดำเนินคดีกับขบวนการขายที่ดิน สปก.4-01 ในหมู่บ้านหนองผึ้งใหม่ หมู่ที่ 18 ตำบลอินทขิล อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ รวมกว่า 70 ไร่ ไปจัดสรรแบ่งล็อกขายให้กับแรงงานต่างด้าว เพื่อปลูกบ้านพักอาศัยแบบถาวรกว่า 200 แปลง รวม 178 ครัวเรือน


 


โดยพ.ต.อ.กฤษฎ์ กล่าวต่อว่า ข้อหาที่แจ้งความ โดยกล่าวหาว่าให้ที่พักอาศัยบุคคลต่างด้าว เอาที่ดินของรัฐไปจัดสรรขายโดยไม่ได้รับอนุญาต และก่อสร้างบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องเป็นเจ้าของที่ดิน สปก. จำนวน 3 ราย อีก 3 ราย เป็นกลุ่มครอบครอง, กลุ่มที่เอื้ออำนวยผลประโยชน์ และกลุ่มคนต่างด้าว รวมถึงผู้ใหญ่บ้าน


 


ทั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวนจะได้ออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำ และแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป นอกจากนั้นยังเห็นควรให้พนักงานสอบสวนดำเนินการเพิกถอนสิทธิการอยู่ในราชอาณาจักรไทยต่อไป


 


สำหรับแรงงานข้ามชาติที่ถือใบสำคัญถิ่นที่อยู่ และบัตรประจำตัวชุมชนบนพื้นที่สูง เนื่องจากเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติและยังเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มีคำสั่งปลดผู้ใหญ่บ้านที่เกี่ยวข้องกับขบวนการขายชาติในการนำที่ดินของรัฐไปขายให้กับแรงงานต่างด้าวด้วย นอกจากนั้นแนวทางสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ยังพบมีการนำที่ดิน สปก.4-01 ในพื้นที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ นำไปจัดสรรแบ่งขายอีกหลายแห่งที่จะต้องดำเนินการต่อไป


 


กรรมการสิทธิระบุชาวบ้านเป็นเหยื่อ ควรเยียวยา


28 เม.ย. 51 - ความคืบหน้าล่าสุด หลังจากที่นายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประชุมหาข้อเท็จจริงและแนวทางแก้ไขปัญหา ร่วมกับกรรมการสิทธิมนุษยชน สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัด และตัวแทนชาวบ้าน พบปัญหาว่าที่ดังกล่าวเป็นที่ดิน สปก.4-01 มีการนำไปใช้ประโยชน์ผิดหลักเกณฑ์ ก็ต้องเพิกถอนสิทธิ กรณีนี้เชื่อว่ามีการทำกันเป็นขบวนการหลอกแรงงานงานชาวไทใหญ่เข้ามาซื้อที่ดิน ซึ่งการดำเนินคดีจะติดตามเอาผิดกับผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด และไม่เห็นด้วยกับการดำเนินคดีกับชาวไทยใหญ่ที่ถูกหลอกให้มาซื้อที่ดิน


 


โดยนางสุนีย์ ไชยรส กรรมการสิทธิมนุษยชน ได้ให้ความเห็นว่าการซื้อขายที่ดิน ส.ป.ก 4-01 เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่ขอร้องไม่ให้ดำเนินคดีกับชาวบ้านกลุ่มที่ถูกหลอก โดยให้กันเป็นพยานในการเอาผิดกับขบวนการหลอกขายที่ดิน สปก. ทั้งนี้ต้องเยียวยากลุ่มชาวบ้านในฐานะที่ตกเป็นเหยื่อด้วย ซึ่งหากเป็นไปได้อยากให้อนุญาตอยู่ในพื้นที่เดิมก่อนจนกว่าการแก้ไขปัญหาจะสิ้นสุด


 


โดยนางสุนีย์กล่าวว่าขณะนี้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากต้องหาเงินประกันตัว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ควรกันตัวชาวบ้านไปเป็นพยาน เนื่องจากเป็นผู้เสียหาย โดยนางสุนีย์ไม่เห็นด้วยกับการจับชาวบ้านเพิ่ม และถ้าเรื่องถึงการส่งฟ้องจะทำให้ชาวบ้านลำบากขึ้นไปอีกทั้งเรื่องทนายและการประกันตัว


 


รวมถึงชาวบ้านที่ไม่มีบัตรแสดงสถานะที่กำลังถูกกักตัวไว้ยังด่านตรวจคนเข้าเมืองจำนวนหนึ่ง โดยนางสุนีย์ได้แสดงความเป็นห่วง ถึงนโยบายของฝ่ายปกครองเกี่ยวกับกรณีนี้ว่าจะทำยังไงต่อ เช่น สมมติว่าถ้าถือว่าชาวบ้านเป็นผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ก็อาจจะต้องมีการหารือให้ชัดเจน ว่าจะส่งพวกเขากลับ หรืออยู่เพื่อดำเนินคดี หรือเป็นผู้เสียหาย เพราะขณะนี้ยังถูกคุมขังไว้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ


 


ส่วนความเห็น นายวรชัย อุทัยรัตน์ หัวหน้าสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ ว่าได้แจ้งเตือนเจ้าของที่ดิน สปก.4-01 ปรับสภาพที่ดินอยู่ในสภาพเดิมภายใน 2 พฤษภาคม 2551 หากไม่ดำเนินการก็จะเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธาน สปก.จังหวัดเพิกถอนสิทธิต่อไป


 


ชาวบ้านเก็บหอมรอมริบด้วยความสุจริต


ทั้งนี้ชุมชนบ้านใหม่หนองผึ้งดังกล่าวตั้งขึ้นในปี 2547 เมื่อเจ้าของที่ สปก. เดิม ที่มีที่ดินแปลงติดกันรวม 3 ราย พื้นที่กว่า 70 ไร่ ต้องการขายสิทธิที่ดิน คนเฝ้าสวนซึ่งเป็นชาวไทใหญ่ ถือบัตรสถานะบุคคลบนพื้นที่สูง (เขียวขอบแดง) จึงขอซื้อต่อ แต่เงินไม่พอจึงพากันชักชวนครอบครัวและญาติพี่น้องช่วยกันซื้อที่ดินคนละแปลงๆ ละประมาณ 80-100 ตารางวา ราคาแปลงละ 20,000 บาท โดยไม่รู้ว่าที่ดิน สปก. ตามกฎหมายข้ามซื้อขาย แบ่งแยก โอนสิทธิ์ และต้องใช้ประโยชน์ด้านเกษตรกรรมเท่านั้น


 


และจากเดิมที่มีชาวบ้านไทใหญ่เข้ามาอาศัยไม่กี่สิบราย ต่อมาก็มีการชักชวนญาติพี่น้องที่เป็นชาวไทใหญ่ด้วยกันซึ่งอาศัยอยู่แถบ ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ซึ่งถือบัตรสถานะบุคคลบนพื้นที่สูง (สีเขียวขอบแดง) และส่วนหนึ่งถือบัตรอนุญาตทำงานแรงงานต่างด้าวมาร่วมซื้อที่ดินเพื่อสร้างที่พักอาศัย


 


จนปัจจุบันชุมชนบ้านใหม่หนองผึ้งมีบ้านกว่า 150 หลังคาเรือน ประชากรกว่า 1,000 คน ส่วนใหญ่ชาวบ้านรับจ้างทำเกษตรกรรมตามฤดูกาล โดยเมื่อปี 2547 ชุมชนแห่งนี้เคยได้รับการแต่งตั้งจากนายสุวัฒน์ ตันติพัฒน์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ ในขณะนั้น ให้เป็นหมู่บ้านชุมชนเข้มแข็งด้วย


 


และเมื่อวันที่ 2 เม.ย. ได้เคยทำหนังสือร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดให้ชะลอการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง แต่ไม่เป็นผล โดยในวันถัดมา สปก. และเจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังเข้าตรวจสอบและจับกุมดังกล่าว


 


…………………………


ข่าวประชาไทย้อนหลัง


ชาวไทใหญ่ร้องจนท.ระงับรื้อถอนชุมชน, ประชาไท, 3 เม.ย. 51


จับทันทีไม่มีเจรจา บ้านใหม่หนองผึ้งร้องระงับการรื้อถอนไม่เป็นผล, ประชาไท, 4 เม.ย. 51


รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ สั่งรื้อชุมชนบ้านใหม่หนองผึ้งภายใน 30 วัน! ประชาไท, 20 เม.ย. 51


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net